กระบะลงดอยอินทนนท์ เสียหลักแหกโค้งชนต้นไม้ ดับคารถ

กระบะลงดอยอินทนนท์ เสียหลักแหกโค้งชนต้นไม้ ดับคารถ เหตุเกิด กม.29-30 ขาลงดอย คาดระบบเบรคไม่พร้อมใช้งาน

วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 น. อำเภอจอมทอง รายงานเหตุ รถยนต์พลิกคว่ำเอง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ว่า วันที่ 30 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 23.50 น. เกิดเหตุรถยนต์ ยี่ห้ออีซูสุ สีเทา ทะเบียน ลำพูน เดิดอุบัติเหตุแหกโค้งพุ่งชนต้นไม้เสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณเส้นทางจอมทอง – อินทนนท์ ฝั่งขาลง ระหว่าง กม.29-30 พื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

มีรายงานเบื้องต้น พบผู้ขับขี่เสียชีวิตติดอยู่ในรถ ทราบชื่อ นายดวงดี อายุ 33 ปี อยู่หมู่ 10 ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ สวมเสื้อแขนสั้น สีน้ำเงินเข้ม ดำ สวมกางเกงขาสั้น สีดำ ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากสภาพทาง ที่เป็นทางโค้งลงเขาลาดชัน เป็นเหตุให้รถเสียหลักจึงชนต้นไม้ข้างทาง และการเบรคห้ามล้ออาจไม่พร้อมใช้งาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานแพทย์เวรตรวจวัดปริมาณ แอลกอฮอล์ในเส้นเลือดด้วยแล้ว

ผาเมืองปะทะขบวนการยานรก พื้นที่บ้านอรุโณทัยยึดยาบ้าได้ 2.4 ล้านเม็ด

กองกำลังผาเมือง ปะทะกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า 2,400,000 เม็ด ในพื้นที่บริเวณเส้นทางหลังหมู่บ้าน บ้านอรุโณทัย ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2567 เวลา 1100 กองกำลังผาเมือง โดย พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พันเอก ไมตรี ศรีสันเทียะ เสนาธิการกองกำลังผาเมือง เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือ, ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงดาว, สถานีตำรวจภูธรนาหวาย และกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 335 ร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและตรวจนับของกลาง พร้อมทั้งชี้แจงให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ

กรณี เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2567 เวลา 05.00 นาฬิกา กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณเส้นทางหลังหมู่บ้าน บ้านอรุโณทัย ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเดินเท้าประมาณ 10 – 15 คน ตามเส้นทางในภูมิประเทศ ลักษณะแบกเป้สะพายหลัง เดินลัดเลาะมาตามเส้นทางในภูมิประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคลดังกล่าวเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดการปะทะกัน ประมาณ 5 นาที ผลการปฏิบัติ ฝ่ายเราปลอดภัย ชุดปฏิบัติการจึงวางกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ และตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ตรวจพบเป็นกระสอบปุ๋ยดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง จำนวน 12 เป้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในกระสอบเป้ จำนวนประมาณเป้ละ 200,000 เม็ด รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,400,000 เม็ด และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ไม่พบร่องรอยของกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ปัจจุบันหน่วยได้นำของกลางทั้งหมดส่ง สถานีตำรวจภูธรนาหวาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สภ.สันทรายจับมือกต.ตร.แจกหมวกกันน๊อค เป็นของขวัญ

เช้าวานนี้ (28 ธ.ค.) เวลา 10:00 น. ที่หน้าสภ.สันทรายมีแจกหมวกกันน๊อคให้กับประชาชนเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

พ.ต.อ.สัมพันธ์ ศิริมา ผกก.สภ.สันทราย พร้อม จนท.ตำรวจ สภ.สันทราย และนายวิทยา พงษ์ศิริ ประธาน กต.ตร.สภ.สันทราย พร้อม กต.ตร. และ ที่ปรึกษากต.ตร.ฯ ร่วมกิจกรรมแจกหมวกกันน็อคให้กับประชาชนก่อนสิ้นปี เพื่อการขับขี่ปลอดภัยในการใช้รถบนท้องถนนและให้เป็นของขวัญ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในย่านนี้มารับหมวกกันเยอะมาก ที่หน้าสภ.สันทราย

ทั้งนี้ทางผกก.สันทรายและประธานกต.ตร.สภ.สันทราย ก็ได้ฝากย้ำถึงพี่น้องประชาชนทั้งหลายว่า ขับรถทุกครั้งขอให้สวมหมวกกันน๊อคด้วย และอย่าได้ประมาทในการขับขี่รถบนท้องถนน รวมถึงผู้ใช้รถยนต์ด้วย

ปีใหม่นี้ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนจงมีความสุข สนุกกับการท่องเที่ยว และขอให้เดินทางปลอดภัยกันทุกคน ด้วยรักและความห่วงใย

ประกบรถยนต์ต้องสงสัยยึดยาบ้า 1,900,000 เม็ด ที่อำเภอแม่อาย

กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช. ปส.) สนธิกำลังกับทหารประกบรถยนต์ต้องสงสัยยึดยาบ้า 1,900,000 เม็ด ในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 27 ธ.ค. 67 เวลา 09.30 น. ที่หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน ผบ.นบ.ยส.35 เปิดเผยว่า จากการเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่แนวขายแดนอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 67 กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. โดย นปส.ฝาง ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้เส้นทาง อ.ฝาง – อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ – อ.แม่สรวย จังหวัดเชียงราย เข้ามายังพื้นที่ตอนใน จึงได้สนธิกำลังร่วมกับ บก.สกัดกั้นที่ 2 นบ.ยส.35, บก.ควบคุม ทพ.ศปก.ทภ.3 และ ร้อย.ตชด.334 ติดตามรถยนต์เป้าหมาย จนกระทั่งเวลา 1400 ตรวจพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จอดทิ้งไว้ บริเวณ ป่าข้างทาง บ.โล๊ะป่าไคร้ ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ (รอยต่อ อ.แม่สรวย จังหวัดเชียงราย) จึงได้เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ

ผลการปฏิบัติ ตรวจพบกระสอบฟาง จำนวน 11 กระสอบ ทิ้งไว้ในป่าข้างทางห่างจากจุดจอดรถประมาณ 500 ม. ภายในกระสอบบรรจุยาบ้าประทับสัญลักษณ์ Y-1 จำนวน 900,000 เม็ด และ 999 จำนวน 1,000,000 เม็ด รวม 1,900,000 เม็ด คนขับรถหลบหนีไปได้ หน่วยจึงได้ตรวจยึดของกลาง และขยายผลต่อไป

สรุปผลกวาดล้างยาเสพติดไตรมาสแรก ยาบ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 ไอซ์พุ่งเกินกว่าร้อยละ 200

ผบ.นบ.ยส.35 แถลงสรุปผลกวาดล้างยาเสพติดไตรมาสแรก พบยาบ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 และไอซ์เพิ่มขึ้นพุ่งเกินกว่าร้อยละ 200 และเคมีภัณฑ์ที่สกัดเป็นสารตั้งต้นชนิดใหม่ 10 กว่าชนิด ที่ต้องเร่งควบคุมในไทย เตรียมคุมเข้มช่วงเทศกาลปีใหม่

วันที่ 25 ธ.ค. 67 เวลา 10.30 น. ที่หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน ผบ.นบ.ยส.35 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทิวาพงษ์ พลูโต ผกก.2 บก.ปส.3, พ.อ.ชาญชัยวัฒน์ เปล่งสันเทียะ เลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 3 สย.2 และนางสาวสุกันยา ใหญ่วงศ์ ผอ.ส่วนประสานพื้นที่ ปปส.ภาค 5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดยาบ้า จำนวน 5,900,000 เม็ด ในพื้นที่บ้านราษฎร์ภักดี ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย และสรุปผลการปฏิบัติงานของ นบ.ยส.35 ไตรมาสที่ 1 (ต.ค. – ธ.ค. 67)

พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน ผบ.นบ.ยส.35 กล่าวว่า จากการบูรณาการด้านการข่าวระหว่าง นบ.ยส.35 ร่วมกับ บช.ปส. ได้ติดตามความเคลื่อนไหว ของกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ในพื้นที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โดยปรากฏข่าวว่าในห้วง วันที่ 20 – 25 ธ.ค.67 กลุ่มเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.เวียงแก่นฯ จะทำการส่งมอบาเสพติดให้ กลุ่มขบวนการฯจากภาคกลาง เพื่อลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในโดยใช้เส้นทาง ภูชี้ฟ้า – บ้านราษฎร์ภักดี ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ต่อมาเมื่อ วันที่ 21 ธ.ค. 67 เวลา 21.00 น. นบ.ยส.35 จึงได้ใช้กำลังติดตามค้นหารถเป้าหมาย กระทั่งลาดตระเวนมาถึงบริเวณบ้านราษฎร์ภักดี ถนนสายภูชี้ฟ้า ได้ตรวจพบกระสอบต้องสงสัยถูกทิ้งกองไว้บริเวณข้างทาง จำนวน 20 กระสอบ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวนทั้งสิ้น 5,900,000 เม็ด ประทับตรา 999 สีน้ำเงิน บนหีบห่อ จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดและส่งมอบให้ สภ.เทิง เพื่อดำเนินคดีต่อไป ขณะเดียวกันยังพบว่า ลักษณะของการลักลอบลำเลียง หีบห่อและตราสัญลักษณ์คล้ายกับที่มีการตรวจยึดได้ที่ จ.ตาก เมื่อเดือนที่ผ่านมา จำนวน 12 ล้านเม็ด เพียงแต่สีหีบห่อจะต่างกันเท่านั้น

พล.ท.กิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าสถานการณ์ยาเสพติดที่เพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดดเกิดจาก ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีการต่อสู้กัน ประกอบกับการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ทั้งการตรวจจับ การปะทะกับขบวนการลักลอบขนยาเสพติด การตรวจยึดยาเสพติด การยึดทรัพย์ และยังมียาเสพติดที่รอทะลักอยู่ตามแนวชายแดนกว่า 37 ล้านเม็ด ซึ่งบางส่วนได้ลักลอบเข้ามาบ้างแล้ว เมื่อมีการถูกยึด ถูกจับกุม ก็ต้องมีการส่งยาเสพติดเข้ามาเพิ่มเพื่อทดแทนส่วนที่หายไป ดังนั้น ในห้วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนั้น ทาง นบ.ยส.35 ซึ่งได้บูรณาการทุกภาคส่วนทั้งตำรวจ ปปส. ฝ่ายปกครอง ในการออกหาข่าวเชิงลึก การสนับสนุนเทคโนโลยีจาก ปปส. เข้ามาเสริมในการตรวจจับ การตั้งจุดสกัดกั้นเพิ่มมากขึ้น การลาดตระเวนที่เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งในเรื่องของด้านโลจิสติกส์ การเดินทางของสถานีขนส่งรถโดยสาร บริษัทรับส่งพัสดุ ก็จะมีการเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น และยังมีรายชื่อรีสอร์ท รายชื่อรถต้องสงสัย กลุ่มขบวนการต่างๆ ไว้อยู่แล้ว หากพบว่ามีรถต้องสงสัยเข้าไปพักในรีสอร์ทหรือตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่เป้าหมาย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำการจับตาดูเป็นกรณีพิเศษ หากพบพฤติกรรมต้องสงสัยก็จะเข้าทำการตรวจสอบและจับกุมทันที และตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ยาเสพติดหมดไปในปี 2568 ทาง นบ.ยส.35 ซึ่งบูรณาการกันทุกภาคส่วน ก็ได้ดำเนินการอย่างเข้มงวดในเรื่องนี้ เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ทะลักเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ

ทั้งนี้ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน นบ.ยส.35 มีผลการสกัดกั้นและปราบปราม ที่สำคัญโดยมีการปะทะกับกลุ่มขบวนการในพื้นที่ชายแดน 9 ครั้ง จับกุมในพื้นที่ตอนใน 52 ครั้ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และ ตาก ตามลำดับ สามารถ ตรวจยึด จับกุม ยาบ้า ได้มากกว่า 61 ล้านเม็ดเศษ, ไอซ์ 2.7 ตันเศษ, เฮโรอีน 140 กิโลกรัม, คีตามีน 802 กิโลกรัม และเคมีภัณฑ์กว่า 800 ตัน จากสถิติการจับกุม เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาในห้วงเวลาเดียวกันพบว่าตรวจยึด ยาบ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 ส่วน ไอซ์ เพิ่มขึ้นเกินกว่า ร้อยละ 200 และการปราบปรามและขยายผล โดยตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรภาค 6 เป็นหน่วยหลักในการรับผิดชอบการปราบปรามและขยายผลในพื้นที่ภาคเหนือ ในห้วง 3 เดือนที่ผ่านมามี การจับกุมที่สำคัญ จำนวน 27 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 27 ราย ทำลายเครือข่ายยาเสพติด รวม 7 เครือข่าย ยึด/อายัดทรัพย์สินประเภทเงินสด บ้าน ที่ดิน เครื่องประดับและอื่นๆ มูลค่ารวมประมาณ 182,842,587 บาท สามารถสอบสวน

สำหรับเคมีภัณฑ์ที่ทำการยึดได้ถึง 800 ตัน ยังพบว่าเป็นเคมีภัณฑ์ที่พบได้ตามท้องตลาดทั่วไปที่ใช้ในด้านการเกษตรและด้านอุตสาหกรรม ถึง 10 กว่าชนิด ขณะนี้ได้แจ้งไปที่ทางกระทรวงยุติธรรมในเรื่องดังกล่าวแล้ว เพื่อจะได้เพิ่มรายชื่อเคมีภัณฑ์เหล่านี้ให้ทางศุลกากรทำการตรวจสอบได้ ซึ่งเคมีภัณฑ์ชนิดใหม่ที่ถูกนำไปสกัดเป็นสารตั้งต้นของยาเสพติดนั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะมาจากประเทศไทย แต่มาจากประเทศเพื่อนบ้านหรือในประเทศอื่นๆ ได้ แต่ในประเทศไทยก็ต้องมีการควบคุมและเพิ่มบัญชีรายชื่อด้วย เพราะเคมีภัณฑ์ดังกล่าว ไม่ได้ผิดกฎหมายและสามารถขนย้ายได้

ตู้ทึบทิ้งรถเผ่น ทิ้งยาบ้าให้ดูต่างหน้า 6 ล้านเม็ด

หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35 )ตั้งจุดตรวจสกัดการลักลอบขนยาในพื้นที่ อ.เทิง จังหวัดเขียงรายยึดยาบ้าถูกทิ้งข้างทาง 6,000,000 เม็ด

22 ธ.ค. 67 พล.ท.สมจริง กอรี รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (รอง ผบ.นบ.ยส.35 ) เปิดเผยว่า จากการเพิ่มมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดอย่างเข้มข้นของหน่วยงานด้านความมั่นคงส่งผลให้ เมื่อ 21 ธ.ค. 67 เวลา 2200 บก.สกัดกั้นที่ 4 นบ.ยส.35 ร่วมกับ บก.ปส.3 บช.ปส., คปส.4 และ ร้อย.ทพ.3105 ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด เส้นทางในพื้นที่ บ.ราษฎร์ภักดี ต.ตับเต่า อ.เทิง จว.ช.ร. ตรวจพบรถกระบะตู้ทึบต้องสงสัยขับเลี่ยงจุดตรวจ จึงได้จัดกำลังไล่ติดตาม และตรวจสอบ

ผลการปฏิบัติ ตรวจพบกระสอบฟาง ถูกทิ้งไว้บริเวณข้างทาง ภายในกระสอบบรรจุยาบ้า จากการตรวจสอบขั้นต้น ประมาณ 6,000,000 เม็ด และติดตามตรวจพบรถกระบะตู้ทึบคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ คนขับรถหลบหนีไปได้ หน่วยจึงได้ตรวจยึดของกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือกล่าวว่ากลุ่มขบวนการยังคงอาศัยช่วงวันหยุดในการลักลอบขนยาเข้าพื้นที่ตอนใน ซึ่งทาง นบ.ยส.35 ยังคงร่วมกับหน่วยงานตำรวจและฝ่ายปกครองวางมาตรการเข้มข้นขั้นสูงสุด เพื่อยังยั้งการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เชิญสิ่งของพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี มอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธาน และ นายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โปรดให้ นายแพทย์เติมพงศ์ พ่อค้า ผู้ช่วยผู้อํานวยการ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เชิญถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 500 ชุด กระเป๋านักเรียน 500 ใบ และ กระเป๋ายาพระราชทาน จำนวน 200 ชุด มอบให้แก่ราษฎร ผู้ประสบอุทกภัย ที่ลานอเนกประสงค์ เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวรายงาน สถานการณ์อุทกภัย ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำปิง และ น้ำกวงล้นตลิ่ง ตั้งแต่ วันที่ 9 กันยายน ถึง วันที่ 8 ตุลาคม 2567 ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน เรือกสวนไร่นา ทั้งหมด 23 อำเภอ 151 ตำบล 1,157 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 147,400 ครัวเรือน รวม 342,613 คน ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยรวม 16 ราย ปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว กอปรกับทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมฟื้นฟูในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง

โอกาสนี้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้ออกหน่วยแพทย์พระราชทาน เพื่อสนองพระปณิธาน สืบสาน รักษา และ ต่อยอด ในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ราษฎร ผู้ประสบอุทกภัย ที่เจ็บป่วย โดยตรวจรักษาโรคทั่วไป เพื่อให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งต่างรู้สึกปลื้มปิติ และ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

จากนั้นคณะได้นำถุงยังชีพพระราชทาน,กระเป๋ายาพระราชทาน และ สิ่งของเครื่องใช้จำเป็น มอบให้แก่ผู้ป่วยติดเตียง และ ผู้สูงอายุ ที่ประสบอุทกภัย ภายในบ้านพักใน ตำบลฟ้าฮ่าม จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายสุพิน ทับสาร อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 104/16 หมู่ 3,นางสาวสุกัญญา กัณฑะวงษ์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/6 หมู่ 3 และ นางอัมพร สมปวง อายุ 86 ปี บ้านเลขที่ 96/1 หมู่ 3 เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ แก่ผู้ป่วยติดเตียง ที่ประสบอุทกภัย

อบจ.เชียงใหม่ มอบ 10 ล้าน สู้ไฟป่าและฝุ่นควัน ปกป้องลมหายใจให้ห่างไกลจาก PM 2.5

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้าสู้ปัญหาไฟป่า และ ฝุ่นควัน มอบงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ให้ใช้ในการบริหารจัดการแก้ปัญหาไฟป่า และ ฝุ่นควันของจังหวัดเชียงใหม่ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ปกป้องลมหายใจให้ห่างไกลจาก PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน

ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกัน ลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนงบประมาณดำเนินการควบคุมไฟป่า และ ฝุ่นควัน ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดสรรงบประมาณสิบล้านเก้าแสนเก้าหมื่นบาท ให้แก่มูลนิธิป้องกัน และ แก้ไขปัญหาไฟป่า และ ฝุ่นควัน เพื่อนำไปจัดกิจกรรม ที่เกี่ยวข้องกับ การป้องกัน และ แก้ไขปัญหาไฟป่า ในรูปแบบการส่งเสริม การมีส่วนร่วม ของประชาชนใน 727 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้าน แนวเขตเฝ้าระวังไฟป่า ใน 24 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ การทำแนวกันไฟ การตั้งหน่วยปฏิบัติการดับไฟป่า การออกลาดตระเวน การให้ความรู้แก่ชุมชน เพื่อป้องกันผลกระทบ ที่เกิดต่อสุขภาพ ของประชาชน

จากนั้นมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การป้องกัน และ แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ ฝุ่นละออง จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และ ภาคีเครือข่าย ภาคประชาชน ซึ่งมี 15 หน่วยงาน ที่แสดงเจตนารมณ์ ในการร่วมมือป้องกัน และ แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ ฝุ่นละออง รวมทั้งสนับสนุน แนวทางการบริหาร จัดการเชื้อเพลิง เพื่อสร้างระบบกองทุนงบประมาณ โดยชุมชนนำไปสู่ การจัดการไฟป่า และ ทรัพยากรธรรรมชาติ อย่างยั่งยืน

โดยการขับเคลื่อน มาตรการอากาศสะอาด เชียงใหม่ ปี 2568 ภายใต้แนวคิด ร่วมมือกัน เพื่อสร้างอากาศสะอาด Collaboration to create clean air ที่ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ การป้องกัน และ ลดการเกิดไฟป่า และ มลพิษ ที่ต้นทาง จากแหล่งกำเนิด,การลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน,การบริหารจัดการ และ กลไกการทำงานร่วมกัน และ การสร้างความยั่งยืน ต่อจากนั้น ได้มีพิธีเปิด War Room ศูนย์อำนวยการป้องกัน และ แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ ฝุ่นละออง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ด้านหน้า อาคารหอประชุม สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการมอบเครื่องมือ อุปกรณ์ ให้กับตัวแทนเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานควบคุม และ ดับไฟป่า ให้นำไปใช้งาน ด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่า ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม ต่อไป

ปตท.มอบแก้ว MAGICAL CUP เป็นของขวัญสำหรับแจกงานเด็ก แพทยศาสตร์ มช.

ผศ. อาคม ตันตระกูล ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิคณะแพทยศาสตร์ และ รศ.นพ.ณัฐพงศ์ โฆษชุนหนันท์ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. รับมอบแก้ว MAGICAL CUP จำนวน 540 ชุด เพื่อมอบเป็นของขวัญสำหรับแจกงานเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ซึ่งจัดโดยคณะแพทยศาสตร์ มช.จากผู้ แทนบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ณ ร้าน Cafe Amazon สาขาคณะแพทยศาสตร์ มช.

เข้มชายแดนเหนือ ปฏิบัติงานเชิงรุกในทุกมิติก่อนหยุดยาวเทศกาลปีใหม่

หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (รอง ผบ.นบ.ยส.35 ) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยด้านปรามปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดตากและจังหวัดแม่ฮ่องสอน หวังปฏิบัติงานเชิงรุกในทุกมิติก่อนหยุดยาวเทศกาลปีใหม่

เมื่อ 17 ธ.ค. 67 เวลา 0900 พล.ท.สมจริง กอรี รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (รอง ผบ.นบ.ยส.35 ) เปิดเผยว่า พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน ผบ.นบ.ยส.35 มอบหมายให้นำคณะตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ หน่วยด้านปรามปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดตากและจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะ ร้อย.ร.421 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ที่ ท่าข้ามสินค้าที่ 28 บ้านช่องแคบ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จังหวัดตาก โดยมีนายสราวุธ ภักดี ผอ.ปปส. ภาค 6 ร่วมให้ข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในพื้นที่

รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (รอง ผบ.นบ.ยส.35 ) กล่าวว่าจากประเด็นเส้นเขตแดนไทย – เมียนมาในพื้นที่การวางกำลังของกองกำลังว้า โดยเฉพาะด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ จังหวัดเชียงใหม่บางส่วน ทำให้พื้นที่เหล่านี้มีการเข้มงวดในเรื่องของมาตรการเฝ้าตรวจเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้กลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ชะลอความพยายามในการลำเลียงยาเสพติดบางส่วน และมีการเปลี่ยนเส้นทางการนำเข้าไปยังด้าน อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ , จังหวัดเชียงราย และ สปป.ลาว เพิ่มมากขึ้น

จากสถานการณ์ด้านการข่าว พบว่ายาเสพติดยังคงพักคอยอยู่ตามแนวชายแดนในปริมาณมากเช่นเดิม แต่รูปแบบการลำเลียงมีความหลากหลาย โดยเฉพาะการลำเลียงผ่านระบบขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ยานพาหนะที่มีการดัดแปลง รวมถึง การซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะช่วงของเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภาคเหนือ รวมทั้งจากการตรวจยึดเคมีภัณฑ์ควบคุมจำนวนมาก ในพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นสิ่งบอกเหตุได้ชัดเจนว่ากลุ่มผู้ผลิตยังคงมีความต้องการเคมีภัณฑ์เหล่านี้ นำไปใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด ทั้งนี้ที่ผ่านมา นบ.ยส.35 จึงได้ร่วมกับ ปปส. ภาค 5 และภาค 6 เพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจและสกัดกั้นให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะการลาดตระเวนตามแนวชายแดน การตั้งจุดตรวจระหว่างอำเภอเป้าหมาย ตลอดจนการอาศัยการข่าวจากหน่วยความมั่นคง เพื่อสกัดกั้นกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดไว้ ณ พื้นที่ชายแดนให้มากที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นและปราบปรามของหน่วยตั้งแต่ 1 ต.ค. 67 – 16 ธ.ค.67 มีเหตุการณ์สำคัญ 44 เหตุการณ์ เกิดการปะทะ 9 ครั้ง ตรวจยึด/จับกุม 35 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่และจังหวัดตาก จับกุมยาบ้า 47 ล้านเม็ด, ไอซ์ 2,357 กก., เฮโรอีน 140 กก., เคตามีน 802.86 กก.ผู้ต้องหา 45 คน เปรียบเทียบในห้วงเวลาเดียวกัน มียาบ้าเพิ่มขึ้น 11 ล้านเม็ด คิดเป็นร้อยละ 23.95 ไอซ์ เพิ่มขึ้น 1,593 กก.คิดเป็นร้อยละ 208.6