ผู้เขียน: editor6

ประธานปราชญ์ความมั่นคง จ.เชียงใหม่ พร้อมคณะปราชญ์ชุมชนบ้านป่าสักน้อย ต.เชิงดอย ต้อนรับและเป็นวิทยากรให้ความรู้คณฯครู นักเรียนรร.ดาราวิทยาลัย

เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2568 เวลา 08.30 น. ที่ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ กองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวโสรัตยา บัวชุม ประธานปราชญ์ความมั่นคง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะปราชญ์ชุมชนบ้านป่าสักน้อย ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมต้อนรับและเป็นวิทยากรให้ คณะครู และนักเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ แผนการเรียนภาษาอังกฤษ-ญี่ปุ่น โดยมีครูประจำชั้น นางสาวสุรีย์รัตน์ เหลืองศิริ ครูประจำชั้นร่วม ม.4 โดยได้ร่วมการบรรยายดังหัวข้อดังนี้ 1.เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยนับตั้งแต่ พ.ศ. 2517 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ถูกใช้เป็นกรอบแนวความคิดและทิศทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจมหภาคของไทย ซึ่งบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน

โดย น.ส.โสรัตยา บัวชุม ประธานปราชญ์ความมั่นคงระดับจังหวัดเชียงใหม่ 2.ผักเชียงดาพารวย ผักพื้นบ้าน และเป็นพืชเศรษฐกิจแบบพอเพียงบ้านป่าสักน้อย ซึ่งหมู่บ้านป่าสักน้อย ได้มีการบริหารจัดการแบบครบวงจร ต้นน้ำ คือการปลูก กลางน้ำ คือการแปรรูป ปลายน้ำ คือการตลาด โดย น.ส.โสรัตยา บัวชุม ประธานปราชญ์ความมั่นคงระดับจังหวัดเชียงใหม่ 3.บรรยายสอนสาธิต และฝึกปฏิบัติจริง การทำสลัดโรลเชียงดา โดย นางเหรียญทอง เมืองจันทร์ ประธานพัฒนาสตรีตำบลชิงดอย ร่วมด้วยการบรรยายสาธิตและฝึกปฏิบัติจริงการตัดตุงไส้หมู โดยนางปัทมา ถาวรพันธุ์ ปราชญชาวบ้าน ร่วมด้วยการบรรยายสาธิตและฝึกปฏิบัติจริงการทำผ้ามัดย้อม โดยนางศุภักษร ก้อนศิลา ครู กศน.ตำบลเชิงดอย

เทศนาธรรมและพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดสุนทรศิริคืนวันพุธที่ 15 มกราคม 2568 โครงการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานนิสิตเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปีการศึกษา 2568 ของพระนิสิตระดับปริญญา ชั้นปีที่ 3 ในกิจกรรม “เดินธรรมยาตรา ภาวนาเพื่อชุมชน ยกย่องครูบาศรีวิชัย เป็นบุคคลสำคัญของโลก” ได้จัดพิธีเทศนาธรรมและพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีธรรม โดยได้รับความเมตตาธรรมจากพระครูธีรสุตพจน์, ดร. เจ้าอาวาสวัดผาลาด ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหาร มาแสดงพระธรรมเทศนา และประธานฝ่ายสงฆ์พิจารณาผ้าป่า โดยมีคณะศิษยานุศิษย์ คณะศรัทธาวัดสุนทรศิริ พร้อมด้วยชาวบ้าน แม่ก๊ะใต้ มาร่วมรับฟังพระธรรมเทศนาเป็นจำนวนมาก ณ วัดสุนทรศิริ (แม่ก๊ะใต้) ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่.

“เดินธรรมยาตราภาวนาเพื่อชุมชนยกย่องครูบาศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก”

เมื่อวันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 โครงการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานนิสิตเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปีการศึกษา 2567 ของพระนิสิตระดับปริญญา ชั้นปีที่ 3 ในกิจกรรม “เดินธรรมยาตรา ภาวนาเพื่อชุมชน ยกย่องครูบาศรีวิชัย เป็นบุคคลสำคัญของโลก” นำโดยพระครูสิริบรมธาตุพิทักษ์,ผศ.ดร. รองอธิการบดีวิทยาเขตเชียงใหม่ พระครูธีรสุตพจน์,ดร. รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร พระครูใบฏีกาทิพย์พนากรณ์ ชยาภินนฺโท,ดร.ผู้อำนวยการสำนักวิชาการ บุคลากร มจร วิทยาเขตเชียงใหม่ พร้อมด้วยพระวิปัสสนาจารย์ นำพระนิสิตผู้ปฏิบัติเดินธรรมยาตราจาก บริษัทเชียงใหม่ศิลาดล ถึงวัดสุนทรศิริ (แม่ก๊ะใต้) โดยสวัสดิภาพ

ในเวลา 18.30 น. โดยมีพระใบฎีกา มงคล สติสมฺปนฺโน เจ้าอาวาสวัดสุนทรศิริ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยคณะศรัทธา ถวายน้ำปานะ ให้กับพระนิสิต หลังจากนั้นพระครูพิทักษ์อรัญวัตร รองเจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด ได้ให้โอวาทแด่พระนิสิต ท้ายที่สุดพระวิปัสสนาจารย์ได้นำพระนิสิตเจริญพระพุทธมนต์ ณ อาคารปฏิบัติธรรมพระพรหมมงคล อนุสรณ์ (หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล) วัดสุนทรศิริ (แม่ก๊ะใต้) ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่.

อบต.ทาเหนือ จัดกิจกรรมวันเด็ก

เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 นายนิกร เต๋จ๊ะแยง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทาเหนือ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน อ่านสาสน์ วันเด็กของนายกรัฐมนตรี กิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ 2568 ขององค์การบริหารส่วนตำบลทาเหนือ มีกิจกรรม เล่นเกม แจกอุปกรณ์การเรียน ขนม ให้กับเด็กๆที่มาร่วมงาน มีผู้ปกครอง นำนักเรียน ร่วมงานเป็นจำนวนมากณ ณ ลานองค์การบริหารส่วนตำบลทาเหนือ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่.

อบต.แม่สา จัดกิจกรรม “วันเด็ก 68”

เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สา อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 นายประเสริฐศักดิ์ บุตรสา ปลัดอาวุโสอำเภอแม่ริม เป็นประธานกล่าวเปิด อ่านสาสน์ วันเด็กของนายกรัฐมนตรี โดยมี นายสมทบ นันทเสน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สา กล่าวรายงาน ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมซุปเปอร์ฮีโร่จิตอาสาเชียงใหม่ มีผู้ปกครอง นักเรียน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงานเป็นจำนวนมาก ณ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สา ตำบลแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่.

ประกอบพิธีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชสมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งราชวงศ์จักรี

เมื่อวันอังคารที่ 2568 มกราคม พุทธศักราช 2568 พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ.ดร.อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประธานประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568 โดยมีพระครูสิริบรมธาตุพิทักษ์, ผศ.ดร. รองอธิการบดี วิทยาเขตเชียงใหม่ นำคณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และพระนิสิต เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง โดยมอบหมายให้รองศาสตราจารย์ ดร.อภิรมย์ สีดาคำ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป เปิดกรวยและถวายบังคมหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ โดมเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนนั้น คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร ทั้งวิทยาเขต และวิทยาลัยสงฆ์ ร่วมกันกล่าวถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์.

พิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา และทำบุญตักบาตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 เจ้าเจือจันทร์ ณ เชียงใหม่ ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาล้านนาสู่สากล ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานประกอบพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ , , ศาสนาคริสต์ ,ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568 และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 73 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ณ ห้องนิทรรศการ 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่.

ประธานกองทุนแม่ฯ ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินดินหนุนเสริม ความเข้มแข็งหมู่บ้าน/ชุมชนฯ

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. นางณิชพลัฏฐ์ วรรณคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมาย นางสาวอัมพร ไชยโย ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินหนุนเสริมความเข้มแข็งหมู่บ้าน/ชุมชน สู่การเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากยาเสพติด โดยมีนายสว่าง ธาตุอินทร์จันทร์ ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงใหม่ และประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน 8 จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) พร้อมด้วยคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ฯเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างพลังเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน เป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เสริมสร้างบทบาทของเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัด/อำเภอ ในการใช้พลังชุมชนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ซึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินหนุนเสริมความเข้มแข็งหมู่บ้าน/ชุมชน สู่การเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากยาเสพติด กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย คณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน ระดับจังหวัด/อำเภอ จำนวน 50 คน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 มกราคม 2568 ณ ศูนย์แสดง จำหน่าย และกระจายสินค้า OTOP จังหวัดเชียงใหม่ (ข่วงสันกำแพง).

เลือกตั้ง “นายกเล็กทน.เชียงใหม่ 68” ดุเดือดเผ็ดมันส์ ไม่แพ้ศึกชิง “นายกอบจ.” เชื่อสิ

ศึกชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงใหม่กำลังเข้มข้นในขณะนี้ ใครได้ 1 ก.พ.68 ก็รู้ผล “ใครจะอยู่หรือใครจะไป” แต่ที่กระแสแรงไม่แพ้กัน ก็ศึกชิงชัย “นายกเล็กเจดีย์ขาว” ที่ทางกลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ดัน “น้องหยก ปนันรัตน์” คนรุ่นใหม่ ท้าชิงบ้านใหญ่ “ตระกูลบูรณุปกรณ์” ประกาศบริหารพัฒนาเมืองเชียงใหม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด น้อง “หยก” ปนันรัตน์ วิริยะกุลศานต์ เตรียมพร้อมชิงเก้าอี้นายกเล็กเชียงใหม่ ดึงคนรุ่นใหม่ไฟแรงพัฒนาเมืองเชียงใหม่ ให้เปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ตามคอนเซ็ปต์ ทำงานสร้างสรรค์ เพื่อเชียงใหม่ “ใหม่” และ “ใหญ่” กว่าเดิม

“ทน.เชียงใหม่” ที่ผ่านมามีนายกเทศมนตรี คือ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ โดยมีพื้นที่รับผิดชอบ 40.216 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 14 ตำบล ความรับผิดชอบครอบคลุม แขวง 4 แขวง “แขวงนครพิงค์ แขวงกาวิละ แขวงเม็งรายและแขวงศรีวิชัย”

เป็นที่ต้องจับตา “ศึกสองขั้วการเมืองท้องถิ่น” ที่เตรียมขุนพล ลงชิงทั้งเก้าอี้นายก – สท.4 แขวง “น้องหยก – ปนันรัตน์ วิริยะกุลศานต์” ดาวรุ่งฟอร์มสดคนรุ่นใหม่แกะกล่อง กับอีกขั้วการเมืองท้องถิ่นที่ชัดเจน คือกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมที่มี “อัศนีย์ บูรณุปกรณ์” ที่นั่งเป็นนายกฯ พร้อมป้องกันตำแหน่ง กับสนามเลือกตั้งตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่กลางปี 68

แต่ว่าอะไรที่ว่าแน่ๆ ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะฉบับคนรุ่นใหม่ยุคสมัย “มันเปลี่ยนไป” อะไรๆก็ย่อม “เกิดขึ้นได้ในด้านการเมือง” อุบัติเหตุทางการเมืองที่เคยเกิดขึ้นกับ “ตระกูลบู” ซึ่งบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เคยปราชัยในเก้าอี้นายกนครเชียงใหม่ให้กับ “ดร.แป้ง – เดือนเต็ม ณ เชียงใหม่” มาแล้วครึ่งหนึ่ง

การเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งครบวาระวันที่ 27 มีนาคม “น้องหยก” ถือว่าเป็นน้องใหม่ทางการเมือง ที่กำลังโดดเด่นทางด้านการทำงานด้านการเมืองตามแบบฉบับของคนรุ่นใหม่ และมีวิสัยทัศน์ทางการเมือง เข้าใจในกระบวนการแก้ไขปัญหาให้กับท้องถิ่น ด้วยประสบการณ์ของการลงทำกิจกรรมในพื้นที่ในสังคม ชุมชนต่างๆและเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในตอนนี้ นอกจากนี้ยังมีทีมงานที่มีประสบการณ์พร้อมครบทั้ง 4 แขวง คอยสนับสนุน

เลือกตั้ง “นายกเทศมนตรีเชียงใหม่” กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่ เป็นอย่างมากยิ่งตอนนี้มีการโยกย้าย “เปลี่ยนขั้ว” กันอย่างอุตลุด “นครเชียงใหม่” ถือเป็นพื้นที่ที่มีการแย่งชิงคะแนนเสียงกันอย่างดุเดือด กระแสของการ “ย้ายคน ย้ายค่าย” ไล่ต้อนหัวคะแนน ตั้งแต่ ประธานชุมชน อสม. และกลุ่มเครือข่ายต่างๆ “สงครามแย่งคน” จะบังเกิดขึ้นชนิดที่ว่าจะต้องพละกำลัง กันอย่างมหาศาล พร้อมปัจจัยรอบด้าน เพื่อกวาดต้อนคะแนนเสียงในระดับคีย์แมนของแต่ละ “โซน” ให้ได้มากที่สุด อะไรย่อมเกิดขึ้นได้เสมอๆ จงอย่าได้กระพริบตา.

เชฟจากทีมหมู่บ้านสร้างดาว คว้ารางวัล “สุดยอดเชฟสร้างสรรค์ อาหารเหนือ” โดยเชฟชุมชน (Local Chef) ในงานมหกรรม ตามรอยชิม วิถีถิ่นอาหารภาคเหนือ (North Food Tourism) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 12 มกราคม 2568 ณ One Nimman เชียงใหม่

นายกฤษณะ พินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานมอบรางวัลในการแข่งขัน “สุดยอดเชฟสร้างสรรค์ อาหารเหนือ” โดยเชฟชุมชน (Local Chef) ในงานมหกรรม ตามรอยชิม วิถีถิ่นอาหารภาคเหนือ (North Food Tourism) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 12 มกราคม 2568 ณ One Nimman เชียงใหม่

การแข่งขันครั้งนี้ กำหนดให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันประกอบอาหารโดยใช้ “ผักเชียงดา” ผักพื้นถิ่นของภาคเหนือ เป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหาร และได้รับเกียรติจาก เชฟเสาวกิจ ปรีเปรม นายกสมาพันธ์เชฟประเทศไทย และทีมเชฟ จากสมาพันธ์ ฯ มาเป็นคณะกรรมการตัดสิน ซึ่งทีมชนะเลิศได้แก่ “ทีมหมู่บ้านสร้างดาว” ประกอบด้วย นายจิรฐา ภูหัดสวน และนายนรางกูล บุญปั๋น ด้วยเมนูชื่อว่า ” เหนือ เหนือ” ประกอบด้วย ปลาหิมะทอด ผัดมะเขือยาวราดซอสผักเชียงดา และอาหารไฮไลท์คือ น้ำยำทอดกรอบ ทานคู่กับยำถั่วพลู คว้าโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมประกาศเกียรติคุณ สำหรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่
“ทีมมิตรแท้ลำหนา” ในเมนูชื่อ “เชียงดาวาไรตี้” และ “ทีม NT ติดดาว” ในเมนูชื่อว่า “ริสโต้ไก่เมือง” ได้รับโล่รางวัล ประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัลจำนวน 20,000 บาท และ 15,000 บาท ตามลำดับ และรางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ “ทีมใบเหมี้ยงกฤษณา ณ ป่าเหมี้ยง ” และ “ทีม Klay”

นอกจากนี้ ยังมีรางวัลเมนูยอดนิยมประจำวัน ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาชิมอาหารจากการแข่งขันและให้คะแนน โดยรางวัลเมนูยอดนิยมประจำวันที่ 11 และ 12 มกราคม 2568 ได้แก่ “ทีม ตุ้ม & วิว” และ “ทีมหมู่บ้านสร้างดาว” ได้รับเงินรางวัลจำนวน 5,000 บาท สำหรับ รางวัล Display หรือจัดแต่งอาหารยอดเยี่ยม ได้แก่ “ทีม NT ติดดาว” ได้รับเงินรางวัลจำนวน 5,000 บาท

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม “มหกรรมตามรอยชิม วิถีถิ่นอาหารภาคเหนือ (North Food Tourism)” ภายใต้โครงการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีล้านนา (Lanna Health and Wellness Tourism) ครั้งนี้
สะท้อนถึงความเป็นมาของสังคมและวัฒนธรรมด้านอาหารท้องถิ่นที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้เดินทางเข้ามาเยี่ยมเยือนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมและอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมด้านอาหาร และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสู่การท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง.