“โสรัตยา บัวชุม” กำนันตำบลเชิงดอยร่วมโล่เชิดชูเกียรติฯ

นางสาวโสรัตยา บัวชุมกำนันตำบลเชิงดอยร่วมโล่เชิดชูเกียรติให้แก่ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงาน กปร. สนองพระราชดำริสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. เป็นประธานในพิธีมอบโล่พร้อมเกียรติบัตร ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปี 2567 ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ให้การต้อนรับ

โดยศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ของนางสาวโสรัตยา บัวชุม ได้รับองค์ความรู้จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ จนสามารถนำไปประกอบอาชีพจนเกิดผลสำเร็จ มีความพร้อมในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ให้บุคคลทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ จนได้เข้ารับโล่เชิดชูเกียรติในครั้งนี้ โดยมีศูนย์เรียนรู้ จำนวน 80 แห่ง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย
1. ประชาชนทั่วไป จำนวน 43 แห่ง
2. ภาครัฐ จำนวน 7 แห่ง
3. สถานศึกษา จำนวน 27 แห่ง
4. ชุมชน จำนวน 3 แห่ง ที่เข้าร่วมรับ โล่พร้อมเกียรติบัตร ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปี 2567 ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่.

(มีคลิป) ครั้งแรกในไทย “ทอดผ้าป่าสลิปธนาคาร” โรงเรียนบ้านดอนปิน “ยอดแสนแปด” สมาคมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่

ครั้งแรกในไทย “ทอดผ้าป่าสลิปธนาคาร” โรงเรียนบ้านดอนปิน “ยอดแสนแปด” สมาคมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่

ฮือฮาทอดผ้าป่าสลิปเงินธนาคารระดมทุนช่วยโรงเรียนบ้านดอนปิน ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากมีการบอกบุญให้กับผู้มีจิตกุศลผ่านโลกโซเชี่ยล ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ไกลไม่สามารถมาร่วมงานบุญได้จึงโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร สมาคมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ พร้อมแนบสลิปเงินยืนยันส่งมาทางโซเชี่ยลก่อนที่จะปรินท์สลิปเงินมาเสียบไว้กับต้นผ้าป่านำขึ้นรถแห่ทำบุญที่โรงเรียนสุดทึ่งยอดการโอนเงินร่วมทำบุญทะลุ 1 แสน 3 หมื่นบาท ยอดการร่วมทำบุญทั้งหมด 1 แสน 8 หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.67 ชาวบ้านบ้านดอนปิน ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ ต่างพาร่วมทำบุญผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนในการปรับปรุงอาคารเรียนชั่วคราวให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านดอนปิน รวมถึงการรื้อถอนอาคารรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2516 ซึ่งมีนักเรียน เรียนอยู่ที่อาคารหลังดังกล่าว 4 ชั้นเรียน ซึ่งทางโรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ แทนอาคารเรียนหลังดังกล่าวแต่ทางโรงเรียน ไม่มีงบประมาณในการรื้อถอนอาคารหลังดังกล่าว และปรับปรุงห้องเรียนชั่วคราวให้นักเรียน 4 ชั้นเรียน ที่ใช้อาคารหลังดังกล่าวเรียนหนังสือ

หลังจากนั้นชาวบ้านได้ร่วมกันแห่ขบวนผ้าป่าจากที่ทำการสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ บ้านดอนปิน ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ ไปทอดถวายที่ โรงเรียนบ้านดอนปิน ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ ของครู ผู้ปกครองนักเรียนและชาวบ้านที่มาร่วมงาน ขณะที่ผ้าป่ากองนี้แปลกแหวกแนว เพราะนอกจากจะมีต้นผ้าป่าที่มีธนบัตรเงินสดที่ชาวบ้านนำมาร่วมกันทำบุญเหมือนกันผ้าป่าสามัคคีที่เห็นกันทั่วไป ยังมีกองผ้าป่าแบบไร้เงินสดที่เต็มไปด้วยสลิปหลักฐานการโอนเงินใช้แทนเงินสด เรียกว่าเป็นผ้าป่ายุคใหม่ที่มีไอเดียที่ไม่เหมือนใคร

ด้านนายกิตติศักดิ์ เวียงทองธนโชติ ที่ปรึกษาสมาคมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ เปิดเผยว่าตนเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนบ้านดอนปิน ส่วนคุณพ่อก็เคยเป็นคุณครูสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ เมื่อโรงเรียนต้องการความช่วยเหลือในการรื้อถอนอาคารเรียนหลังเดิมแต่ไม่มีงบประมาณในการรื้อถอนอาคารเรียนหลังดังกล่าวจึงปรึกษากับกรรมการบริหารสมาคมฯ ประสานไปยังผู้บริหารโรงเรียนบ้านดอนปิน ตั้งกองผ้าป่าในนาม สมาคมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ โดยมีการบอกบุญผ่านโลกโซเชี่ยล ทำให้ผู้ที่มีจิตกุศลหลายรายที่อยู่ไกลไม่สะดวกเดินทางมาร่วมงาน จึงทำบุญด้วยการโอนเงินผ่านผ่านบัญชีธนาคาร สมาคมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ พร้อมกับแนบสลิปส่งกลับมาเพื่อยืนยัน จึงได้มีการปรินท์สลิปการโอนเงินมาเสียบกับต้นผ้าป่านำไปถวายที่โรงเรียนร่วมกับผ้าป่ากองอื่นของชาวบ้านส่วนเงินที่ชาวบ้านร่วมทำบุญผ่านบัญชีธนาคารสมาคมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ ทางสมาคมฯ ได้โอนเข้าบัญชีธนาคารของโรงเรียนบ้านดอนปินรวมเงินทั้งหมด 131,714 บาท ส่วนยอดเงินทำบุญผ้าป่าครั้งนี้รวมเป็นเงินทั้งหมด 180,245 บาท นำไปถวายในงานผ้าป่าสามัคคีเพื่อให้โรงเรียนนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์

ขณะที่นายชีวัน อนัญญาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดอนปิน เปิดเผยว่า โรงเรียนดอนปินก่อตั้งมาแล้ว 86 ปี ปีนี้โรงเรียนได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนทดแทนอาคารหลังเดิมที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2516 และใช้งานมานานกว่า 51 ปี ทำให้มีสภาพทรุดโทรมไม่มีความปลอดภัย ต้องปิดการใช้งานห้องเรียนด้านบนอาคารแต่ยังมีนักเรียน 4 ห้องยังเรียนที่ชั้นล่างของอาคารหลังดังกล่าว แต่เนื่องจากยังขาดงบประมาณในการรื้อถอนอาคารหลังเดิม ซึ่งขณะที่มีการรื้อถอนอาคารเรียนทางโรงเรียนต้องจัดหาห้องเรียนชั่วคราวให้กับนักเรียน 4 ห้องเรียน จึงต้องหางบประมาณในการรื้อถอนอาคารเรียนหลังเดิมและปรับปรุงอาคารเรียนชั่วคราวให้กับนักเรียนทั้ง 4 ห้อง ซึ่งตามแผนการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ จะใช้ระยะเวลานานถึง 2 ปี ประกอบกับในปีนี้โรงเรียนบ้านดอนปินได้รับผลกระทบจากอุทกภัย อาคารเรียน หนังสือเรียน และอุปกรณ์การเรียน สื่อการเรียนการสอน ได้รับความเสียหาย ทางโรงเรียนจึงทำกิจกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อระดมทุนในการรื้อถอนพร้อม ๆ กับการฟื้นฟูซ่อมแซมโรงเรียน

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดอนปิน กล่าวเพอิ่มเติมว่า อาคารหลังใหม่ที่จะสร้างขึ้นอาคาร 4 ชั้น จำนวน 18 ห้องเรียน เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนและยังมีความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้นักเรียนสามารถเรียนได้อย่างมีความสุข อีกทั้งยังให้มีสถานที่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้น.

พิธีฉลองสมโภชสมณศักดิ์ “พระครูพิศิษฐ์ปทุมวัฒน์”

พิธีฉลองสมโภชสมณศักดิ์ “พระครูพิศิษฐ์ปทุมวัฒน์”

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 เวลา 09.39 น.พิธีฉลองสมโภชสมณศักดิ์ (พัดยศ) ในโอกาสเลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ “พระครูพิศิษฐ์ปทุมวัฒน์” ตำแหน่ง พระครูเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก เป็น พระครูเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ มีพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๗ พระเดชพระคุณพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พระเดชพระคุณพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน พระเดชพระคุณพระเทพสิงหวราจารย์,ดร.รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมพระสังฆาธิการ เจริญชัยมงคลคาถา นายชลิตย์ ทิพย์คำ นายอำเภอหางดง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ข้าราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ณ วัดหนองบัว ปทุมสราราม ตำบลหนองตอง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่.

ตรวจสอบความพร้อมงานปอยหลวง มจร เชียงใหม่

ตรวจสอบความพร้อมงานปอยหลวง มจร เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 พระครูสิริบรมธาตุพิทักษ์, ผศ.ดร. รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ มอบหมายให้พระครูใบฎีกาทิพย์พนากรณ์ ชยาภินนฺโท, ดร. ผู้อำนวยการสำนักวิชาการ และนายอรรถวุฒิ จันทร์แทน รองผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาเขตเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณาจารย์และบุคลากร เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัย ให้การต้อนรับพระครูพิทักษ์อรัญวัตร รองเจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด ประธานคณะกรรมการตรวจสอบความเรียบร้อยการจัดงานทำบุญปอยหลวงอำเภอดอยสะเก็ด พร้อมด้วยคณะสงฆ์อำเภอดอยสะเก็ด และนายณัฐกร ชุ่มอินทรจักร ปลัดอำเภอดอยสะเก็ด ผู้แทนนายอำเภอดอยสะเก็ด ในโอกาสที่มาตรวจเยี่ยมการจัดเตรียมความพร้อมการทำบุญปอยหลวงของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ เนื่องในโอกาสฉลองวันครบรอบสถาปนา ๔๐ ปี และฉลองสิ่งปลูกสร้างที่ใช้จัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย รวมงบประมาณทุกรายการทั้งสิ้น 101,200,000 บาท ระหว่างวันที่ 19 – 21 ธันวาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่.

โรงเรียนแม่วิน ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

โรงเรียนแม่วิน ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 โรงเรียนแม่วินสามัคคี นำโดยนายนิเวศน์ เต๋จา ผู้อำนวยการโรงเรียน นำผู้บริหาร คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และ วันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2567 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ณ สนามโรงเรียนแม่วินสามัคคี ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่.

กิจกรรม NCU ทำเพื่อสังคม

กิจกรรม NCU ทำเพื่อสังคม

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน และวันที่ 1 ธันวาคม 2567 นักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ท – เชียงใหม่ เข้าร่วมโครงการซ่อม-สร้าง ห้องน้ำและที่พักอาศัยให้กลุ่มเปราะบาง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำกิจกรรม “Workshop การปูกระเบื้องและการติดตั้งสุขภัณฑ์ เบื้องต้น” โดยมี นางสาวภรภัทร คำวังพฤกษ์ เจ้าหน้าที่สำนักกิจการนักศึกษานำทีม ณ ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาช่างฝีมือบุญถาวร เชียงใหม่ (สวนธรรมบุญถาวร) อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และ ลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ณ พื้นที่ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่.

นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2567 นางจุไร ชำนาญ นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะกรรมการ สมาชิก ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

มจร.วิทยาเขตเชียงใหม่ ร่วมพิธีถวายพานพุ่ม 5 ธันวาคม 2567

มจร.วิทยาเขตเชียงใหม่ ร่วมพิธีถวายพานพุ่ม 5 ธันวาคม 2567

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2567 ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ นำโดยรศ.ดร.อภิรมย์ สีดาคำ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป ร่วมพิธีถวายพานพุ่มดอกไม้ถวายบังคมเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

วัดพันอ้น ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

วัดพันอ้น ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2567 พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น อำเภอเมืองเชียงใหม่ นำพระภิกษุ สามเณร ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และ วันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2567 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ มีประชาชนร่วมพิธี อย่างพร้อมเพรียงกัน ณ วัดพันอ้น ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

สอท. ร่วมกับ กสทช. จับคอลเซ็นเตอร์จีนเทาตลอบฝังตัวเช่ารีสอร์ทหรูเชียงใหม่ ตั้งฐานหลอกลวงเหยื่อ

สอท. ร่วมกับ กสทช. จับคอลเซ็นเตอร์จีนเทาตลอบฝังตัวเช่ารีสอร์ทหรูเชียงใหม่ ตั้งฐานหลอกลวงเหยื่อ

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.67 เวลา 15.00 น.ทพล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ , นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการ เลขาธิการ กสทช., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รักษาราชการแทน ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. และ เจ้าหน้าที่ กสทช. ร่วมแถลงผลการจับกุมบุคคลต่างด้าวลอบตั้งฐานคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย หลังตำรวจร่วมมือกับ กสทช. ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตในหลายพื้นที่ ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานเข้ามายังประเทศไทยเพื่อใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงและเสถียรกว่าฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโทรหลอกลวงเหยื่อคนไทย การจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาข่าว กระทั่งพบรีสอร์ทแห่งนี้ ตั้งอยู่ใน อ.หางดง จว.เชียงใหม่ ซึ่งได้ปิดการให้บริการไปในช่วงสถานการณ์โควิด 19 แต่กลับมีการให้เช่ารีสอร์ททั้งรีสอร์ท โดยไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าพัก และมีคนต่างชาติเข้าออกสถานที่ดังกล่าวอย่างผิดสังเกต ชุดสืบสวนจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม และประสานเจ้าหน้าที่ กสทช. ตรวจสอบข้อมูลการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วยเครื่องมือพิเศษ พบว่ามีปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปริมาณสูงผิดปกติ ไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้เข้าพัก อาจมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้ขอหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจค้น ผลจากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้กระทำผิด พร้อมด้วยของกลางเป็นจำนวนมาก

พล.ต.อ.ณัฐธรฯ กล่าวว่า ในห้วงหลายเดือนที่ผ่าน กสทช. ได้ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กวดขันจับกุม ซิม เสาสัญญาณ, สถานีโทรคมนาคม และสายเคเบิลข้ามแดนผิดกฎหมาย ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์บางส่วนจำเป็นต้องย้ายเข้ามาตั้งฐานในประเทศไทย การจับกุมนี้ครั้ง ถือเป็นทำงานร่วมกันกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ควบคู่กับการปรับปรุงกฎหมาย และระเบียบต่างๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ถือ เป็นความผิดฐานรบกวนหรือขัดขวางต่อการวิทยุโทรคมนาคม อันเป็นความผิด ตาม ม.26 แห่ง พ.ร.บ.วิทยุโทรคมนาคม พ.ศ.2498 ซึ่งต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสน บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ฯ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายปราบปรามแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. 4 ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคเหนือ ได้สืบสวนการกระผิดในพื้นที่ จนกระทั่งพบรีสอร์ทเป้าหมายใน ต.บ้านปง อ.หางดง จว.เชียงใหม่ ซึ่งเคยปิดให้บริการช่วงโควิด ไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าพัก แต่มีชาวต่างชาติเข้าออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งผิดปกติ ชุดสืบสวนจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม และประสานเจ้าหน้าที่ กสทช. ตรวจสอบข้อมูลการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตด้วยเครื่องมือพิเศษของ กสทช. พบว่ามีปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปริมาณสูงผิดปกติ ไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้เข้าพัก คาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา และขอหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่เข้าทำการตรวจค้น โดยพบว่า ผู้ต้องหาชาวจีนแอบลักลอบใช้อินเทอร์เน็ตของร้านกาแฟข้างๆ ปิดบังการใช้สัญญาณของคอลเซ็นเตอร์ เชื่อมโยงกับแก็งค์ที่อยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดยพบคนต่างชาติ สัญชาติจีน 9 คน ตรวจยึดอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้เป็นจำนวนมาก จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี โดยจะได้ขยายผลถึงผู้บงการเพื่อปราบปรามให้สิ้นซากต่อไป

ทั้งนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนว่า หากพบเห็นสถานที่แห่งใด มีความผิดปกติ เช่นเคยร้างไป แต่กลับมีคนเข้าออกอย่างผิดปกติ หรือมีการใช้น้ำ ใช้ไฟฟ้า หรือขอใช้อินเทอร์เน็ตมากผิดปกติ สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โทร.191 หรือ กสทช. 1200 ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าตรวจสอบ ป้องกันมิให้คนร้ายเข้ามาตั้งฐานหลอกลวงคนไทยต่อไป.