ถวายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 7 ที่นั่ง

ถวายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 7 ที่นั่ง

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2567 พระครูโอภาสปัญญาคม รองเจ้าคณะอำเภอสะเมิง เจ้าอาวาสวัดดับภัย เชียงใหม่ เป็นประธานรับมอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 7 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 6ฝ 5094 กรุงเทพมหานคร ซึ่งนายกันตภณ พิเกณฑ์ พร้อมคณะมหาวิทยาลัยรามคำแหงร่วมการถวาย ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ วัดดับภัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

ประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ระดับ เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ พระเลขานุการทุกตำแหน่ง และผู้ที่เกี่ยวข้องครั้งที่ 3/2567

ประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ระดับ เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด
เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ พระเลขานุการทุกตำแหน่ง และผู้ที่เกี่ยวข้องครั้งที่ 3/2567

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 เวลา 13.00 น.พระเดชพระคุณพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน พระอารามหลวง เป็นประธานประชุม พร้อมรองเจ้าคณะทั้ง 5 รูป เจ้าคณะอำเภอทั้ง 25 อำเภอ ประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ระดับ เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ พระเลขานุการทุกตำแหน่ง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 3/2567 พร้อมมอบตราตั้งเจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ตราตั้งผู้อุปถุมภ์พุทธมณฑลเชียงใหม่ มีวาระสำคัญ เรื่อง ความคืบหน้าส่งบัญชีสำรวจ พระภิกษุ สามเณร ศิษย์วัด ประจำปีพุทธศักราช 2567 การอัปโหลดสมัครสอบนักธรรมและธรรมศึกษา ประจำปีพุทธศักราช 2567 แต่งตั้งคณะกรรมการคุมสอบนักธรรมชั้น ตรี-โท-เอก และธรรมศึกษาชั้น ตรี-โท-เอก การเตรียมความพร้อมสมัครสอบบาลีและบาลีศึกษา ประจำปีพุทธศักราช 2567 เรื่อง รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายการเผยแผ่ (พระเทพสิงหวราจารย์, ดร.) รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายการสาธารณูปการ (พระราชโพธิวรคุณ, ดร.) รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายการศาสนศึกษา (พระราชรัชมุนี) เรื่อง รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายการศึกษาสงเคราะห์ (พระสุวรรณเมธี, ดร.) รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายการสาธารณสงเคราะห์ (พระวิมลมุนี, ดร.) รายงานและประชาสัมพันธ์งานเจ้าคณะอำเภอต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เรื่อง เจ้าคณะอำเภอจำนวน 25 อำเภอ เรื่อง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ นางอารีย์ พันธ์จันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ การขอจัดตั้งมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดเชียงใหม่ ระเบียบมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการจัดการที่ดินแทนวัด พ.ศ. 2567 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ปิดประชุมเวลา 16.00 น.

ถวายอาคารสำนักงานพุทธมณฑลจังหวัดเชียงใหม่ และอาคารหอประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ (หอประชุมเล็ก)

ถวายอาคารสำนักงานพุทธมณฑลจังหวัดเชียงใหม่ และอาคารหอประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ (หอประชุมเล็ก)

เมื่อวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13.00 น. พระครูอมรธรรมทัต และคณะศรัทธาวัดพันอ้น อำเภอเมืองเชียงใหม่ สร้างถวาย อาคารสำนักงานพุทธมณฑลจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1 หลัง และอาคารหอประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ (หอประชุมเล็ก ) จำนวน 1 หลัง รวมวัสดุ ครุภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ไอที (วงจรปิด) สิ้นทุนทรัพย์ทั้งหมด 10,359,900.00 บาท (สิบล้านสามแสนห้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยบาทถ้วน) โดยมี พระเดชพระคุณพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน พระอารามหลวง เป็นประธานรับ พร้อมรองเจ้าคณะทั้ง 5 รูป เจ้าคณะอำเภอทั้ง 25 อำเภอ ในการประชุม คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ระดับ เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ พระเลขานุการทุกตำแหน่ง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 3/2567 ณ หอประชุมพุทธมณฑลคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่.

(มีคลิป) อว. จัดเวที Vision Talk สร้างแรงบันดาลใจ เชียงใหม่

อว. จัดเวที Vision Talk สร้างแรงบันดาลใจ เชียงใหม่ จากความสำเร็จในการจัดงาน Vision Talk ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา นักศึกษาให้การตอบรับดีมาก เข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม นายศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเวทีทอล์คครั้งที่ 4 ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษาภาคเหนือ

เมื่อวันที่ 26 ส.ค.67 ที่อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสถานีข่าว Top News นำโดย นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ที่ปรึกษาด้านพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยมี ผศ.ดร.ชนม์เจริญ แสวงรัตน์ ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยผู้ประกาศข่าวท็อปนิวส์ นายธีระ ธัญไพบูลย์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน , นายศิรวิฑย์ ชัยเกษม และนางสาวพรสวรรค์ จารุพันธ์ เข้าร่วมงานสัมมนาเชิงการเรียนรู้ Vision Talk 2024 ครั้งที่ 4 “สร้างโอกาสการเรียนรู้ สู่ความสำเร็จ” เปิดเวทีสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในภาคเหนือ เข้าร่วมกว่า 400 คน

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักตั้งแต่ทางเข้างาน มีจุดถ่ายรูป Photo Booth ให้ได้ร่วมสนุกแปลงโฉมหน้าตัวเองด้วยนวัตกรรม AI และด้านในห้องประชุมมีการแสดงดนตรีสุดครื้นเครง จากนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วง Full Sun และวงเพอะ ที่เป็นวงดนตรีชาวเหนือที่กำลังฮิตบนโลกออนไลน์ ได้มาร่วมสร้างบรรยากาศภายในงานนอกจากนี้เวทีนี้ได้รับเกียรติพิเศษจาก CEO แบรนด์ไทย 2 ท่าน ท่านแรกคือ “แท็บ” นายรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ,ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิชชั่น ทู เดอะมูน มีเดีย จำกัด เป็นผู้ที่รีแบรนด์ศรีจันทร์ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง การปลุกปั้นแบรนด์ศรีจันทร์ ให้กลายเป็นเครื่องสำอางค์คนไทยที่ดังไกลระดับโลกนายรวิศ กล่าวว่า บทเรียนจากความเชื่อเดิมที่ว่า ‘ถ้าสินค้าดี ลูกค้าก็ต้องซื้อ’ แต่หลังจากที่ลองผิดลองถูก ทำให้ทราบว่าเราควรต้องคุยกับลูกค้าเยอะๆ อย่าคิดเองว่าลูกค้าจะชอบอะไร ต้องทำการบ้านเยอะๆ อย่านั่งประชุมกันเองแล้วคิดว่าสินค้าน่าจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า แบบนี้เจ๊งแน่นอน ปัจจุบันจึงอาศัยทฤษฎี Circuit Breaker เปรียบเสมือนค่าที่เราตั้งไว้ที่ทำให้เราขี้กลัว เราควรจะต้องฝึกให้ตัวเองขี้กลัวน้อยลง กล้าทำอะไรใหม่ๆ ฝึกทำอะไรก็ได้ที่ไม่สบายกายสบายใจ ฝึกเผื่อวันหนี่งเมื่อต้องตัดสินใจกับเหตุการณ์ใหญ่ๆ จะทำให้คุณไม่กลัวและพร้อมกระโดดข้ามเหวนั้นไปขณะที่

“เก่ง” นายธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด พูดในหัวข้อเรียนรู้อยู่เป็นเห็นโอกาส ฉบับ CEO ที่แชร์มุมมองการใช้ชีวิต รวมถึงแชร์ประสบการณ์การทำธุรกิจ ว่าทำอย่างไรให้สินค้าติดตลาด และโกอินเตอร์ได้นายธีระพงศ์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะทำธุรกิจ หรือทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้ารู้จักการออม เหมือนออมเงินในกระปุก ต้องมีวินัยและอดทน เหมือนกับหงส์ไทยที่อดทนรอ รอผลสำเร็จของการออม ในเส้นทางที่เรียนรู้แบบไม่รู้ จากการทำธุรกิจรอบที่ 1 ไม่สำเร็จ เพราะไม่มีประสบการณ์ในความคิดและวางแผน , พอทำรอบที่ 2 เริ่มเห็นผล แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาตีราคาในตลาด อีกทั้งยังไม่ถึงแก่นแท้ของคุณภาพ สุดท้ายกลับมาทำรอบที่ 3 จึงพบกับจิกซอว์สำคัญ คือ คุณภาพ ที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อ เราจึงผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ และพัฒนาต่ออย่างไม่หยุดยั้ง

สำหรับกิจกรรม Vision Talk ครั้งที่ 4 ต้องขอขอบคุณ “กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” ที่สร้างโอกาสดีๆในการเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าอนาคตของชาติต่อไป.

(มีคลิป) “พล.ต.ท.ประจวบฯ” ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญตำรวจในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.น่าน กำชับดูแลพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

“พล.ต.ท.ประจวบฯ” ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญตำรวจในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.น่าน กำชับดูแลพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจเยี่ยม พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญและเงินช่วยเหลือให้กับข้าราชการตำรวจในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ณ ลานอเนกประสงค์ ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน (ภ.จว.น่าน) โดยมี พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก.ภ.จว.น่าน , พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี รอง ผบก.ภ.จว.น่าน ให้การต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.น่าน , สภ.เมืองน่าน และ ร้อย ตชด.324 จำนวน 60 นาย รับการตรวจเยี่ยมและรับมอบสิ่งของบำรุงขวัญ

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า ตามนโยบาย ผบ.ตร.ที่ได้สั่งการด่วนที่สุดให้ตำรวจทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทุกภัย ทำให้มีฝนตกต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลเอาใจใส่บำรุงขวัญ และช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว วันนี้จึงได้มาตรวจเยี่ยมพร้อมมอบเงินและสิ่งของบำรุงขวัญให้กับข้าราชการตำรวจหน่วยต่างๆ ในพื้นที่ พร้อมให้ทุกหน่วยเร่งสำรวจความเสียหายของสถานที่เพื่อของบประมาณดำเนินการซ่อมแซมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน การจัดระบบการจราจรในพื้นที่ที่ประสบภัยและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยขอให้ดูแลพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดสายด่วนให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งหมายเลขสายด่วน 191 , 1599 , สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง.

(มีคลิป) ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ พร้อม หน.ฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 1 รุดตรวจดูประตูระบายน้ำและอาคารควบคุมด้านท้ายน้ำ

ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ พร้อม หน.ฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 1 รุดตรวจดูประตูระบายน้ำและอาคารควบคุมด้านท้ายน้ำ มีน้ำล้นสันฝาย 10 ซม.ที่ฝายดอยน้อย ในขณะที่ ปตร.แม่สอย เปิดบาน 10 บาน ระบายน้ำลงสู่เขื่อนภูมิพล เพื่อป้องกันบรรเทาอุทกภัยในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ด้านฝายวังปานเปิดประตูระบายน้ำ 4 บาน ลดระดับแม่น้ำปิงให้น้ำลี้ไหลลงมาได้ป้องกันน้ำท่วมบ้านโฮ่ง ป่าซาง เวียงหนองลอง จ.ลำพูน

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 67 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายจิรชัย พัฒนพงศา หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบประตูระบายน้ำและอาคารควบคุมที่ประตูระบายน้ำดอยน้อย และประตูระบายน้ำแม่สอย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำของจังหวัดเชียงใหม่ และตรวจสอบปริมาณน้ำในระดับแม่น้ำปิง เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นตรวจสอบความพร้อมการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันบรรเทาอุทกภัยในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบประตูระบายน้ำและอาคารควบคุมสามารถใช้การได้ปกติและสภาวะแม่น้ำปิงก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ด้าน นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำปิงที่ประตูระบายน้ำดอยน้อย ปัจจุบันการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ตอนล่างในอัตรา 185 ลบ.ม.ต่อวินาที ได้มีการเปิดบานระบาย 2 ช่องบาน บาน 4 เมตร 1 บาน และ 2 เมตร 1 บาน ปัจจุบันระดับน้ำด้านหน้าฝายมีความสูงกว่าสันฝายอยู่ประมาณ 10 เซนติเมตร สถานการณ์ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งประตูระบายน้ำดอยน้อยจะช่วยระบายน้ำในเขตเมืองเชียงใหม่ น้ำปิงตอนบน ตลอดจนลำน้ำทา ลำน้ำแม่กวง ตลอดจนลำน้ำขาน ที่มารวมกันก่อนถึงประตูรระบายน้ำดอยน้อย น้ำที่ระบายไปก็จะช่วยให้ด้านบนนั้นสามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น เป็นการลดระดับน้ำแล้วเพิ่มช่องว่าง ให้แม่น้ำปิงสามารถรองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน ที่คาดว่าภายใน 1 – 2 วันนี้ยังมีฝนตก และยังเป็นการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันบรรเทาอุทกภัยในเขตจังหวัดเชียงใหม่

ขณะเดียวกันประตูระบายน้ำแม่สอย เป็นประตูระบายน้ำตัวสุดท้ายก่อนลงทะเลสาบเขื่อนภูมิพล ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ปริมาณไหลผ่านประตูระบายน้ำ 280 ลบ.ม.ต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ ขณะนี้โครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้รักษาระดับน้ำบริเวณหน้าประตูให้ต่ำกว่าระดับปกติ ซึ่งระดับปกติคือ 7 – 7.50 เมตร ปัจจุบันรักษาระดับน้ำไว้ไม่เกิน 6.50 เมตร เพื่อช่วยในเรื่องของการระบายน้ำจากพื้นที่ตอนบน ประตูระบายน้ำแห่งนี้สามารถช่วยเหลือพื้นที่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทางพื้นที่ตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอสันป่าตอง อำเภอจอมทอง และอำเภอดอยหล่อ อีกส่วนก็เป็นของจังหวัดลำพูน ได้แก่ อำเภอป่าซาง อำเภอลี้ อำเภอบ้านโฮ่ง และอำเภอเวียงหนองล่อง ซึ่งมวนน้ำแห่งนี้ก็รับมวลน้ำจากลำน้ำลี้ ลำน้ำทา ตลอดจนลำน้ำในเขตฝั่งขวาของแม่น้ำปิง ลำน้ำขาน และลำน้ำแม่กลางจากดอยอินทนนท์ ปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ สามารถควบคุมได้ ซึ่งประตูระบายน้ำแม่สอยแห่งนี้มีประตูระบยน้ำทั้งหมด 10 ช่องบาน กว้าง 8 เมตร สูง 7 เมตร ในขณะนี้ได้มีการระบายน้ำทุกช่องบาน บานละ 70 เซนติเมตร ซึ่งประตูระบายน้ำแห่งนี้สามารถระบายน้ำได้สูงสุด 1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็นการเปิดทุกช่องบานพ้นน้ำ โดยในปี 2565 เคยเปิดเกือบถึงก็คือเปิดอัตราไหลผ่านไปที่ 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที ก็สามารถระบายน้ำได้และไม่มีผลกระทบต่อด้านท้ายน้ำที่เป็นเขื่อนภูมิพล และอยู่ห่างจากประตูระบายน้ำแห่งนี้ประมาณ 20 กิโลเมตร

นายจิรชัย พัฒนพงศา หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 1 กล่าวว่า สำหรับฝายวังปาน ปัจจุบันมีระดับน้ำล้นสันฝายอยู่ที่ 41 เซนติเมตร ได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด 4 บาน มีน้ำระบายลงท้ายน้ำอยู่ที่ 222 ลบ.ม.ต่อวินาที สถานการณ์ในภาพรวมยังอยู่ในสภาวะปกติ การบริหารจัดการก็ได้มีการติดตามสถานการณ์ทางด้านเหนือน้ำ ตั้งแต่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล ฝายแม่ปิงเก่า ฝายหนองสลีก และฝายวังปาน เพื่อจะนำมาปรับการบริหารจัดการน้ำให้อย่างเหมาะสม สำหรับฤดูฝนนั้น ทางฝายวังปานก็จะเร่งรระบยาน้ำในแม่น้ำปิงให้ลดลงได้ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำปิง นอกจากนั้น เมื่อน้ำปิงมีระดับต่ำก็จะทำให้แม่น้ำลี้ ไหลออกมาสู่แม่น้ำปิงได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดอุทกภัยในพื้นที่อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอป่าซาง และอำเภอเวียงหนองล่อง.

ประชุมที่ปรึกษากรรมการวัดใหม่ห้วยทราย

ประชุมที่ปรึกษากรรมการวัดใหม่ห้วยทราย

วันที่ 24 สิงหาคม2567 พระอธิการบุญเป้ง ปิยธมฺโม เจ้าอาวาสวัดใหม่ห้วยทราย เป็นประธานประชุมที่ปรึกษากรรมการ, กรรมการวัดใหม่ห้วยทราย เรื่องการทำช่อฟ้าใบระกาหอธรรม การถมที่ด้านทิศตะวันตกข้างกำแพงใหม่ การแบ่งงานให้คณะกรรมการชุดใหม่รับผิดชอบ (โรงครัว ศาลาบำเพ็ญกุศล) การคัดเลือกประธาน รองประธาน เลขานุการ กรรมการวัด ได้นางสารภี มูละจงกล เป็นประธานกรรมการวัดใหม่ห้วยทรายคนใหม่ โดยมีที่ปรึกษากรรมการ, กรรมการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ณ ศาลาดวงดี – คำปัน ชื่นมงคล วัดใหม่ห้วยทราย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

พช.เชียงใหม่ นำคณะกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเข้าเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเป็นองค์ประธานในงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567 “2 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”

พช.เชียงใหม่ นำคณะกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเข้าเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเป็นองค์ประธานในงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567 “2 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงเป็นองค์ประธาน งานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567 และทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

โอกาสนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กราบบังคมทูล ความว่า “กองทุนแม่ของแผ่นดินเกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยปัญหายาเสพติดในประเทศไทย จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ แก่เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 ด้วยมีพระราชประสงค์ให้ราษฎรในหมู่บ้านและในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจัดตั้งเป็น “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” ตั้งแต่ปี 2547 มาจนถึงปัจจุบัน ปี 2567 เป็นปีที่กองทุนแม่ของแผ่นดินครบวาระ 20 ปี การดำเนินโครงการได้รับความร่วมมือ ร่วมใจ เสียสละจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องด้วยดีมาโดยตลอด มีหมู่บ้านและชุมชนที่เข้าร่วมเป็นกองทุนแม่ของแผ่นดินรวมจำนวน 27,560 แห่ง มีการจัดพิธีพระราชทานเงินขวัญถุงให้แก่หมู่บ้านชุมชนทุกปี เพื่อเป็นสิริมงคลและขวัญกำลังใจในการระดมกำลังเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน โดยในปี 2567 มีหมู่บ้านชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินเข้ารับพระราชทานเงินขวัญถุง จำนวน 1,087 แห่ง กองทุนแม่ของแผ่นดินเปรียบเสมือนน้ำพระราชหฤทัยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระราชทานแก่พระศพนิกรตลอดระยะเวลา 20 ปี เหล่าสมาชิกหมู่บ้านชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินทุกแห่งล้วนมุ่งมั่น ตั้งใจ สร้างครอบครัวให้อบอุ่น รวมพลังสร้างหมู่บ้านชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหายาเสพติด บนแนวทางสันติวิธีด้วยการให้อภัย ให้โอกาส ช่วยเหลือประคับประคอง พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้สามารถหลุดพ้นจากปัญหายาเสพติด และสร้างสังคมที่ปลอดภัยได้อย่างยั่งยืน” จากนั้น พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กราบบังคมทูลเบิกผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้ารับเข้ารับพระราชทานเงินขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567 จำนวน 75 ท่าน ตามลำดับ

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเงินขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน ตามลำดับ เสร็จแล้วพระราชทานพระราชดำรัส ความว่า “ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดินในวันนี้ การจัดงานในปีนี้ นับว่าเป็นโอกาสพิเศษ เพราะเป็นวาระที่โครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ดำเนินงานมาครบ 20 ปี ข้าพเจ้าจึงขอแสดงความยินดี และความชื่นชมที่ท่านทั้งหลายมุ่งมั่นตั้งใจ ปฏิบัติงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองพระราชปณิธาน ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทำให้เห็นได้ว่าปัญหายาเสพติดนั้น แม้เป็นปัญหาใหญ่ ที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง แต่ถ้าทุกคน ทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกัน สร้างสรรค์สังคมที่เต็มไปด้วยความเมตตาปราณี และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้นแล้ว ก็จะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยป้องกันและแก้ปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ปฏิบัติงานทุกคน และสมาชิกชุมชนทุกแห่งทั่วประเทศจะมีกำลังใจ และร่วมมือร่วมงานกันให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้แก่สังคม และชาติบ้านเมืองสืบไป ขออำนวยพรให้ทุกท่าน มีความสุขความเจริญ และความสำเร็จสมประสงค์ในสิ่งที่ดีงามจงทั่วกัน”

ต่อมาเสด็จฯ ไปยังบริเวณจัดนิทรรศการฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงกังวลพระราชหฤทัยต่อการแพร่ระบาดของยาเสพติด จึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์แก่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อขจัดปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน นับเนื่องเป็นเวลา 2 ทศวรรษ จากวันแรกที่ทรงเริ่มต้นจวบจนปัจจุบันมีหมู่บ้านชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินกระจายอยู่ทั่วประเทศ ได้ร่วมกันเสริมสร้างสถาบันครอบครัวให้อบอุ่นชุมชนเข้มแข็งพ้นจากภัยปัญหายาเสพติด

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด แนวพระราชดำริ สมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการปฎิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เพื่อประโยชน์สุขของอาณาราษฎรทุกหมู่เหล่า และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ในการทรงงานตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ทั้งยังทรงมุ่งมั่นสานต่อโครงการศิลปชีพและงานศิลปะสาขาต่างๆ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้วางรากฐานการพัฒนานี้ไว้ โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการหมู่บ้านชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินจากพื้นที่ต่างๆ ทั้ง 4 ภาค อาทิ ภาคเหนือ “บ้านห้วยน้ำเย็น” อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่กลุ่มสตรีในชุมชนด้วยการจัดตั้งกลุ่มอาชีพตามทักษะ เช่น การตัดเย็บตุ๊กตา การปักผ้า ให้มีรายได้สามารถจุนเจือครอบครัว ภาคกลางบ้านแหลมทอง อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ส่งเสริมเยาวชนต้นกล้าให้มีส่วนร่วมสำคัญในการป้องกันยาเสพติดในกิจกรรมต่างๆ อาทิ การฝึกอบรมทักษะวิชาชีพหลังเลิกเรียน เช่น การทำปุ๋ยหมัก การปลูกพืชผักสวนครัว การประดิษฐ์ของใช้จากผักตบชวา การส่งเสริมให้ทำสาธารณะประโยชน์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านโคกไม้งาม อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น สนับสนุนอาชีพให้กับผู้ผ่านการบำบัด เช่น จัดการโครงการอบรมให้ความรู้เรื่องยาเสพติด โครงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โครงการปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีรายได้ ลดการกลับไปเสพซ้ำ ภาคใต้บ้านนากลาง อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชนตามหลักบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) โดยมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทาง อาชีพ และรายได้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ห่างไกลจากการเข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เช่น สมุนไพรแช่เท้า ผ้ามัดย้อมสีหูกวาง และกรุงเทพมหานคร ชุมชนเคหะธนบุรี 1 เขตบางขุนเทียน เสริมสร้างความเข้มแข็งในสถาบันครอบครัว โดยการพัฒนาเยาวชนในพื้นที่ได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น งานศิลปะการแสดง พร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มสตรีในชุมชน ได้แก่ งานประดิษฐ์ งานผ้า การสอนทำอาหาร เพื่อให้สมาชิกในชุมชนได้มีอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ในการนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางณิชพลัฏฐ์ วรรณคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวอัมพร ไชยโย ผูู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน นายสว่าง ธาตุอินทร์จันทร์ ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจ.เชียงใหม่/ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน8 จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) นำคณะผู้แทนหมู่บ้าน/ชุมชน กองทุนทุนแม่ของแผ่นดินจากจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 32 หมู่บ้าน/ชุมชน ร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ ในครั้งนี้ด้วย.

“พระครูปลัดวิเชียร” เลขารองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่

“พระครูปลัดวิเชียร” เลขารองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 ณ วัดวังสิงห์คำ ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พระเดชพระคุณ พระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานมอบคำสั่งรองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่ 01/2567 เรื่อง แต่งตั้ง แต่งตั้งเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่อาศัยอำนาจตามความในข้อ 20 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 แต่งตั้งให้ พระครูปลัดวิเชียร ฉายา วชิรปญฺโญ นามสกุล พิยศ อายุ 47 พรรษา 27 วิทยฐานะ น.ธ.เอก,พธ.บ.วัดวังสิงห์คำ ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ มีหน้าที่ทำการเลขานุการ สั่ง ณ วันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2567.

“อาจารย์พยุงศักดิ์” เจ้าคณะตำบลป่าแดด

“อาจารย์พยุงศักดิ์” เจ้าคณะตำบลป่าแดด

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 ณ วัดวังสิงห์คำ ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พระเดชพระคุณ พระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานมอบคำสั่งเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่ 01/2567 เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าคณะตำบลป่าแดด ด้วยพระครูวิสิฐศีลาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดวังสิงห์คำ เจ้าคณะตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่ง รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นเหตุให้ตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลว่างลง อาศัยอำนาจตามความในข้อ 26 วรรค 1 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๓ (พ.ศ.2541) ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ (ฉบับที่ 2 พ.ศ.2535) จึงแต่งตั้งให้ พระครูปลัดนันทวัฒน์ ฉายา ธีรธมฺโม นามสกุล คำภีระ อายุ 46 พรรษา 26 วิทยฐานะ น.ธ.เอก ,ศาสนศาสตร์บัณฑิต วัดป่าแดด ตำบลป่าป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าแดด เป็นผู้รักษาการเจ้าคณะตำบลป่าแดด มีอำนาจหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ตาม ข้อ 26 วรรค 3 แห่งกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่กล่าวมาแล้ว สั่ง ณ วันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2567.