เชียงใหม่รีพอร์ต » กรมสุขภาพจิต ระดมทีม MCATT เร่งฟื้นฟูสุขภาพใจ-กาย ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย บูรณาการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ ผ่าน VDO Call

กรมสุขภาพจิต ระดมทีม MCATT เร่งฟื้นฟูสุขภาพใจ-กาย ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย บูรณาการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ ผ่าน VDO Call

24 กันยายน 2024
49   0

Spread the love

กรมสุขภาพจิต ระดมทีม MCATT เร่งฟื้นฟูสุขภาพใจ-กาย ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย บูรณาการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ ผ่าน VDO Call เสริมความรู้เน้นสังเกตสัญญาณเตือนด้านสุขภาพจิต

23 กันยายน 2567 กรมสุขภาพจิต ร่วมกับ ทีม MCATT สสจ.เชียงราย รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมกับ อบจ. จิตอาสา รพช. สสอ. และกองสาธารณสุขเทศบาลนครเชียงราย เร่งฟื้นฟูสุขภาพใจ – กาย ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย พร้อมบูรณาการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัย ประเมินสุขภาพจิต ผ่าน VDO Call โดยโรงพยาบาลแม่สาย ทีมสาธารณสุขในพื้นที่ บูรณาการร่วมกับ อบจ.เชียงราย เทศบาลตำบลเวียงพางคำ จิตอาสากลุ่ม Off road นำลงพื้นที่เร่งฟื้นฟูจิตใจผู้ประสบภัยหลังน้ำลดใน 6 ชุมชน

นพ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าน้ำจะลดลงแล้วแต่ยังคงความเสียหายให้กับประชาชน โดยเฉพาะดินโคลนและขยะในบริเวณบ้าน ส่งผลต่อสภาพจิตใจของประชาชนตามมา ทำให้เกิดความอ่อนล้า หงุดหงิด ความเครียด จึงให้ทีมดูแลเยียวยาจิตใจ MCATT เข้าพื้นที่ปฏิบัติการฟื้นฟูด้านสุขภาพทั้งกายใจ โดยบูรณาการกับทีมสาธารณสุขทุกฝ่ายรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกมิติ และกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชเดิมต้องได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องไม่ให้ขาดยาป้องกันอาการทางจิตที่จะกำเริบได้

นพ.ศิริศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ระยะหลังได้รับผลกระทบ (2 สัปดาห์-3 เดือน) เป็นระยะที่ผู้ประสบภัยเริ่มเผชิญกับความเป็นจริงมากขึ้นซ้ำๆ ตามมาด้วยความเครียด วิตกกังวล ท้อแท้ ซึมเศร้า จากการสูญเสียสิ่งของและผู้คน ไม่แน่ใจในอนาคตของตนเอง เริ่มมีความรู้สึกและคาดหวังความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ การให้ความช่วยเหลือในมิติสุขภาพจิตระยะนี้ต้องได้รับการประคับประคองอย่างใกล้ชิด จึงต้องมีการประเมินสภาพจิตควบคู่กับการช่วยเหลือตามความจำเป็นขั้นพื้นฐาน หากไม่พบปัญหาสุขภาพจิต ให้การช่วยเหลือตามสภาพปัญหาและเฝ้าระวัง แต่หากพบมีปัญหาสุขภาพจิต ต้องเร่งให้การปฐมพยาบาลด้านจิตใจ (Psychological First Aid : PFA) ถ้าพบมีความเสี่ยงสูงส่งต่อบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งขณะนี้ได้นำระบบเทคโนโลยีเข้าช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยและประเมินสุขภาพจิต ผ่าน VDO Call เพื่อติดตามเฝ้าระวังเสริมสร้างพลังใจอย่างต่อเนื่อง

นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้ช่วยอธิบดีกรมสุขภาพจิตและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมข้อมูลสะสม ณ วันที่ 22 ก.ย.67 ทีม MCATT ได้มีการประเมินสุขภาพใจ จำนวน 12,858 ราย พบมีความเครียด 715 ราย ภาวะซึมเศร้า 50 ราย และได้มีการส่งต่อพบจิตแพทย์ จำนวน 66 ราย ยังไม่มีรายงานผู้ที่เสี่ยงทำร้ายตัวเอง ในวันนี้ทีม MCATT ได้ระดมทีมจากสสจ.เชียงราย รพ.เชียงราย ประชานุเคราะห์ สสอ.เมืองเชียงราย รพช. และ สสอ. ในจังหวัด ได้แก่ อ.พาน อ.เวียงชัย และ อ.แม่ลาว บูรณาการลงปฏิบัติงานร่วมกับ อบจ. เทศบาล และจิตอาสา เพื่อการดูแลทั้งสุขภาพกายและใจ ให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการให้มากที่สุด พื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้ให้ทีมลงเดินเท้าเยี่ยมชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ส่วนพื้นที่เข้าถึงได้ยากมีการประสานกลุ่มรถออฟโรด (Off Road) ของทางเทศบาลส่งทีมเข้าพื้นที่ ในพื้นที่สีแดง 6 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนเกาะทอง ชุมชนบ้านไร่ ชุมชนแควหวาย ชุมชนริมน้ำกก ชุมชนมุสลิมกกโท้ง และชุมชนกกโท้ง มีผู้ประสบภัยรวมจำนวน 1,171 หลังคาเรือน พบว่าประชาชนยังมีความเครียดอยู่มาก จึงได้ให้การปฐมพยาบาลทางใจเบื้องต้น เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดภาวะเครียด

อยากให้ทุกคนช่วยสังเกตและเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิต ด้วยการใช้หลัก 3 ส. ส.1 สอดส่องมองหา ส.2 ใส่ใจรับฟัง ส.3 ส่งต่อเชื่อมโยง โดยการสอดส่องมองหา สังเกตพฤติกรรมของคนรอบข้างและคนใกล้ชิด เช่น เหม่อลอย ปลีกตัวจากผู้อื่น ไม่สดใสร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน การใส่ใจรับฟัง ให้เขาระบายความในใจออกมา อาจสื่อสารด้วยภาษากาย การสัมผัส โอบกอด หากยังไม่ดีขึ้นให้ส่งต่อเชื่อมโยงทันที และสังเกตสัญญาณเตือนด้านสุขภาพจิตทั้งตัวเราเองและคนรอบข้างว่ามีหรือไม่ ได้แก่ 1.นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป 2.แยกตัวหรือเก็บตัว 3.มีอาการเจ็บป่วยทางกายที่หาสาเหตุไม่ได้ 4.เบื่ออาหาร 5.ไม่มีสมาธิ 6.มีอารมณ์แปรปรวน และ 7.มีอารมณ์ซึมเศร้า หากมีอาการ 1 ใน 7 ข้อนี้ หรือหลายข้อรวมกัน ให้ประสานหรือขอความช่วยเหลือไปยังทีม MCATT ในพื้นที่ สาธารณสุขทุกฝ่าย อบจ. อสม. เทศบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อดูแลจิตใจและรับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธี