อุทกภัยถล่มเมืองเชียงใหม่ “ทีมเชียงใหม่” รับมือได้จริงเหรอ

วันนี้มีการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ จัดกันที่ห้องเดิม ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ผมไม่ได้ไปอีกเช่นเคย หากแต่เข้าไปรับฟังทางออนไลน์ชั่วขณะหนึ่ง เป็นวาระเรื่อง….

การเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยและโคลนถล่ม 2567

บทสรุปจากห้องแถลงข่าวคือ “ทีมเชียงใหม่” ได้เตรียมการไว้พร้อม เพียงพอจะรับมือน้ำหลากน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่

มันจริงเหรอ ถ้าจริง จะจริง ซักกี่เปอร์เซ็นต์

จุดเสี่ยงต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่เริ่มพูดกันตั้งแต่สมัยผู้ว่าคนก่อน ประจญ ปรัชญ์สกุล วันนี้มีจัดไหนบ้างล่ะที่ได้รับการแก้ไขไปแล้วเสร็จสิ้นสมบูรณ์ 100%

แยกข่วงสิงห์ น้ำจากดอยสุเทพไหลผ่านซอยศศิธรมาท่วมตรงแยกฝากจะมา ม.ราชภัฏเชียงใหม่ กว่า 2 ปี มีการตรวจสอบพบว่า ระบบท่อระบายน้ำสุดพิสดาร ท่อระบายน้ำบนถนนโชตนาขนาด 1 เมตร มีท่อขนาด .80 เมตรมาเชื่อมต่อไปกลางแยกข่วงสิงห์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ไม่มีการเชื่อมท่อให้ระบายกับท่อขนาด 1.20 เมตร ข้างถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ก็ท่อบริเวณทั้งด้านหน้าและด้านข้างร้านมนตรีนั่นล่ะ ที่ท่อมันไม่เชื่อมกันทำให้การระบายน้ำไม่มีประสิทธิภาพ

แก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือ เอาเครื่องสูบน้ำมาจุ่มดูดตรงบ่อพักสุดท้ายแจ่งถนนโชตนา แล้ววายสายไปปล่อยลงบ่อพักบนถนนซุปเปอร์หน้าร้านมนตรี ทำให้ระบายได้

2 ปีผ่าน ถามว่า…เชื่อมท่อ กันหรือยัง ถ้ายังล่ะก็…ท่วมแน่

จุดนี้ลำพัง เทศบาลนครเชียงใหม่จ่อที่จะแก้ไข มีแบบมีแผนไว้ชัดแล้ว ถามไปที่ แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 และ กรมทางหลวง ละกัน อนุญาตละยัง

อีกจุด ถนนทางเข้าท่าอากาศยานเชียงใหม่ ช่วงหน้าปั้ม ปตท. ปัญหาที่เจอคือ ท่อระบายน้ำมีขนาดเล็ก น้ำระบายไม่ทัน เทศบาลตำบลสุเทพ รับหน้าเสื่อดำเนินการแก้ไข จัดนี้มีเงินรอจะทำ มี ปร.4 ปร.5 ติดแค่…การอนุญาตให้ใช้พื้นที่ดำเนินการ ซึ่งขอไปที่กองทัพอากาศ ทอ.ใช้เวลาร่วมปีอนุญาต ปรากฏว่า งบตก เป็นงบ อบจ.ที่จะนำมาใช้แก้ปัญหา เหตุว่านานเกินเงินรอไม่ได้

ถามว่า…วันนี้ได้ก่อสร้างปรับปรุงแล้วเหรอ

แยกบิ๊กซี แม่เหียะ จุดนี้บอกได้เลย ผ่านไป 2 ปี ไม่ได้ทำอะไรเลย ตกหนักๆ ยังไงก็ท่วม เอาเฉพาะแค่ในบิ๊กซี ตั้งตัวอาคาร ทั้งลานจอดรถ พื้นที่รับน้ำฝนเท่าไร ตกมาเท่าไรก็เทลงถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี มากเท่านั้น พูดคุยกันว่าจะให้บิ๊กซีสร้างบ่อรับน้ำฝน ป่านนั้นจนป่านนี้ ไม่มีอะไรคืบ

หน่วยงานรับผิดชอบคือ เทศบาลเมืองแม่เหียะ ไม่รู้จะจำปัญหานี้ได้อีกไหม เชื่อว่าจะคิดออกก็ตอน้ำท่วมนั่นล่ะ

เอาแค่ 3 จุด แค่นี้ก่อน ล้วนเป็นจุดที่ไชว์หน้าตาเมืองเชียงใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม “ทีมเชียงใหม่” ตอบให้ชื่นอกชื่นใจหน่อยเป็นไรว่า…ทุกจุดแก้เรียบร้อยแล้ว

นี่ยังไม่ได้แตะ “แม่น้ำปิง” ที่ ณ เพลานี้ การหลากของน้ำเปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง อีกอย่าง One Map ที่มีในมือมีการอัพเดทหรือไม่อย่างไร

แก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ เพียงแค่มโนไม่ได้ มันต้องทำกันอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และทำทั้งระบบเชื่อมโยงกัน ถึงจะเรียกได้ว่า…พร้อม เอาอยู่

ธัชชัย
6 ส.ค. 67

กกต ส่งเสริมการเลือกตั้งนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย

กกต ส่งเสริมประชาธิปไตยให้กับกลุ่มเยาวชน จัดการเลือกตั้งนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา ด้านเจ้าหน้าที่ กกต.ที่ลงพื้นที่จัดการเลือกตั้งบอกว่า การส่งเสริมประชาธิปไตยในระดับเยาวชน เป็นนโยบายที่สำคัญอีกข้อหนึ่ง ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ปลูกฝังให้เยาวชนรักษาสิทธิ์และรู้หน้าที่ของตนเอง

ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จาก สำนักงาน กกต.เชียงใหม่ ได้จัดการลงคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา ประจำปีการศึกษา 2568 มีนักศึกษาจำนวนกว่า 4 พันคน อายุตั้งแต่ 15 – 19 ปี ได้มีสิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตย ของนักศึกษาวิทยาลัยโปลิเทคนิคลานนาฯ ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ทางวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมให้ความรู้ และสนับสนุนเครื่องลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มเปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.30 น. และปิดการลงคะแนนในเวลา 15.00น. ณ อาคารเอนกประสงค์ วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่

การเลือกตั้งครั้งนี้ เหมือนการเลือกตั้งจริงที่นักศึกษาต้องมาตรวจสอบรายชื่อของผู้มีสิทธิ์การเลือกตั้ง ก่อนหลังจากนั้นจึง ดูรายชื่อของผู้สมัครเลือกตั้งนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย ประจำปีการศึกษา 2568 ทุกคนต้องแสดงบัตรประชาชน หรือบัตรประจำตัวนักศึกษา ต่อเจ้าหน้าที่พร้อมลงชื่อใช้สิทธิ์ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่กกต. และเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ การใช้สิทธิ์ กดเลือกลงคะแนนตามเลขและรายชื่อ ของผู้สมัคร ใช้เวลาต่อคนไม่ถึง 10 วินาทีบางรายอาจจะใช้ 20 – 30 วินาที

เสียงจากน้องคณะกรรมการเลือกตั้งและน้องผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตกับการเลือกตั้ง และใช้เครื่องกดลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์แบบนี้ ร้อยละ 99 บอกตื่นเต้นมาก เพราะทุกคนเป็นครั้งแรกในชีวิตได้ใช้เครื่องและลงคะแนนแบบนี้ แต่พอได้ใช้แล้วสะดวก รวดเร็ว เพียงกดหมายเลขหรือชื่อตามที่เราเลือกไว้ แล้วกดยืนยัน ใช้เวลาไม่นาน ที่สำคัญมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรมโปร่งใสมาก เพราะกดหมายเลขก็จะทำให้ทราบถึงผลคะแนนทันที่ ตรงตามจำนวนของผู้มาใช้สิทธิ์ ไม่มีบัตรเสีย บัตรเขย่ง ทราบผลทันที หากได้นำมาใช้จริงในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ ก็จะดีหมดปัญหาการโกงผลการเลือกตั้งได้

ด้าน อ.ศิรภพ เจริญกุศล รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา ซึ่งกระบวนการของการคัดเลือกนายกฯ เริ่มจากการเลือกตัวแทนผู้สมัครการเลือกประธานวิชาชีพแต่ล่ะสาขาวิชา ทั้งหมด 12 สาขา หลังจากนั้นประธานสาขาวิชาได้เสนอตัวเข้ามารับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทยฯ ประจำวิทยาลัย โดยทางวิทยาลัยได้จัดให้ผู้สมัคร ได้แสดงวิสัยทัศน์ตามเวทีและโอกาสต่างๆเช่นเวทีโรงอาหารตอนพักเที่ยง และช่วงที่วิทยาลัยมีการจัดกิจกรรมต่างๆเช่นถวายเทียนพรรษา นอกจากนี้ยังได้ผู้สมัครถ่ายคลิบวีดีโอ แสดงวิสัยทัศน์เผยแพร่ในเพจเฟสบุ๊คของวิทยาลัย และช่องทางโซเชี่ยลอื่นๆ เพื่อให้นักศึกษาต่างสาขาวิชารวมถึงนักศึกษา ทั้งหมดได้รับทราบถึงวิสัยทัศน์และนโยบายของผู้สมัครอีกด้วย ซึ่งนักศึกษาส่วนใหญ่ที่ศึกษาอยู่จะมีอายุตั้งแต่ 15 – 19 ปี บางรายยังไม่ได้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จึงหวังว่าการจัดการเลือกตั้งในสถานศึกษาครั้งนี้ จะเป็นการปลูกฝังความเป็นประชาธิปไตยให้กับเยาวชน แต่สิ่งที่ได้นอกเหนือจากการได้ตัวแทนนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทยฯ ประจำวิทยาลัย ตนมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ผู้บริหารวิทยาลัยฯ ได้ปลูกฝังกับนักศึกษา ใช้ความคิด ความร่วมมือ ความเข้าใจในการระบอบประชาธิปไตยในสถานศึกษา จะสามารถต่อยอดใช้ระบอบประชาธิปไตยในสังคมทั้งการเคารพเสี่ยงข้างมาก และรับฟังเสียงข้างน้อยที่สะท้อนปัญหาออกมา การรู้จักสิทธิ์หน้าที่ของตน การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ซึ่งความเห็นที่แตกต่างจะไม่นำไปสู่การแตกแยกแต่จะเป็นการร่วมกันสะท้อนปัญหาและร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกันและร่วมกันพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาทางวิทยาลัยฯได้เปิดโอกาสในนักศึกษาได้มีความร่วมและแสดงความคิดเห็นในการจัดกิจกรรมต่างๆรวมถึงกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ กิจกรรมที่นักศึกษาทำร่วมกับชุมชน รวมถึงกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ วิทยาลัยฯจะเปิดโอกาสให้นักศึกษามีส่วนร่วม และบางกิจกรรมนักศึกษาก็สามารถดำเนินการด้วยตนเองทั้งหมดยกตัวอย่างเช่นการจัดการเลือกตั้งนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา วันนี้ที่จัดโดยตัวองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย ประจำวิทยาลัยฯ ชุดปัจจุบันที่กำลัง จะหมดวาระในไม่นานนี้ นายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา และตัวองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย ประจำวิทยาลัยฯ ที่ได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีโอกาสเข้าร่วมงานกับตัวแทนองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย ระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับประเทศต่อไปโดยจะร่วมงานกับตัวแทนองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย จากสถาบันการศึกษาอาชีวะทั้งรัฐ และเอกชน เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมการพัฒนานักศึกษาด้านต่างๆ ต่อไป

 

ขณะที่ นายชีรีนคาน ดาดูเคล นายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เปิดเผยถึงการวางแผน การจัดการเลือกตั้งนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เริ่มแรกได้เรียกประชุมประธานชมรมวิชาชีพในวิทยาลัยฯเพื่อคัดเลือกหมายเลขผู้สมัครนายกฯ หลังจากเมื่อผู้สมัครแต่ล่ะท่านได้หมายเลขผู้สมัครแล้วจึงได้ติดต่อประสานงานกับ กกต.เชียงใหม่ เพื่อขอสนับสนุนอุปกรณ์การเลิอกตั้งหลังจากนั้นจึงกำหนดวัน เวลา เลือกตั้งฯจึงได้จัดสรรนักศึกษาแต่ล่ะสาขาวิชาชีพ แต่ล่ะห้องว่าสะดวกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งช่วงไหน โดยดูจากตารางเรียน เพื่อไม่ให้กระทบการเรียนการสอนของนักศึกษา นอกจากนี้หากปล่อยให้นักศึกษามาใช้สิทธิ์ครั้งเดียวก็อาจจะเกิดความวุ่นวายได้เนื่องจากนักศึกษาในวิทยาลัยมีทั้งหมด 4 พันคน ส่วนการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครนายกฯและการแนะนำตัวเองของผู้สมัคร ทางองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา ได้กำหนดให้ผู้สมัครได้ทำแผ่นโปสเตอร์แนะนำตัวเองมาติดตามจุดต่างๆในวิทยาลัยฯที่กหนดไว้ นอกจากนี้ยังได้มีการจัดเวทีใหญ่ให้ผู้สมัครแนะนำตนเองและจัดทำคลิบวีดีโอแสดงแสงวิสัยทัศน์เผยแพร่ในช่องทางโซเชี่ยลของวิทยาลัยฯ ส่วนการแนะนำตัวเอง การแสดงวิสัยทัศน์ ผู้สมัครจะเป็นคนคิดเองแต่ทางคณะกรรมการจะกำหนดไม่ไห้ผู้สมัครพูดจาลักษณะเชิงสร้างสรรค์ ห้ามโจมตีกันเป็นต้น

ด้าน นายสุรเชษฐ์ อินทจักร พนักงานสืบสวนและไต่สวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งให้ความสำคัญในการส่งเสริมประชาธิปไตย ให้กับกลุ่มเยาวชน ถึงแม้ว่าเยาวชนในสถานศึกษาส่วนใหญ่จะยังไม่เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เนื่องจากยุคปัจจุบันเยาวชนส่วนใหญ่มีความตื่นตัวเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ เพราะฉะนั้นหากกลุ่มเยาวชนได้มีโอกาสในการทดลองเลือกตั้งบุคคลที่จะมาเป็นตัวแทนของเขา ทาง กกต. เชื่อว่า จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในการปลูกฝังระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจากการการที่เจ้าหน้าที่ได้มีโอกาสไปจัดการเลือกตั้งตามสถานศึกษาต่างๆพบว่าเยาวชนกลุ่มนี้ต่างตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปจะมีนักเรียน นักศึกษาบางส่วนที่ไม่ได้มาใช้สิทธิ์ เนื่องจากขาด และลาเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีโอกาสนำเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ไปสนับสนุนการเลือกตั้งให้กับนักเรียนระดับอนุบาล จนถึงผู้สูงอายุที่มีการเลือกตั้งผู้นำชมรม สมาคมต่างๆ และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

“ภูมิธรรม” แจงเลื่อนแถลงลงทะเบียนร้านค้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” เกรงเกิดการสับสน

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงการเลื่อนการแถลงข่าวการลงทะเบียนร้านค้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนสับสน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวที่จังหวัดเชียงใหม่ถึงการเลื่อนแถลงข่าวลงทะเบียนร้านค้าเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากที่กำหนดไว้ในวันพรุ่งนี้ วันที่ 5 สิงหาคม 2567 ว่า เรื่องการเตรียมร้านค้า เป็นภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ และได้เตรียมการมาอย่างต่อเนื่องไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่สิ่งที่เราประเมินคือไม่อยากให้พี่น้องประชาชนสับสน เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงให้ประชาชนลงทะเบียน และมีทะลักเข้ามาลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตจนถึงวันนี้ กว่า 23 ล้านคน นอกจากนั้น ประชาชนยังมีความสนใจที่จะลงทะเบียนจำนวนมากอีกด้วย

“ตอนนี้ควรให้ผ่านช่วงลงทะเบียนประชาชนไปก่อน ซึ่งกว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะออกประมาณเดือนพฤศจิกายน และการลงทะเบียนร้านค้า เริ่ม 1 ตุลาคม 2567 ยังมีเวลาเหลืออีก 2 เดือน โดยเลื่อนไปก่อนจะได้ไม่ให้สับสน เอาเรื่องคนลงทะเบียนให้จบ และจากนี้เอาเรื่องร้านค้ามาทีเดียว ขณะนี้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เดินเรื่องมีการสอบถามหน่วยงานเอกชนต่างๆ รวมทั้งร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย” นายภูมิธรรมฯ กล่าว

รองนายกรัฐมนตรี หารือนักธุรกิจรุ่นใหม่ จ.เชียงใหม่

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ติดตามความพร้อมของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัลและหารือนักธุรกิจรุ่นใหม่เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกมิติ อย่างยั่งยืน

ที่ ตลาดต้นพยอม ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และคณะลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าตลอดจนสอบถามความพร้อมของผู้ประกอบการค้าปลีก-ส่ง ที่เข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ซึ่งพ่อค้า-แม่ค้าที่ตลาดต้นพยอมส่วนใหญ่พร้อมเข้าร่วมโครงการและยังมั่นใจที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อีกด้วย

หลังจากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะได้เดินทางไปยังโรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ เพื่อประชุมหารือร่วมกับ กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC (Young Entrepreneur chamber of commerce) กลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ YSF (Young Smart Farmer) สมาพันธ์ SMEs และกลุ่ม MOC Biz Club ของจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนรับฟังและร่วมแก้ไขปัญหาภายในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกมิติ อย่างยั่งยืน

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ที่เดินหน้ามาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 ดูแลผลไม้อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด เป็นคิวของลำไยภาคเหนือ ที่กำลังออกสู่ตลาด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานผู้ประกอบการ ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก เข้าไปรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกรทั้งจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ ซึ่งจะช่วยเร่งระบายผลผลิตให้กับเกษตรกรพื้นที่ และร้านค้าโครงการเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่พร้อมที่จะเข้าร่วมเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อีกด้วย

ทะเบียนเลขสวย “งบ” ได้เงิน 27 กว่าล้านบาท 9999 ยังแชมป์ได้เงิน 1.2 ล้านบาท

ประมูลทะเบียนรถเลขสวย “งบ” ได้เงินเข้า กปถ. กว่า 27 ล้านบาท 9999 ยังครองแชมป์ ปิดจบที่ 1.2 ล้าน 8888 ก็ใช่ย่อย หยอดที่เดียว 1 ล้าน อื้งกันทั้งห้องประชุม ส่วนเลขที่สู้กันมันหยอด 5555 สู้กันถึง 53 รอบ แรกจะจบที่ 555,555 บาท แต่ไม่จบมีหยอดต่อ ลุ้นกันสุดๆ

วันที่ 3 ส.ค. 67 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติดิเอ็มเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) ครั้งที่ 34 ในหมวดอักษร “งบ” จำนวน 301 หมายเลข ซึ่งเป็นการประมูลทางวาจาและทางอินเทอร์เน็ต หมวดอักษร งบ มีความหมายว่า “เงินมั่งคั่ง งานมั่งคง บริหารธุรกิจรุ่งเรือง” โดยมี นายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเปิดงาน


.
สำหรับการเปิดประมูลเลขทะเบียนรถสวยรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) ในครั้งนี้ มียอดการประมูลรวมทั้งสิ้น 27,715,000 บาท ซึ่งยอดมากกว่าการประมูลครั้งที่ 33 ที่ผ่านมา โดยการประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวยครั้งนี้ หลายหมายเลขปิดราคาไปในราคาที่จับต้องได้ ไม่สูงมาก ส่วนที่มีการแข่งขันกันดุเดือดยังคงเป็นหมายเลขในกลุ่ม 2 และกลุ่ม 1

กลุ่ม 2 หมายเลขชุดแรก เป็นชุดคู่ 89 หมายเลข 8899 สู้ราคากันถึง 27 ครั้ง ราคาปิดที่ 159,000 บาท หมายเลข 8998 สู้ราคากัน 25 ครั้ง ปิดราคาที่ 146,000 บาท และเลข 8989 สู้กัน 20 รอบ ราคาชนะปิดที่ 162,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดของกลุ่มนี้

ส่วนกลุ่มที่แข่งขันกันสุดๆ ยังคงเป็นกลุ่ม 1 กลุ่มเลขโฟร์ สู้กันสุดจริงเป็นหมายเลข 5555 สู้กันทั้งสิ้น 53 รอบ แข่งราคามาถึง 555,555 บาท เกือบจะเคาะปิดจบแล้ว แต่ยังมีคนเคาะราคาเพิ่มสู้ต่อ ที่สุดไปจบที่ 630,000 บาท อีกหมายเลขที่สร้างความฮือฮาอย่างมากคือหมายเลข 8888 ที่สู้ราคามาที่ราว 5 แสนกว่าๆ ในห้องประมูลเสนอราคาตูมเดียว 1,000,000 บาท อื้อหือกันทั้งห้องประมูล แล้วก็ปิดราคาที่ 1 ล้านบาท โดยมีไม่ใครเสนอต่ออีกทั้งในห้องประมูลและทางอินเทอร์เน็ต ส่วนหมายเลขที่ยังคงครองแชมป์ยอดประมูลสูงสุดยังคงเป็นหมายเลข 9999 แข่งขันกัน 39 รอบ ปิดจบที่ราคา 1,200,000 บาท

ทั้งนี้ รายได้จากการประมูลป้ายทะเบียนจะถูกนำเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หรือ กปถ. เพื่อสนับสนุนส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน นอกจากนี้รายได้จากการประมูลทะเบียนรถเลขสวยยังไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน เพื่อเยียวยาและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้ได้รับผลกระทบได้รับรอยยิ้มการจากเยียวยาสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อีกด้วย

“นโยบายลุงนิด” เดือนสุดท้าย เข้มข้นแก้ปัญหายาเสพติด มท. สั่งทุกจังหวัดเร่งรัด “Re X-ray”

ปลัด มท. สั่งการ ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ติดตามเร่งรัดดำเนินการ “Re X-ray” ค้นหาผู้เสพและผู้ค้ายาเสพติดในทุกพื้นที่ เน้นย้ำนำผู้ป่วยยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู ส่งเสริมการพัฒนาอาชีพให้กลับคืนสู่สังคมอย่างปกติสุข มุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน

วันนี้ (2 ส.ค. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด (ศอ.ปส.จ.) ทุกจังหวัดบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ปฏิบัติการตามแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยดำเนินการให้ครอบคลุม ทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม การบังคับใช้กฎหมาย การบำบัดรักษายาเสพติด และการดำเนินการค้นหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ผู้ค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด (Re X-ray) ในพื้นที่ตำบลหมู่บ้านอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยกรณีผู้ค้าและผู้ผลิตให้จับกุม และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ให้นำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดทันที

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่ โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ใช้แนวทางในการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเชิงรุก ควบคู่กับนโยบายการจัดระเบียบสังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคีเครือข่าย ภาครัฐ อาทิ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ป.ป.ส. หน่วยงานด้านสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน เข้าร่วมปฏิบัติการ Re X-ray สถานบริการและสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการ พร้อมทั้งรับแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดและการสกัดจับเครือข่ายผู้ค้ารายใหญ่ และรายย่อยที่ลักลอบขนย้ายยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย โดยไม่มีการยกเว้น

“เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะการบำบัด รักษา และฟื้นฟูสภาพทางสังคมผู้ติดยาเสพติดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด ดำเนินการมาตรการเร่งรัดการดำเนินการค้นหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ผู้ค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด (Re X-ray) โดยขอความร่วมมืออำเภอทุกอำเภอดำเนินการค้นการค้นหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยดำเนินการขอความร่วมมือจากบุคคลในครอบครัว หัวหน้าสถานศึกษา ผู้นำศาสนา หรือ หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เจ้าของสถานประกอบการ แจ้ง หรือ ให้ข้อมูลบุคคลในครอบครัว บุคคลในปกครองดูแล ลูกจ้างพนักงาน ที่เสพ หรือ ติดยาเสพติด เพื่อนำไปสู่กระบวนการบำบัดรักษา และขอความร่วมมือจากชุมชน ผู้นำชุมชนหมู่บ้าน หัวหน้าสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้ประกอบการหัวหน้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และประชาชน ให้ข้อมูลผู้เสพผู้ติดยาเสพติด เพื่อนำไปสู่กระบวนการบำบัดรักษา โดยใช้สายด่วน 1567” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

 

ที่มา : กระทรวงมหาดไทย

ชลประทานเพิ่มการระบายน้ำ ย้ำไม่ส่งผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย เผยระดับน้ำแม่น้ำปิงยังปกติ

สถานการณ์น้ำแม่น้ำปิงยังปกติ คป.เชียงใหม่เพิ่มการระบายน้ำ ทั้ง ปตร.ท่าวังตาล ฝายดอยน้อย ปตร.แม่สอย ยันยังรักษาระดับที่ไม่ส่งผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย พร้อมแจ้งเตือนสถานีสูบน้ำและกระชังเลี้ยงปลาให้ทราบแล้ว

วันที่ 2 สิงหาคม 2567 โครงการชลประทานเชียงใหม่ รายงานการเพิ่มการระบายน้ำเพื่อรองรับน้ำหลากจากพื้นที่ต้นน้ำ ของลำน้ำปิง และลำน้ำสาขา ว่า ที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้เพิ่มการระบายน้ำ ปริมาณ 110 ลบ.ม./วินาที โดยรักษาระดับน้ำไม่เกิน 300.8 ม.(รทก) ทั้งนี้ไม่เกิดผลกระทบกับท้ายน้ำ

ฝายดอยน้อย ต.ดอยน้อย อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ได้เพิ่มการระบายน้ำปริมาณ 118.02 ลบ.ม./วินาที โดยรักษาระดับน้ำไม่เกิน278.10 ม.(รทก.) ทั้งนี้ได้แจ้งสถานี สูบน้ำด้วยไฟฟ้าด้านเหนือน้ำ- ด้านท้ายน้ำ และผู้เลี้ยงปลากระชังในพื้นที่รับทราบโดยทั่วกันแล้ว

ส่วนที่ประตูระบายน้ำแม่สอย ต.แม่สอย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ได้เพิ่มการระบายน้ำในปริมาณ 132.29 ลบ.ม./วินาที โดยรักษาระดับน้ำไม่เกิน 264.50 ม.(รทก.) และได้แจ้งเตือนสถานีสูบน้ำทั้งด้านเหนือน้ำและด้านท้ายน้ำ ในกลุ่มเครือข่ายประตูระบายน้ำแม่สอยได้รับทราบโดยทั่วกันแล้ว

ทั้งนี้ภาพรวมสถานการณ์น้ำของแม่น้ำปิงยังอยู่ในระดับปกติ โครงการชลประทานเชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้สั่งการและมอบหมายเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เล่น Zipline ใกล้จบเจอ ต้นไม้โค่นทับสะพาน นทท.จีน ดับ 1 บาดเจ็บอีก 1

ต้นไม้โค่นทับสะพานเล่น Zipline นักท่องเที่ยวจีนคู่สามีภริยาเจอจะจะตันไม้ทับ ร่างกระเด็นร่วงลงพื้นสูงกว่า 15 เมตร ภรรยาเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล ส่วนสามีได้รับบาดเจ็บแขนขาผิดรูป

วันที่ 1 สิงหาคม 2567 อำเภอดอยสะเก็ด รายงานว่า เวลาประมาณ 14.30 น. อำเภอดอยสะเก็ดได้รับแจ้งเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวจีนประสบอุบัติเหตุขณะเล่นเครื่องเล่น Zipline โดยเหตุเกิดในพื้นที่ Jungle Flight Chiang Mai หมู่ที่ 2 ต.เทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย

จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนทั้ง 2 ราย เป็นสามีภรรยา เดินทางมาเล่นเครื่องเล่น Zipline ในพื้นที่เกิดเหตุ ขณะกำลังจะเดินทางกลับจากจุดเล่นฐานสุดท้ายมายังบริเวณสำนักงาน ต้นไม้ในบริเวณนั้นเกิดล้มลงมาทับบสะพานสลิงที่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน กำลังเดินผ่าน เป็นเหตุให้ นาง Jing Chen อายุ 44 ปี สัญชาติ จีน และ นาย Liu Yang อายุ 46 ปี สัญชาติ จีน โดนต้นไม้หล่นทับและกระเด็นตกสะพานสลิง ซึ่งสูงจากพื้นดิน 15 เมตร โดยร่างกระเด็นลงมาบนพื้นดิน

ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยได้นำตัวทั้งสอง ส่งโรงพยาบาลดอยสะเก็ด และทราบต่อมาว่า นาง Jing Chen ได้เสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาลดอยสะเก็ด ส่วน นาย Liu Yang ได้รับบาดเจ็บกระดูกแขนและขาผิดรูป และถูกนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ทั้งนี้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ราย ได้ทำประกันชีวิตกับ บริษัท จังเกิ้ล ไฟลท์ จำกัด ไว้ด้วย

ทั้งนี้นายอำเภอดอยสะเก็ดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งแล้ว

เสาไฟฟ้า ต้นไม้ล้มทับทาง อำเภอแม่แตง ประสานให้บูรณาการเปิดทางได้แล้ว เผยน้ำแม่แตงยังปลอดภัย

น้ำแม่แตงที่บ้านเมืองกื๊ดยังปลอดภัย เกิดเหตุเสาไฟฟ้า ต้นไม้ล้มทับเส้นทางในพื้นที่ ต.กื๊ดช้าง กฟภ. อปท. ฝ่ายปกครอง ร่วมชาวบ้าน จัดการตัดนำออกเปิดให้สัญจรได้แล้ว อำเภอแม่แตงประสานให้เตรียมรับมือต่อเนื่อง

วันที่ 1 ส.ค. 2567 ฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่แตง รายงานสถานการณ์ พายุฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ ว่า ในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีฝนตกในพื้นที่ต่อเนื่องเป็นเวลา3วัน (วันที่ 30 ก.ค. – 1ส.ค. 67) จากการตรวจสอบจุดวัดระดับน้ำ p92 (น้ำแตง) สะพานบ้านเมืองกื้ด วันที่ 1 ส.ค.67 เวลา 15.30น. ระดับน้ำ 1.50 เมตร ยังอยู่ในระดับปลอดภัย (ระดับน้ำที่ 2.8 เมตร จะหลากท่วมบ้านแม่ตะมาน ระดับน้ำ 3.4 เมตร จะท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่)

ทั้งนี้เกิดเหตุในพื้นที่ ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เกิดเสาไฟฟ้าหักโค่นปิดทับเส้นทางบ้านเมืองกื้ด – บ้านแม่ตะมาน ต.กื้ดช้าง เจ้าหน้าที่ อบต.กื้ดช้าง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคฯ ดำเนินการเปิดเส้นทาง สามารถสัญจรได้ตามปกติและปล่อยกระแสไฟได้เป็นปกติแล้ว นอกจากนี้ยังมีต้นไม้หักโค่นปิดทับเส้นทาง ถนนภายในหมู่บ้าน บ้านแม่ตะมาน – รพ.สต.แม่ตะมาน เจ้าหน้าที่ อบต.กื้ดช้าง, ฝ่ายปกครองท้องที่ และชาวบ้าน ได้ช่วยกันตัดไม้แล้วนำออกจากผิวทาง และสามารถเปิดเส้นทางสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติเรียบร้อยแล้ว

อำเภอแม่แตงได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านฯ เตรียมรับมือกับการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และให้ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง

PEA จัดเสวนา “เชียงใหม่ เมืองสวย ไร้สาย” พัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

กฟภ.เขต 1 เชียงใหม่ เผยการก่อสร้างระบบจำหน่ายเคเบิลใต้ดินรอบคูเมือง จะแล้วเสร็จเป็น “เชียงใหม่เมืองสวย ไร้สาย” ภายในต้นปีหน้า

วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่โรงแรมดวงตะวันเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานเสวนา “เชียงใหม่เมืองสวย ไร้สาย” พัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน เพื่อเปิดโอกาสให้ชุมชนตลอดจนหน่วยงานต่างๆ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น การดำเนินงานของโครงการพัฒนาระบบนำจ่ายไฟฟ้าเมืองใหญ่ ระยะที่ 1 ตลอดจนเป็นเวทีชี้แจงความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการก่อสร้างระบบจำหน่ายเคเบิลใต้ดินในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยมี นายสุพจน์ คำเหลือง ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ ผู้แทนจากเทศบาลนครเชียงใหม่ กลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ผู้แทนจาก กสทช.9 (เชียงใหม่) และผู้แทนผู้นำชุมชนในพื้นที่คูเมืองเชียงใหม่ ร่วมกันเสวนา และรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงาน

นายสุพจน์ คำเหลือง ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาระบบจำหน่ายไฟฟ้าเมืองใหญ่ ในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน ดำเนินการทั้งหมด 7 ล็อต ได้แก่ ล็อตที่ 1 บริเวณถนนคชสาร ถนนมูลเมือง และถนนชัยภูมิ, ล็อตที่ 2 บริเวณถนนช่างหล่อ ถนนราชเชียงแสน ถนนเมืองมูล และถนนบำรุงบุรี, ล็อตที่ 3 บริเวณถนนราชภาคินัย, ล็อตที่ 4 ถนนพระปกเกล้า ถนนเวียงแก้ว ถนนมูลเมือง ถนนจ่าบ้าน และถนนราชมรรคา ล็อตที่ 5 ถนนราชดำเนิน และถนนสามล้าน, ล็อตที่ 6 ถนนอารักษ์ ถนนบำรุงบุรี และถนนศรีภูมิ และ ล็อตที่ 7 ถนนอัษฎาธร ถนนมณีนพรัตน์ ถนนช้างเผือก ถนนหัสดีเสวี ถนนบุญเรืองฤทธิ์ ถนนมหิดล และถนนทิพย์พระเนตร

“ล็อตที่ 1-6 ได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนล็อตที่ 7 เริ่มดำเนินการหลังสุด ซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ คาดว่า การดำเนินงานทั้งหมดของล็อตที่ 1-6 จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และจะเริ่มถอนเสาไฟฟ้าเดิมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และทำการเชื่อมระบบก่อนส่งมอบพื้นที่ให้กับเทศบาลนครเชียงใหม่” นายสุพจน์ฯ แจง