เดินหน้ารณรงค์ 16 วัน แห่งการเคลื่อนไหว ต่อต้านความรุนแรง ด้วยเหตุแห่งเพศ

จังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้ารณรงค์ 16 วัน แห่งการเคลื่อนไหว ต่อต้านความรุนแรง ด้วยเหตุแห่งเพศ ต่อต้านการค้ามนุษย์ รูปแบบออนไลน์ เซ็นเตอร์ ในผู้หญิง สร้างความตระหนักรู้ ในการแก้ไขปัญหา การค้ามนุษย์นผู้หญิง และ อาชญากรรม และ ภัยอันตรายทางไซเบอร์

ที่ ลานก้ามปู จริงใจมาเก็ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นานนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน รณรงค์ 16 วัน แห่งการเคลื่อนไหว ต่อต้านความรุนแรง ด้วยเหตุแห่งเพศ ต่อต้าน การค้ามนุษย์รูปแบบออนไลน์ เซ็นเตอร์ ในผู้หญิง โดยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกับมูลนิธิ เพื่อความเข้าใจเด็ก FOCUS มูลนิธิศูนย์ เพื่อน้องหญิง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกัน และ ปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธร ภาค 5 รวมทั้ง หน่วยงาน และ องค์กรพันธมิตร ทั้งในประเทศ และ ระดับนานาชาติมากกว่า 26 หน่วยงาน โดยการสนับสนุนจาก โครงการความร่วมมือระหว่าง UN Women กับ รัฐบาลญี่ปุ่น และ จากมูลนิธิไดอาโกเนีย ประเทศไทย (Diakonia Thailand) จัดกิจกรรมรณรงค์ดังกล่าวขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ในการแก้ไขปัญหา การค้ามนุษย์นผู้หญิง และ อาชญากรรม และ ภัยอันตรายทางไซเบอร์

ภายในงานมีการ ปาฐกถา ในหัวข้อ การสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อป้องกันความรุนแรง ต่อสตรี และ การค้ามนุษย์ โดย นางสาวกรวิไล เทพพันธ์กุลงาม ผู้แทน UN Women Thailand และ การมอบ ทุนการศึกษา และ ประกาศนียบัตร ผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย และ ภาพวาด ภายใต้หัวข้อ Invisible Scars: บาดแผลที่มองไม่เห็นของ เหยื่อบนโลกไซเบอร์ นอกจากนี้ยังมีเวทีสนทนา กับ ผู้เชี่ยวชาญ ในประเด็น การค้ามนุษย์ และ การแสวงประโยชน์ ทางไซเบอร์ต่อผู้หญิง และ เด็ก การจัดบูธนิทรรศการ ซึ่งมีทั้งความรู้เกี่ยวกับ ภัยที่เกิดขึ้น กับผู้หญิง และ เยาวชน,ภารกิจ และ บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,ช่องทางการติดต่อขอความช่วยเหลือ,เกมส์ และ เวิร์คชอป พร้อมรับของรางวัลพิเศษ จากการร่วมกิจกรรม การแสดงดนตรีโฟล์คซอง ด้วย

ทั้งนี้ปัจจุบัน พบว่า ความมั่นคงของผู้คน ได้เปลี่ยนแปลงไป เป็นอย่างมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทุกคน มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ ซึ่งสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์ และ สื่อสารกันได้อย่างอิสระ กลุ่มขบวนการการค้ามนุษย์ ก็เช่นเดียวกัน โดยพบว่าการก่ออาชญากรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับออนไลน์เซ็นเตอร์กำลังแพร่หลาย จากหลักฐานหลากหลายแห่งชี้ว่า ร้อยละ 20 ถึง 40 ของเหยื่อในออนไลน์เซ็นเตอร์ เป็นสตรีและเด็กหญิงซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลต่อความมั่นคงและสันติภาพในสังคมอย่างร้ายแรง

ศฝร.ภ.5 จัดแข่งขันยิงปืนสั้นชาวบ้าน 18 ประเภท จ.ลำปาง

ชมรมยิงปืนศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 (ศฝร.ภ.5) จัดการแข่งขันยิงปืนสั้นชาวบ้าน 18 ประเภท ครั้งที่ 3 ณ ศูนย์ฝึกอบรมฯ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง

งานนี้ได้รับเกียรติจากพล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผบช.ประจำฯช่วยราชการภาค5 มาเป็นประธานเปิดงานแข่งขันยิงปืนสั้นชาวบ้าน (วันปืน ศฝร.ภ.5) เพื่อเป็นการเรียรู้และทบทวนในการใช้อาวุธปืนในแต่ละประเภท ที่มีการแข่งขันถึง18ประเภท มีประชาชนทั่วไปให้ความสนใจวส่งทีมเข้ามาร่วมแข่งเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นก็ยังมีทีมตำรวจร่วมลงแข่งด้วย งานนี้ต่อสู้กันด้วยฝีมือและประสบการณ์ ว่าใครจะแม่นกว่ากัน ตามฐานต่างๆในการยิงเป้าและตามข้อกำหนดของชมรมฯ
ปีนี้ก็พิเศษกว่าทุกปี เพราะได้รับการสนับสนุนจากดร.กาญจนา เอี่ยมสมบัติ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ชมรมยิงปืนศฝร.ภ.5 ได้มอบเสื้อยิงปืนให้กับคณะกรรมการทุกท่าน น้ำดื่มตลอดงานและถ้วยรางวัล พร้อมกันนั้นศูนย์ฝึกฯได้มอบใบประกาศนียบัตรผู้ผ่านการอบรมยิงปืนรุ่นที่19 ที่ผ่านมาให้กับดร.กาญจนา อีกด้วยพร้อมขึ้นรับถ้วย ท็อปกัน วีไอพี. งานนี้สร้างความปราบปลื้มให้กับผู้สนับสนุนเป็นอย่างมาก และขอแสดงความยินดีแต่ละทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันยิงปืนสั้นชาวบ้าน (วันปืนศฝร.ภ.5) ทั้ง18ประเภทในครั้งปีด้วย

ส่วนทีมที่พลาดไปก็อย่าได้เสียใจ จัดรวมทีมกันใหม่ไว้เจอกันอีกครั้งปีหน้า กับความท้าทายในกีฬายิงปีนแบบนี้ งานนี้ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ด้วยการดูแลของพ.ต.อ.สุริยงค์ วุฒิ รองผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค5 พร้อมทีมงานครูฝึก ที่ทำให้งานนี้สำเร็จไปด้วยดี ปีหน้าพบกันใหม่ของคนรักยิงปืน

สาวงามจากรั้ว ม.แม่โจ้  คว้าตำแหน่งขวัญใจ”งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”

เชียงใหม่ อำเภอหางดงจัดกิจกรรม “งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 น้องออมสิน สาวงามจากรั้วมหาวิทยาลัยแม่โจ้  คว้าตำแหน่งขวัญใจ”งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 ไปครองพร้อมกับมงกุฎ สายสะพาย ถ้วยรางวัล เงินสด 10,000 บาท

ที่บริเวณลานกิจกรรมข้างโรงเรียนหางดงรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ หมู่ที่ 5 ต.หางดง อำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรม “งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 20-29 พ.ย.67 นี้เป็นต้นมา โดยมี นายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอหางดงเชียงใหม่ นางกิรณา ทิพย์คำ นายกกิ่งกาชาดอำเภอหางดง พร้อมคณะกรรมกิ่งกาชาด หน.ส่วนราชการทุกหน่วยงาน อปท.ทั้ง 11 ตำบล 109 หมู่บ้าน ชมรมกำนัน ผญบ.ผู้ที่เกี่ยวข้องประชาชมจำนวนมากท่องเที่ยวชมในงานในครั้งนี้อย่างเนืองแน่น

ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่ออนุรักษ์รักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอหางดงให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และเพื่อมอบความสุขและคลายความทุกข์ของพี่น้องประชาชนหลังจากประสบอุทกภัย โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น การประกวดขบวนของดีประจำตำบล การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งท้องที่ และท้องถิ่น การประกวดรำวงประยุกต์ การประกวดนางสาวหางดง การประกวดหนูน้อยหางดง การประกวดมิสเตอร์หางดง การออกร้านผลิตภัณฑ์ของชุมชนหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) การออกร้านมัจฉาพาโชค และ การแสดงของศิลปิน เป็นประจำทุกคืน ผู้คนประชาชนพากันมาเที่ยวชมฟรีตลอดงาน

โดยคืนที่ 24 พ.ย.67 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ที่เวทีชั่วคราวมีการประกวดสาวงาม ตัดสินขวัญใจ”งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 ได้สาวงามที่เข้าประกวด 10 สาวงาม ส่วนบรรยากาศเป็นอย่างคักคึกยิ่งใหญ่ ตระการตา ต่างมีกองเชียร์มาให้กำลังใจสาวงามที่เข้าประกวดเป็นจำนวนมาก ในที่สุดคณะกรรมการตัดสินสาวงามออกเหลือรอบสุดท้ายเหลือ 5 สาวงาม ในที่สุดจนชนะใจกรรมการ ชนะเลิศได้แก่ หมายเลข 7 น.ส. ทัฐชา ปัญญาราษฎร์ อายุ 20 ปี (ขื่อเล่น น้องออมสิน มาจาก รั้วมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จากนั้น นายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอหางดง พร้อมด้วยนางกิรณา ทิพย์คำ นายกกิ่งกาชาดอำเภอหางดง ขึ้นมอบสายสะพาย สวมมงกุฎ พร้อมมอบเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท และ รองทั้ง4 ท่าน รองอันดับ 1 น.ส. ภัทรภรณ์ รัตนประดิษฐ์ น้องไอซ์ อายุ 22 ปี จากรั้วมหาลัยเชียงใหม่ รองอันดับ 2 นางสาว ณิชนันท์ พิศไหว น้องมายมิ้น อายุ 20 ปี จากรั้วมหาลัยเชียงใหม่ รองอันดับ 3 น.ส. กันต์ณัชกร เซี่ยงฝุงวริศ น้องกุ๊กกิ๊ก อายุ 22 ปี จากรั้ว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และ รองอันดับ 4 น.ส. ณภัทรจีรา กันทา น้องข้างฟ่าง อายุ 19 ปี จากรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

ส่วนน้องออมสินขวัญใจ “งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 เปิดใจดีใจมากที่ได้เป็นขวัญใจ จะประชาสัมพันธ์อำเภอหางดง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่นหมู่บ้าน”ถวายแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อดังมาช้านานรู้กันทั้งไทยและต่างชาติทั่วโลก”คำขวัญอำเภอหางดง “เศรษฐกิจดี สตรีแสนสวย ร่ำรวยหัตถกรรม วัฒนธรรมมั่นคง หางดงพัฒนา ชาวประชาแจ่มใส

พิพัฒน์ สุวรรณ ขทร เชียงใหม่…รายงาน

ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมืองปะทะกลุ่มรับจ้างขนยา ยึดไอซ์ 8 เป้รวม 200 กก.

ทหารทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมืองปะทะกลุ่มรับจ้างขนยา ยึดไอซ์ 8 เป้รวม 200 กก. อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 พลโทกิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35)เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบด้านจังหวัดเชียงรายว่าช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

กกล.ผาเมือง โดย หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก นำกำลังลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณ บ.ปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จว.ช.ร. ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 8-10 คน แบกสัมภาระเดินมาตามเส้นทาง จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ฝ่ายเรา จึงเกิดการปะทะประมาณ 15 นาที เมื่อสิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบเป้สะพายหลังดัดแปลง จำนวน 8 เป้ ภายในบรรจุไอซ์ จำนวน 25 ห่อ/เป้ ๆ ละ 25 กก. น้ำหนักรวม 200 กก. ไม่พบกลุ่มขบวนการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ปัจจุบันหน่วยได้ควบคุมพื้นที่เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้ใหญ่ใจดีซับไออุ่นเด็กๆ บนดอย ร.ร.ตชด.อ.เวียงแหง

เดินทางขึ้นดอยมอบไออุ่น มอบความรักให้กับเด็กๆบนดอยอีกปีกับหนาวนี้ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนช่ยแดนเบญจมะ1อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ที่คุณกาญจนา เอี่ยมสมบัติ ผู้ใหญ่ใจดีแห่งล้านนา พร้อมด้วยทีมตำรวจสภ.สันทราย ยกพลขึ้นดอยเวียงแหง นำเสื้อผ้ากันหนาว รองเท้า ขนม ของเล่น ไปมอบให้กับครู นักเรียนโรงเรียน ตชด.เบญจมะ1 อ.เวียงแหง ซึ่งตอนนี้ทางบนดอยอากาศหนาวกันแล้ว โรงเรียนแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโรง ที่ทางคุณกาญจนา ได้ดูแลอุปถัมภ์อยู่ ทุกๆปีก็จะขึ้นมามอบสิ่งของซับไอหนาวให้กับครู-นักเรียนแบบนี้ตลอด

ปีนี้ก็เช่นเดียวกันและได้รับเกียรติจากผกก.ตชด.ภาค3ที่มอบหมายให้ ร.ต.อ.วีรวัฒน์ ตาแก้ว ผบ.มว.กก.ตชด.33 พร้อมคณะ เป็นตัวแทนเดินทางขึ้นดอยมาต้อนรับและดูแลความปลอดภัยให้ในครี้งนี้ ทางทีมงานกาญจนาฝากขอบคุณท่านด้วย

ส่วนน้องๆที่ได้รับสิ่งของที่เราได้นำมามอบให้ดูมีความสุขกันดีจะเห็นได้จากรอยิ้มและการแสดงออกของเด็กๆ ถึงโรงเรียนแห่งนี้จะหางไกลจากผู้คน การเดินทางลำบาก แต่ทุกคนที่มามอบสิ่งของให้ครั้งนี้ มาด้วยใจรักและความจริงใจ ก็หวังว่าน้ำใจไมตรีครั้งนี้เราจะรักษาไว้และจะทำกันแบบนี้ตลอดไป

สปสช. เยี่ยมติดตามคลินิกทันตกรรมในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ จ.ลำพูน

รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ เชียงใหม่-ลำพูน เยี่ยมติดตามการดำเนินการคลินิกทันตกรรมในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2567  ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.วิวัฒน์ ฉัตรวงศ์วาน กรรมการทันตแพทยสภา วาระที่ 11 และทพญ.ปาริชาติ ลุนทา  ผู้อำนวยการกลุ่ม สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่ จ.ลำพูน ลงเยี่ยมชมคลินิกทันตกรรม ซี สไมล์พลัส คลินิกทันตกรรมเล็ทสไมล์ลำพูน คลินิกทันตกรรมสบาย สไมล์ และ คลินิกทันตกรรม พร้อมพลัส

โดยมีทพ.เอกรินทร์ พรมพฤกษ์ และทพ.เอกภาพ พัทยาวรรณ เจ้าของคลินิกทันตกรรม ซี -สไมล์ พลัส ที่เข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว รวมทั้งรับฟังสรุปผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ หลังจากที่คลินิกทันตกรรมเหล่านี้เข้าร่วมโครงการมาตั้งแต่เฟส 2 และติดสติกเกอร์ โลโก้ 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่าคลินิกเหล่านี้เข้าร่วมเป็นหน่วยนวัตกรรมในระบบบัตรทองและสามารถมารับบริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ทพ.วิวัฒน์ กล่าวว่า ตามโครงการบัตรประชาชนใบเดียว 30 บาทรักษาทุกโรค โดยทันตแพทยสภามีการกำหนดมาตรฐนดูแล สำหรับทันตแพทย์ที่เข้าร่วมโครงการฯ ทุกคนต้องผ่านการอบรม 8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหลักสูตรของทันตแพทยสภา ในส่วนของ คลินิกทันตแพทย์ที่เข้าร่วม ต้องได้มาตรฐาน หลักเกณณ์ ของทันตแพทยสภา เช่น 1. การควบคุมการติดเชื้อ 2. การบันทึกข้อมูลด้วยระบบคลาวด์ 3.มาตรฐานการสื่อสาร และ 4. มาตรฐานดูแลคนไข้

ทพ.เอกรินทร์ พรมพฤกษ์ เจ้าของคลินิกทันตกรรม ซี -สไมล์ พลัส จ.ลำพูน กล่าวว่า จากการที่ได้เข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว มาแล้ว 5เดือนพบว่ามีผู้ใช้สิทธิ์บัตรทองเพิ่มขึ้นจากเดิม 25% ส่วนใหญ่จะเห็นจากการประชาสัมพันธ์ผ่านทางออนไลน์ Facebook ว่าประชาชนใช้สิทธิ์บัตรทองสามารถเข้ารับบริการได้โดยไม่ต้องชำระเงิน ยังสะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอนานเหมือนกับไปโรงพยาบาล อีกทั้งประชาชนที่รับบริการแม้ว่าสิทธิอยู่ต่างจังหวัดก็มารับบริการได้

“เรายังมีการจัดระบบคนไข้โดยให้เสียบบัตรประชาชนหากรอนานเกิน 30 นาทีก็จะมีการแจ้งเตือนอัตโนมัติหรือเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุย เพื่อให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายไม่เครียด ปัญหาอุปสรรคก็มีในช่วงแรกที่ยังไม่เข้าใจ ปัจจุบันปัญหาการเบิกชดเชยก็สามารถเครียร์ได้ภายใน2-3วัน ” ทพ.เอกรินทร์

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจอย่างมาก แต่ยังมีสิ่งที่เป็นกังวลในอนาคตของการให้บริการทันตกรรม ประชาชนที่มีสิทธิ์ไปใช้สิทธิ์โรงพยาบาล ต้องรอคิวยาวนานบางครั้งทั้งวันหากเป็นหน่วยนวัตกรรมที่เข้าร่วมโครงการ ฯประชาชนมารับบริการมากขึ้นอัตราเฉลี่ย 1.8 ครั้งต่อคนต่อปี จากเดิมประชาชนมารับบริการเพียงแค่ 1.4 ครั้งต่อคนต่อปีเท่านั้น

“ปัจจุบันหน่วยทันตกรรมเอกชนที่เป็นนวัตกรรมและเข้าร่วมโครงการฯ มีทั้งหมด 44 จังหวัด และมากที่สุดคือกรุงเทพมหานคร ส่วนจังหวัดลำพูนพบว่า มีการบริหารจัดการดีมากตอบโจทย์การให้บริการเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่ามีคลินิกทันตกรรมที่ขอเข้ารับโครงการติดต่อทุกวันถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี” รองเลขาธิการสปสช.กล่าว

นบ.ยส.35 ร่วมกับ ปปส.ภาค 5 เปิดแผนปฏิบัติการ1ในพื้นที่ชายแดนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน

นบ.ยส.35 ร่วมกับ ปปส.ภาค 5 แถลงข่าวการเปิดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนชายแดนภาคเหนือ ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เน้นการทำงานบูรณาการเชิงรุก ลดความเดือนร้อนของประชาชน

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. พลโทกิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) แถลงข่าวการเปิดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนชายแดนภาคเหนือ ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ร่วมด้วย นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5, นายเสียงชัย สุมิตรวสันต์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานวิชาการ รักษาการในตำแหน่ง รองอธิบดีอัยการภาค 5, พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ,พลตรี ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร, พลตรี ยุทธภูมิ บุญฤทธิ์ รองเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย , พลตำรวจตรี อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3, พันเอก ชาญชัยวัฒน์ เปล่งสันเทียะ เลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2, พันตำรวจเอก รังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ,พันตำรวจเอก ทรงกริช ออนตะไคร้ รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่, นายมานพ แสงโสธร ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 6 ฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, แม่ฮ่องสอน และตาก

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ตามที่รัฐบาลได้ผลักดันให้ คณะกรรมการ ป.ป.ส. ออกประกาศกำหนดพื้นที่ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ 6 จังหวัด 21 อำเภอชายแดนภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่, จ.เชียงราย, จ.แม่ฮ่องสอน, จ.พะเยา, จ.น่าน และ จ.ตาก

ปัจจุบัน หน่วยงานภายใต้ นบ.ยส.35 ได้ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในพื้นที่ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ชายแดนภาคเหนือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ขึ้น โดยได้รวบรวมแผนงานและงบประมาณในการดำเนินงาน รวมทั้ง ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานในปีที่ผ่านมา และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การปฏิบัติงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 นี้ มีความต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้น อันจะสามารถบรรลุผลตามที่ได้ตั้งไว้เพื่อ “ ต้องการลดการนำเข้ายาเสพติดจากนอกประเทศ และ ลดการส่งออกหรือเป็นทางผ่านสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในการนำไปผลิตยาเสพติดในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ” ภายใต้กลไกการทำงานของ นบ.ยส.35 ที่มีส่วนดำเนินการ 5 ส่วนได้แก่ ส่วนบังคับบัญชา, ส่วนอำนวยการ, ส่วนสกัดกั้น, ส่วนปราบปรามและขยายผล และ ส่วนป้องกัน ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมยาบ้ากว่า 260 ล้านเม็ด, ไอซ์ 3,952 กก., เฮโรอีน 357.4 กก., คีตามีน 561 กก., ดำเนินคดีผู้ต้องหา 1,621 คน ปะทะกลุ่มขบวนการเสียชีวิต 31 ศพ

ร้องโรงแรมหรูใจกลางเมืองเชียงใหม่ ใช้เครื่องปั่นไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อชุมชน

ชาวชุมชนอุ่นอารีย์ ร้องเรียนโรงแรมหรูใจกลางเมืองเชียงใหม่ ใช้เครื่องปั่นไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โรงแรมหรูใจกลางเมืองเชียงใหม่ สร้างความเดือดร้อนจากเครื่องปั่นไฟ ชาวชุมชนอุ่นอารีย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ส่งหนังสือร้องเรียน ขอความเป็นธรรม เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงโรงแรมดังกล่าว กำลังเผชิญปัญหาเสียงรบกวนจากเครื่องปั่นไฟของโรงแรมโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ที่ผ่านมา ทางโรงแรมได้เปิดเครื่องปั่นไฟ ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน นอกจากนั้น ชาวบ้านยังกลัวเหตุเพลิงไหม้เนื่องจาก เครื่องปั่นไฟอยู่ใกล้กับ ถังแก๊สห้องครัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ ให้เข้ามาแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุดซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และผลกระทบต่อชาวชุมชนอีกด้วย

จากการลงพื้นที่สำรวจของทีมข่าว พบว่าเสียงดังจากเครื่องปั่นไฟดังกล่าวเกิดขึ้นโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ส่งผลให้ชาวบ้านหลายครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน นอนไม่หลับ ปวดหัว และรำคาญใจ

ทางด้านกองอำนวยการสิ่งแวดล้อมเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนของชาวชุมชน และได้กล่าวถึงระเบียบที่เกี่ยวข้องเรื่องเสียงดังรบกวน ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้อย่างเข้มงวด และเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชาวชุมชนรอบข้างอีกด้วย

จากการสอบถามข้อเท็จจริง นางสาวณิชาพร ชนาการต์ ผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว ซึ่งทางโรงแรมได้ยอมรับว่ามีการใช้เครื่องปั่นไฟ 2 เครื่องจริง และกำลังเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาเสียงที่กระทบต่อชาวชุมชนที่เกิดขึ้น

เก็บแล้วเศษซากกระทง ขยะมูลฝอย และสิ่งปฏิกูล หลังเสร็จสิ้นประเพณียี่เป็ง

ชลประทานเชียงใหม่ ทำความสะอาดเก็บกระทง ขยะมูลฝอย และสิ่งปฏิกูล หลังเสร็จสิ้นยี่เป็งเชียงใหม่ มีเศษซากกระทงลดลงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ คาดว่า 1 – 2 วันจัดเก็บเสร็จ

วันที่ 19 พ.ย. 67 เวลา 09.30 น. ที่ประตูระบายน้ำป่าแดด ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์การทำความสะอาดเก็บกระทง ขยะมูลฝอย และสิ่งปฏิกูล ภายใต้โครงการ “เมืองสะอาด คนในชาติมีสุข” โดยมี นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ พร้อมด้วยรองนายกเทศมนตรีตำบลป่าแดด เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานเชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1 เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.33 จิตอาสา 904 และประชาชนในพื้นที่ตำบลป่าแดด ได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดงานเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2567 ที่ได้เริ่มต้นขึ้นในห้วงระหว่างวันที่ 15 – 17 พฤศจิกายน 2567 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้เข้าร่วมงานเทศกาลและลอยกระทงในลำน้ำปิงเป็นจำนวนมาก ซึ่งตลอดระยะเวลาของการจัดงาน พบว่า มีเศษซากกระทง ที่ลอยมาติดบริเวณด้านหน้าประตูระบายน้ำป่าแดด ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 25 ตัน เมื่อเทียบกับในปี 66 ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 33 ตัน ในปีนี้ลดลงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และวัสดุกระทงที่พบเป็นวัสดุทางธรรมชาติ คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ วัสดุโฟมและชนมปัง รวมถึงอื่นๆ คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์

ที่ผ่านมามีกระแสออกมาว่า ควรงดการจัดกิจกรรมยี่เป็ง หรือลอยกระทง เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ในลำน้ำ ซึ่งกิจกรรมประเพณี เป็นสิ่งที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนาน ดังนั้น การรักษาประเพณีวัฒนธรรมก็เป็นสิ่งจำเป็น กิจกรรมที่ทำในวันนี้ ก็เป็นการฟื้นฟูลำน้ำแม่ปิงให้กลับมาใสสะอาด ภายหลังจากการจัดกิจกรรม ซึ่งทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1 และหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่ภายใต้ โครงการ “เมืองสะอาด คนในชาติมีสุข” เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้เกิดความสะอาดและสวยงานในลำน้ำปิง กำจัดสิ่งกีดขวางในทางน้ำทำให้น้ำปิงไหลสะดวก ไม่เกิดการเน่าเสีย สามารถใช้เป็นแหล่งน้ำดิบ ผลิตน้ำประปาให้ประชาชนในเขตจังหวัดเชียงใหม่ และปลูกจิตสำนึกและสร้างวินัยการทิ้งขยะ การคัดแยกขยะ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่

นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า การดำเนินการจัดเก็บเศษซากกระทง และกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ลอยติดบริเวณประตูระบายน้ำป่าแดดแห่งนี้ จะดำเนินการทั้งหมด 1 – 2 วัน โดยทางเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานเชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1 เทศบาลตำบลป่าแดด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และประชาชนจิตอาสา ได้ร่วมกันดำเนินการ ซึ่งปีนี้เศษซากกระทงลดลงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้จัดวางทุ่นไว้ด้านหน้าประตูระบายน้ำ เพื่อให้เศษซากกระทงได้มารวมกันเพื่อการจัดเก็บได้ง่าย สามารถใช้ทั้งกำลังคน และรถแบ็คโฮ ทำการตักได้อย่างสะดวก เมื่อดำเนินการจัดเก็บแล้ว เศษซากกระทงดังกล่าว ก็จะนำไปรวมไว้ในพื้นที่ในเขตเทศบาลฯ เพื่อกำจัดตามวิธีการที่เหมาะสมต่อไป

ผบ.นบ.ยส.35 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำงานทุกภาคส่วนใน การสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35)ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม กำชับเข้ม เน้นการบูรณาการ การทำงานทุกภาคส่วนใน การสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด

วันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน 2567 พลโท กิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35)และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ประกอบด้วย บก.สกัดกั้น นบ.ยส.35, บก.ควบคุมพื้นที่พิเศษ นบ.ยส.35, ฉก.ไชยานุภาพ และ ฉก.ทัพเจ้าตาก

การเดินทางครั้งนี้ เพื่อมอบนโยบาย การทำงาน ติดตามสถานการณ์ยาเสพติด การจัดวางกำลังสกัดกั้นยาเสพติด รับทราบ ผลการปฏิบัติงาน และขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ รวมทั้งรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะในการทำงาน หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) มีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุม 6 จังหวัด 21 อำเภอ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ (อ.เวียงแหง, อ.เชียงดาว, อ.ไชยปราการ, อ.ฝาง, อ.แม่อาย), จ.เชียงราย (อ.แม่ฟ้าหลวง, อ.แม่จัน, อ.แม่สาย, อ.เชียงแสน, อ.เชียงของ, อ.เวียงแก่น, อ.เทิง), จ.พะเยา (อ.ภูซาง), จ.น่าน (อ.เฉลิมพระเกียรติ) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.ปาย, อ.ปางมะผ้า) และ จ.ตาก (อ.พบพระ, อ.แม่สอด อ.ท่าสองยาง , อ.แม่ระมาด และ อ.อุ้มผ้าง)

ผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ต.ค. 67 – 17 พ.ย. 67 มีเหตุการณ์สำคัญ 31 ครั้ง เหตุการณ์ (ปะทะ 6 ครั้ง ตรวจยึด/จับกุม 25 ครั้ง) จับกุมยาบ้า 30.67 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,777 กก., เฮโรอีน 140 กก., เคตามีน 615.86 กก. Happy Water 4.8 กก. เคมีภัณฑ์ 880 ตัน ผู้ต้องหา 36 คน เปรียบเทียบในห้วงเวลาเดียวกัน มีย้าบ้าเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 8.97 ไอซ์ ร้อยละ 70 เฮโรอีน ร้อยละ 6 และ คีตามีน ร้อยละ 24

ทั้งนี้ ผบ.นบ.ยส.35 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของระเบียบวินัย และการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการปฏิบัติงานร่วมกัน พร้อมกำชับให้กำลังพลตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ร่วมมือร่วมใจกัน สกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณท์ไม่ให้เข้า-ออก ประเทศไทยและไม่ยุ่งเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย

พร้อมกันนี้ ผบ.นบ.ยส.35 ได้มอบงบประมาณ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน และมอบผ้าห่มกันหนาว เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยหนาวอีกด้วย