ภาคเอกชนจับมือชาวบ้านจัดกิจกรรมคืนสมดุลให้ป่าด้วยจุลินทรีย์ พื้นที่ป่าสงวนขุนน้ำแม่กวง

GULF CMWTE สานพลังชุมชนพื้นที่ป่าสงวนขุนน้ำแม่กวง ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ปฏิบัติการ “ คืนสมดุลให้ป่าด้วยจุลินทรีย์ ” ซึ่งมีนโยบายในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม และได้ให้ความสำคัญต่อขบวนการของชุมชนในการแก้ปัญหาไฟป่า และ PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพื้นที่ฯ รวมถึงการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าไม้ระบบนิเวศในระยะยาว

มีการจัดโครงการ “ คืนสมดุลให้ป่าด้วยจุลินทรีย์ ” ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องในพื้นที่ ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดย บริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัทเชียงใหม่ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี จำกัด บริหารโครงการโดย นายจิรศักดิ์ มีสัตย์ ผอ.บริหารฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ ผู้รับผิดชอบโครงการและวิทยากร โดย ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน (นักวิชาการอิสระ) ผช.ผอ.ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ นายพงษ์พิเชษฐ์ ไชยเวช เจ้าหน้าที่ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ (GULF) ร่วมกับ ผู้นำชุมชนพื้นที่ป่าสงวนขุนน้ำแม่กวง ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยผู้นำชุมชนและชาวบ้านจาก 3 หมู่บ้าน ได้แก่ นส.จันทร์จิรา จำปาอิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านป่าตึงน้อย นายเสน่ห์ ธรรมภักดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านป่ายางงาม นายศุภกิจ พิลัยหล้า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านป่าไม้แดง ตำบลป่าป้อง นายเสน่ห์ ธรรมภักดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านป่ายางงาม อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และ อดีตกำนัน นายอำนวย ทิพย์จักร ผู้นำอาวุโส ที่สืบทอดเรื่องของการอนุรักษ์ป่าและดูแลป่ามาจนถึงปัจจุบัน และผู้นำอาวุโสชุมชนอีกหลายท่าน

กิจกรรมในวันนี้ ต่อเนื่องจากการขยายโครงการ “คืนสมดุลให้ป่าด้วยจุลินทรีย์ “ ซึ่งมีนโยบายในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม และได้ให้ความสำคัญต่อขบวนการของชุมชนในการแก้ปัญหาไฟป่า และ มลภาวะอากาศ PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพื้นที่ฯ รวมถึงการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าไม้ระบบนิเวศในระยะยาว จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมกับผู้นำชุมชน ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงดือนตุลาคม-ถึงพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดอบรมความรู้และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ชุมชน โดยร่วมกับ กำนันตำบลป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด ฯที่บ้านทุ่งยาว หมู่ 8 ฯ และ กิจกรรมในวันนี้ เป็นการขยายพื้นที่ใหม่ ร่วมกับทั้ง 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 7 มาผนึกกำลังร่วมกันกับ GULF CMWTE จัดกิจกรรม เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพการขับเคลื่อนการดูแลรักษาฟื้นฟูป่าแก้ปัญหาป่าเสื่อมโทรมของป่าไม้และไฟป่า ฯลฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยได้รับการส่งเสริมจาก วิทยากรจาก GULF CMWTE จัดกระบวนการร่วมกับผู้นำชุมชน (Work Shop) แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพปัญหา การดำเนินงานที่ผ่านมาและปัญหาอุปสรรคต่างๆ ทบทวนแนวทางการพัฒนาการทำงานที่จะก่อเกิดประสิทธิภาพ ต่อไป และ ได้ร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์และการบริหารจัดการให้เป็นระบบเป็นองค์กรชุมชน และมีแผนงานจัดตั้งเป็นเรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ชุมชน ในปลายเดือนมกราคม 2567 จะจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ชุมชนร่วมกัน ซึ่งวันนี้ได้รับการอบรมเรียนรู้องค์ความรู้การการผลิตชีวภัณฑ์ต่างๆ และ การนำจุลินทรีย์ ไปใช้เป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูป่า อาทิ การนำองค์ความรู้จากการวิจัยและผลงานวิชาการจากหลายสถาบันการศึกษา นำมาใช้ เช่น นำเชื้อราไมคอร์ไรซ่า และ เชื้อเห็ดป่า จุลินทรีย์ท้องถิ่น เช่น จุลินทรีย์จาวปลวก ไตรโคเดอร์มา มาใช้ฟื้นฟูดินจุลินทรีย์ในป่าและระบบนิเวศป่าไม้

การใช้จุลินทรีย์อีเอ็มผลิตปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยหมัก อีเอ็มบอล การพัฒนาปุ๋ยจากเศษอาหาร ใบไม้ เศษพืชผลทางการเกษตรมาพัฒนาคุณสมบัติทดแทนปุ๋ยเคมี ฯลฯ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพด้านการเกษตร ปุ๋ย สารไล่แมลง ชีวภาพแก้โรคพืช ต่างๆ ฯลฯ ซึ่งชุมชนจะสามารถผลิตใช้ในชุมชน และเป็นได้เอง และเป็นการพัฒนาธุรกิจชุมชน การผลิตอาหารปลอดภัย ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ สร้างอาชีพแก่ชุมชน ควบคู่กับการฟื้นฟูป่าไม้ ซึ่งผู้นำในที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นแนวทางที่แก้ปัญหาการทำงาน และเป็นจะเป็นโอกาสเสริมศักยภาพในการทำงานที่เป็นระบบ มีภาคเอกชนมาหนุนเสริม มีแนวทางที่เพิ่มขึ้นในการสร้างรายได้ชุมชนโดยทรัพยากรในท้องถิ่นฯและสอดคล้องกับวิถีชุมชน เป็นต้น

นอกจากนั้น มีการเตรียมแผนปฏิบัติการในช่วงเดือนนี้ไปจนถึงพฤษภาคม 2568 (หน้าแล้ง) และจะเป็นช่วงเกิดไฟป่าในทุกปี ชุมชนมีแผนร่วมกับหน่วยงานภาคราชการต่างๆ เตรียมรับมือการป้องกันไฟป่า และจะมีการเริ่มนำองค์ความรู้ด้านจุลินทรีย์ไปใช้ควบคู่กันโดยจะเริ่มเปิดพื้นที่รอบๆชุมชนก่อนเป็นพื้นที่นำร่องและโดยจะติดตามผลต่อเนื่องเป็นระบบ(วิจัยโดยชุมชน) เพื่อพัฒนาแนวทางการฟื้นฟูป่า รักษาระบบนิเวศน์ให้ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการพัฒนาองค์กรศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ เพื่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพต่อไป

ตรวจสุขภาพฟรี ตลอดทั้งงาน มหกรรมสุขภาพเมืองเชียงใหม่ Health Charming 2024

เปิดแล้วงาน มหกรรมสุขภาพเมืองเชียงใหม่ Health Charming 2024 ตรวจสุขภาพฟรี ตลอดทั้งงาน ยกทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากศูนย์ศรีพัฒน์ฯ มาไว้ที่นี่พร้อมให้บริการ และ คำแนะนำ เพื่อสุขภาพที่ดีของชาวเชียงใหม่ วันที่ 7 ถึง วันที่ 9 ธันวาคม นี้ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นางนฤมล ขันตีกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ศรีพัฒน์ และ ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ร่วมกัน เปิดงานมหกรรมสุขภาพเมืองเชียงใหม่ 2567 Health Charming Chiangmai 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 ถึง วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดง สินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพสุขภาพที่ดี ให้กับประชาชน ในจังหวัดเชียงใหม่ และ เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงเทคโนโลยี การบริการ และ ลดความเหลื่อมล้ำในด้านบริการทางการแพทย์ พร้อมทั้ง เป็นการสร้างความตระหนัก ให้กับประชาชน ได้สนใจในการดูแลสุขภาพ และ มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ โรคอุบัติใหม่ ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีผลต่อ สุขภาพจนนำไปสู่การป้องกันตนเอง และ สังคม รวมถึงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ของจังหวัดเชียงใหม่

นางนฤมล ขันตีกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ภายในงาน จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งบูธสุขภาพ และ บริการทางการแพทย์ แบบครบวงจร จากศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บูธรองค์กรภาคีเครือข่ายสุขภาพ มากกว่า 20 บูธ การเสวนาถ่ายทอดความรู้ ด้านสุขภาพ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะทางหลากหลายสาขา ตลอดจนการจัดนิทรรศการ ทางการแพทย์ และ ความรู้ ด้านสุขภาพให้แก่ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อถ่ายทอดสู่ประชาชน รวมถึงกิจกรรมตรวจสุขภาพฟรี และ กิจกรรมลุ้นรับส่วนลด หรือ ของรางวัลที่เป็นประโยชน์ ต่อการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย อย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ ประชาชน และ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน มหกรรมสุขภาพเมืองเชียงใหม่ 2567 Health Charming Chiangmai 2024 ระหว่างวันที่ 7 ถึง วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดง สินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ฟรี และ สามารถสอบถาม ข้อมูลการจัดงานฯ ได้ที่กองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 0-5399-8333 ต่อ 179 หรือ Facebook กองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
นางนฤมล ขันตีกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่

นบ.ยส.35 “บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล 5 ธ.ค. 67”

หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) “บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 67”
——————–
เมื่อ 6 ธันวาคม 2567 เวลา 0900 พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน ผบ.นบ.ยส.35 มอบหมายให้ พ.อ.เอกเอกวุฒิ สุขรส รอง เสธ นบ.ยส.35 นำกำลังพลจิตอาสา ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ณ ธนาคารเลือด รพ.นครพิงค์เชียงใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้ปริมาณโลหิต 4,500 ซีซี

งานประเพณีสามเป็ง : เพ็ญเดือนสามล้านนา บูชาพระธาตุแสงจันทร์

ภาคีเครือข่ายชุมชนตำบลสุเทพ ร่วมกับหลายหน่วยงาน เตรียมจัดงานประเพณีสามเป็ง : เพ็ญเดือนสามล้านนา บูชาพระธาตุแสงจันทร์ 12-15 ธันวาคม 2567 ณ วัดพระธาตุแสงจันทร์ (ซอยวัดอุโมงค์) ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

ภาคีเครือข่ายชุมชนตำบลสุเทพ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน ประเพณีสามเป็ง : “เพ็ญเดือนสามล้านนา บูชาพระธาตุแสงจันทร์” ครั้งที่ 2 ภายใต้กิจกรรม“เทศกาลเพียงเจียงใหม่ Chiang Mai and nowhere else Festival 2024 ด้วยคอนเซปต์ของงาน ” แม่หญิงล้านนา บูชาศาสนา และวัฒนธรรมละครหุ่นเงา โดยคณะละครพระจันทร์พเนจร มหรสพภายใต้ประเพณีสามเป็ง เพ็ญเดือนสามล้านนา บูชาพระธาตุแสงจันทร์วันที่ 12-15 ธันวาคม 2567 ณ วัดพระธาตุแสงจันทร์ (ซอยวัดอุโมงค์) ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย
วันที่ 12 ธันวาคม 2567 : พิธีอัญเชิญพระอุปคุต
วันที่ 13 รันวาคม 2567 : พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาดุ ฟ้อนต้อนต้อนรับพระบรมสารีริกธาตุ ตึกลองปู่จาถวายเป็นพุทรบูชา การแสดงพระธรรมเทศนา พิธีเวียนเทียนบูชาองค์พระบรมสารีกธาตุ กิจกรรมสรงน้ำพระธาตุ และการแสดงละครเงา เพียงเซียงใหม่
วันที่ 14 ธันวาคม 2567 : พิธีทำบุญตักมาตร พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปพระธาตุแลงจันทร์ พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชน์พระบรมสารีริกธาตุ การแสดงฟ้อนถวายเป็นพุทธบูชา การแสดงเชิงวัฒนธรรม และการแสดงละครเงาเพียงเชียงใหม่
วันที่ 15 ธันวาคม 2567 : พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัดดราหารเช้าแต่พระสงฆ์ในพิธี และพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุกลับสู่สำนักงานศิลปากรที่ 7

นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคม กิจกรรมทำวัตรสวดมนต์ ฟังเทศน์ จุดประทีป 1,000 ดวง ถวายเป็นพุทธบูชาและเวียนเทียนรอบพระธาตุแสงจันทร์

“ชาวตำบลสุเทพขอเชิญทุกท่านมาร่วมสัมผัสกับแสงจันทร์ในคืนวันพระจันทร์เพ็ญเดือนสาม สัมผัสกับแสงไฟอันงดงามจากผางประทีปและโคมไฟ สัมผัสกับแสงธรรม ในการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และสัมผัสกับแสงอารยธรรมจากกลิ่นอายวัฒนธรรมล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่”

แม่ทัพภาคที่ 3 ขับเคลื่อนปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองปี 68

แม่ทัพภาคที่ 3 ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองปี 68 พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าที่จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 พล.ท. กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ปี 2568 ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานอย่างจริงจัง เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว นั้น ทางกองทัพภาคที่ 3 ได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองปี 2568 โดยจากคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี และนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารบก กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดตั้ง ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก และเตรียมตั้ง ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า ที่กองพลทหารราบที่ 7 ซึ่งศูนย์อำนวยการฯส่วนหน้านี้ จะเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2567 ถึง 30 เมษายน 2568 เพื่อวางแผน อำนวยการ บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเฝ้าระวัง ติดตามประเมินสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และร่วมกันดับไฟป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อระหว่างจังหวัด จนถึงเขตรอยต่อระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และพื้นที่เปราะบาง รวมถึงประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ผลกระทบไฟป่า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ประกอบกับการจัดกำลังเฝ้าระวังพื้นที่ ซึ่งมีหน่วยทหารรับผิดชอบจำนวน 15 หน่วยโดยมีการบูรณาการอากาศยานจากทุกภาคส่วน จำนวน 30 เครื่อง

แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวต่อว่า ในปีกองทัพภาคที่ 3 จะใช้ประโยชน์จากการฝึกตามวงรอบประจำปีโดยปรับการฝึกใช้พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า และพื้นที่เผาไหม้ซ้ำซาก เพื่อลาดตระเวนป้องปรามในพื้นที่ และใช้กลไกรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฝ่ายทหาร ในการประสานการปฏิบัติในพื้นที่รับผิดชอบ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่สำคัญจะนำจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 สนับสนุนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน

อย่างไรก็ตาม กองทัพภาที่ 3 ยังคงขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันข้ามแดนระหว่างประเทศผ่านทางคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น ไทย-เมียนมา RBC และ TBC เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

 

กรมป่าไม้เร่งแก้ไขปัญหาที่ทำกินในเขตป่าสงวน

อธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่พบผู้นำชุมชนและชาวบ้านบ้านเด่นเหม้า ต.แม่ลาน อ.ลี้ ร่วมแก้ปัญหาที่ดินทำกินและอยู่อาศัยในเขตป่าสงวน กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกรมป่าไม้เร่งดำเนินเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ตามโยบายของรัฐบาล

ณ วัดเด่นเหม้า ต.แม่ลาน อ.ลี้ จ.ลำพูน นายสุรชัย อลจบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยนายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายศักดา มณีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ ว่าที่พันตรี นรินทร์ ปิ่นสกุล ผอ.สจป.ที่ 1 (เชียงใหม่) นายกฤษชนะ นิสสะ ผอ.สจป.ที่ 4 (ตาก) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวของร่วมลงพื้นที่บ้านเด่นเหม้า พบปะผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ โดยมีพระฐาปนพงศ์ พรมสวัสดิ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดเด่นเหม้า ร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ทำกินซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่หาดและป่าแม่ก้อ รวมถึงการขอจัดตั้งป่าชุมชนการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ ทั้งนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ที่ชาวบ้านได้ร้องขอพร้อมจะเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการโดยเร่งด่วน

ขณะเดียวกันผู้นำชุมชนและ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ อำเภอลี้ พระสงฆ์ในพื้นที่อำเภอแม่ทา อำเภอดอยเต่า จ.เชียงใหม่ และชาวบ้านในพื้นที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ ได้เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ทำกินซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งอธิบดีกรมป่าไม้ ได้มอบหมายให้นายศักดา มณีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกรมป่าไม้เร่งรวบรวบข้อมูลเพื่อดำเนินเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน แก้ไขปัญหาที่ทำกินเพื่อขับเคลื่อนตามโยบายของรัฐบาลต่อไป

เดินหน้ารณรงค์ 16 วัน แห่งการเคลื่อนไหว ต่อต้านความรุนแรง ด้วยเหตุแห่งเพศ

จังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้ารณรงค์ 16 วัน แห่งการเคลื่อนไหว ต่อต้านความรุนแรง ด้วยเหตุแห่งเพศ ต่อต้านการค้ามนุษย์ รูปแบบออนไลน์ เซ็นเตอร์ ในผู้หญิง สร้างความตระหนักรู้ ในการแก้ไขปัญหา การค้ามนุษย์นผู้หญิง และ อาชญากรรม และ ภัยอันตรายทางไซเบอร์

ที่ ลานก้ามปู จริงใจมาเก็ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นานนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน รณรงค์ 16 วัน แห่งการเคลื่อนไหว ต่อต้านความรุนแรง ด้วยเหตุแห่งเพศ ต่อต้าน การค้ามนุษย์รูปแบบออนไลน์ เซ็นเตอร์ ในผู้หญิง โดยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกับมูลนิธิ เพื่อความเข้าใจเด็ก FOCUS มูลนิธิศูนย์ เพื่อน้องหญิง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกัน และ ปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธร ภาค 5 รวมทั้ง หน่วยงาน และ องค์กรพันธมิตร ทั้งในประเทศ และ ระดับนานาชาติมากกว่า 26 หน่วยงาน โดยการสนับสนุนจาก โครงการความร่วมมือระหว่าง UN Women กับ รัฐบาลญี่ปุ่น และ จากมูลนิธิไดอาโกเนีย ประเทศไทย (Diakonia Thailand) จัดกิจกรรมรณรงค์ดังกล่าวขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ในการแก้ไขปัญหา การค้ามนุษย์นผู้หญิง และ อาชญากรรม และ ภัยอันตรายทางไซเบอร์

ภายในงานมีการ ปาฐกถา ในหัวข้อ การสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อป้องกันความรุนแรง ต่อสตรี และ การค้ามนุษย์ โดย นางสาวกรวิไล เทพพันธ์กุลงาม ผู้แทน UN Women Thailand และ การมอบ ทุนการศึกษา และ ประกาศนียบัตร ผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย และ ภาพวาด ภายใต้หัวข้อ Invisible Scars: บาดแผลที่มองไม่เห็นของ เหยื่อบนโลกไซเบอร์ นอกจากนี้ยังมีเวทีสนทนา กับ ผู้เชี่ยวชาญ ในประเด็น การค้ามนุษย์ และ การแสวงประโยชน์ ทางไซเบอร์ต่อผู้หญิง และ เด็ก การจัดบูธนิทรรศการ ซึ่งมีทั้งความรู้เกี่ยวกับ ภัยที่เกิดขึ้น กับผู้หญิง และ เยาวชน,ภารกิจ และ บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,ช่องทางการติดต่อขอความช่วยเหลือ,เกมส์ และ เวิร์คชอป พร้อมรับของรางวัลพิเศษ จากการร่วมกิจกรรม การแสดงดนตรีโฟล์คซอง ด้วย

ทั้งนี้ปัจจุบัน พบว่า ความมั่นคงของผู้คน ได้เปลี่ยนแปลงไป เป็นอย่างมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทุกคน มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ ซึ่งสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์ และ สื่อสารกันได้อย่างอิสระ กลุ่มขบวนการการค้ามนุษย์ ก็เช่นเดียวกัน โดยพบว่าการก่ออาชญากรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับออนไลน์เซ็นเตอร์กำลังแพร่หลาย จากหลักฐานหลากหลายแห่งชี้ว่า ร้อยละ 20 ถึง 40 ของเหยื่อในออนไลน์เซ็นเตอร์ เป็นสตรีและเด็กหญิงซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลต่อความมั่นคงและสันติภาพในสังคมอย่างร้ายแรง

ศฝร.ภ.5 จัดแข่งขันยิงปืนสั้นชาวบ้าน 18 ประเภท จ.ลำปาง

ชมรมยิงปืนศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 (ศฝร.ภ.5) จัดการแข่งขันยิงปืนสั้นชาวบ้าน 18 ประเภท ครั้งที่ 3 ณ ศูนย์ฝึกอบรมฯ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง

งานนี้ได้รับเกียรติจากพล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผบช.ประจำฯช่วยราชการภาค5 มาเป็นประธานเปิดงานแข่งขันยิงปืนสั้นชาวบ้าน (วันปืน ศฝร.ภ.5) เพื่อเป็นการเรียรู้และทบทวนในการใช้อาวุธปืนในแต่ละประเภท ที่มีการแข่งขันถึง18ประเภท มีประชาชนทั่วไปให้ความสนใจวส่งทีมเข้ามาร่วมแข่งเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นก็ยังมีทีมตำรวจร่วมลงแข่งด้วย งานนี้ต่อสู้กันด้วยฝีมือและประสบการณ์ ว่าใครจะแม่นกว่ากัน ตามฐานต่างๆในการยิงเป้าและตามข้อกำหนดของชมรมฯ
ปีนี้ก็พิเศษกว่าทุกปี เพราะได้รับการสนับสนุนจากดร.กาญจนา เอี่ยมสมบัติ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ชมรมยิงปืนศฝร.ภ.5 ได้มอบเสื้อยิงปืนให้กับคณะกรรมการทุกท่าน น้ำดื่มตลอดงานและถ้วยรางวัล พร้อมกันนั้นศูนย์ฝึกฯได้มอบใบประกาศนียบัตรผู้ผ่านการอบรมยิงปืนรุ่นที่19 ที่ผ่านมาให้กับดร.กาญจนา อีกด้วยพร้อมขึ้นรับถ้วย ท็อปกัน วีไอพี. งานนี้สร้างความปราบปลื้มให้กับผู้สนับสนุนเป็นอย่างมาก และขอแสดงความยินดีแต่ละทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันยิงปืนสั้นชาวบ้าน (วันปืนศฝร.ภ.5) ทั้ง18ประเภทในครั้งปีด้วย

ส่วนทีมที่พลาดไปก็อย่าได้เสียใจ จัดรวมทีมกันใหม่ไว้เจอกันอีกครั้งปีหน้า กับความท้าทายในกีฬายิงปีนแบบนี้ งานนี้ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ด้วยการดูแลของพ.ต.อ.สุริยงค์ วุฒิ รองผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค5 พร้อมทีมงานครูฝึก ที่ทำให้งานนี้สำเร็จไปด้วยดี ปีหน้าพบกันใหม่ของคนรักยิงปืน

สาวงามจากรั้ว ม.แม่โจ้  คว้าตำแหน่งขวัญใจ”งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”

เชียงใหม่ อำเภอหางดงจัดกิจกรรม “งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 น้องออมสิน สาวงามจากรั้วมหาวิทยาลัยแม่โจ้  คว้าตำแหน่งขวัญใจ”งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 ไปครองพร้อมกับมงกุฎ สายสะพาย ถ้วยรางวัล เงินสด 10,000 บาท

ที่บริเวณลานกิจกรรมข้างโรงเรียนหางดงรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ หมู่ที่ 5 ต.หางดง อำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรม “งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 20-29 พ.ย.67 นี้เป็นต้นมา โดยมี นายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอหางดงเชียงใหม่ นางกิรณา ทิพย์คำ นายกกิ่งกาชาดอำเภอหางดง พร้อมคณะกรรมกิ่งกาชาด หน.ส่วนราชการทุกหน่วยงาน อปท.ทั้ง 11 ตำบล 109 หมู่บ้าน ชมรมกำนัน ผญบ.ผู้ที่เกี่ยวข้องประชาชมจำนวนมากท่องเที่ยวชมในงานในครั้งนี้อย่างเนืองแน่น

ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่ออนุรักษ์รักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอหางดงให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และเพื่อมอบความสุขและคลายความทุกข์ของพี่น้องประชาชนหลังจากประสบอุทกภัย โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น การประกวดขบวนของดีประจำตำบล การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งท้องที่ และท้องถิ่น การประกวดรำวงประยุกต์ การประกวดนางสาวหางดง การประกวดหนูน้อยหางดง การประกวดมิสเตอร์หางดง การออกร้านผลิตภัณฑ์ของชุมชนหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) การออกร้านมัจฉาพาโชค และ การแสดงของศิลปิน เป็นประจำทุกคืน ผู้คนประชาชนพากันมาเที่ยวชมฟรีตลอดงาน

โดยคืนที่ 24 พ.ย.67 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ที่เวทีชั่วคราวมีการประกวดสาวงาม ตัดสินขวัญใจ”งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 ได้สาวงามที่เข้าประกวด 10 สาวงาม ส่วนบรรยากาศเป็นอย่างคักคึกยิ่งใหญ่ ตระการตา ต่างมีกองเชียร์มาให้กำลังใจสาวงามที่เข้าประกวดเป็นจำนวนมาก ในที่สุดคณะกรรมการตัดสินสาวงามออกเหลือรอบสุดท้ายเหลือ 5 สาวงาม ในที่สุดจนชนะใจกรรมการ ชนะเลิศได้แก่ หมายเลข 7 น.ส. ทัฐชา ปัญญาราษฎร์ อายุ 20 ปี (ขื่อเล่น น้องออมสิน มาจาก รั้วมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จากนั้น นายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอหางดง พร้อมด้วยนางกิรณา ทิพย์คำ นายกกิ่งกาชาดอำเภอหางดง ขึ้นมอบสายสะพาย สวมมงกุฎ พร้อมมอบเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท และ รองทั้ง4 ท่าน รองอันดับ 1 น.ส. ภัทรภรณ์ รัตนประดิษฐ์ น้องไอซ์ อายุ 22 ปี จากรั้วมหาลัยเชียงใหม่ รองอันดับ 2 นางสาว ณิชนันท์ พิศไหว น้องมายมิ้น อายุ 20 ปี จากรั้วมหาลัยเชียงใหม่ รองอันดับ 3 น.ส. กันต์ณัชกร เซี่ยงฝุงวริศ น้องกุ๊กกิ๊ก อายุ 22 ปี จากรั้ว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และ รองอันดับ 4 น.ส. ณภัทรจีรา กันทา น้องข้างฟ่าง อายุ 19 ปี จากรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

ส่วนน้องออมสินขวัญใจ “งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีอำเภอหางดง”ประจำปี 2567 เปิดใจดีใจมากที่ได้เป็นขวัญใจ จะประชาสัมพันธ์อำเภอหางดง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่นหมู่บ้าน”ถวายแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อดังมาช้านานรู้กันทั้งไทยและต่างชาติทั่วโลก”คำขวัญอำเภอหางดง “เศรษฐกิจดี สตรีแสนสวย ร่ำรวยหัตถกรรม วัฒนธรรมมั่นคง หางดงพัฒนา ชาวประชาแจ่มใส

พิพัฒน์ สุวรรณ ขทร เชียงใหม่…รายงาน

ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมืองปะทะกลุ่มรับจ้างขนยา ยึดไอซ์ 8 เป้รวม 200 กก.

ทหารทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมืองปะทะกลุ่มรับจ้างขนยา ยึดไอซ์ 8 เป้รวม 200 กก. อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 พลโทกิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35)เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบด้านจังหวัดเชียงรายว่าช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

กกล.ผาเมือง โดย หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก นำกำลังลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณ บ.ปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จว.ช.ร. ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 8-10 คน แบกสัมภาระเดินมาตามเส้นทาง จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ฝ่ายเรา จึงเกิดการปะทะประมาณ 15 นาที เมื่อสิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบเป้สะพายหลังดัดแปลง จำนวน 8 เป้ ภายในบรรจุไอซ์ จำนวน 25 ห่อ/เป้ ๆ ละ 25 กก. น้ำหนักรวม 200 กก. ไม่พบกลุ่มขบวนการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ปัจจุบันหน่วยได้ควบคุมพื้นที่เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป