ลำพูน จัดงานแถลงข่าวกิจกรรม วิถีล้านนา กล้า – ท้า – แกร่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ลำพูน จัดงานแถลงข่าวกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ กับแนวคิด วิถีล้านนา กล้า – ท้า – แกร่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จังหวัดลำพูน โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน จัดงานแถลงข่าวกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ กับแนวคิด วิถีล้านนา กล้า – ท้า – แกร่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงเปิดฤดูกาลการท่องเที่ยวปลายปี 2567

วันที่ 2 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น. ที่ โรงแรมแกรนด์ ปา โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ลำพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน มอบหมายให้นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานการแถลงข่าวกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ วิถีล้านนา กล้า – ท้า – แกร่ง ร่วมกับท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และลำปาง กับกิจกรรมกีฬา 3 รายการต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วย กิจกรรมการปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว เส้นทางลำพูน – เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน ระยะทาง 156 กิโลเมตร ระหว่างวันเสาร์ที่ 26 – อาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 , กิจกรรมการแข่งขันไตรกีฬา เชียงใหม่ – ลำพูน ระหว่างวันเสาร์ที่ 2 – อาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 และกิจกรรมการแข่งขันวิ่งเทรล ลำพูน – ลำปาง ระหว่างวันเสาร์ที่ 9 – อาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 โดยมีเป้าหมายเพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้ร่วมท่องเที่ยวช่วงเปิดฤดูกาลการท่องเที่ยวภาคเหนือตอนบน 1 อันจะนำมาซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปี 2567 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และสื่อมวลชนในพื้นที่ ให้ความสนใจร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ด้าน นายกรวิทย์ ช่วยดู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวเชิญชวนนักปั่นร่วมกิจกรรม Lanna Cycling ที่แลนด์มาร์คและจุดท่องเที่ยวสวยสุด อาทิ อุทยานราชพฤกษ์ จุดชมวิวรักจัง อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ดอยกิ่วลม แล้วสิ้นสุดที่สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และมีความท้าทายนักปั่นขีดสุด ด้วยระยะทาง 156 กม. ระยะไต่มากกว่า 2,100 เมตร กับระยะเวลา 12 ชั่วโมง

ในขณะที่ร้อยเอก สันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเชิญชวนนักไตรกีฬาเข้าร่วมกิจกรรม Lanna Triathlon ซึ่งเป็นเส้นทางการแข่งขันใกล้ชิดธรรมชาติที่สวยงาม สด ใหม่ แต่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานการแข่งขัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการแข่งขันไตรกีฬา เพื่อการก้าวสู่การเป็นคนเหล็กที่แข็งแกร่งตามมาตรฐานการแข่งขันสากล และปิดท้ายกับนายวรวิทย์ วีระเชวงกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง ที่ร่วมเชิญชวนนักวิ่งร่วมกิจกรรม Lanna Trail และสนุกสนานไปกับเส้นทางธรรมชาติอย่างเต็มที่กับระยะทางวิ่ง 25 และ 34 กิโลเมตรในอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล และเสริมทางเลือกแก่นักวิ่งเทรลใหม่ที่สนใจทดสอบ กับระยะ 7 และ 15 กิโลเมตร ซึ่งสามารถสนุกกับเส้นทางการวิ่งที่ผ่านทั้งน้ำ ทั้งน้ำตก ทั้งป่า ภายใต้การดูแลจากเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด

สำหรับผู้สนใจร่วมกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์วิถีล้านนา กล้า – ท้า – แกร่ง สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ในวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยเริ่มต้นการสมัครกิจกรรมการปั่นจักรยาน เวลา 16.00 น. กิจกรรมไตรกีฬา เวลา 17.00 น.และกิจกรรมวิ่งเทรล เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

เดินgเครื่องเต็มสูบเครื่องสูบน้ำไฮโดร์โฟล์ 2 เครื่อง ช่วยเหลือพื้นที่อำเภอสารภี ผันน้ำลงน้ำกวง

เดินเครื่องสูบน้ำไฮโดร์โฟล์ 2 เครื่อง เร่งสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่อำเภอสารภี ผันน้ำลงน้ำกวง

ชลประทานเชียงใหม่ และสำนักงานชลประทานที่ 1 เดินเครื่องสูบน้ำไฮโดร์โฟล์ 2 เครื่อง เร่งสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่อำเภอสารภี ผันน้ำลงน้ำกวง

วันจันทร์ ที่ 30 ก.ย. 67 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากกรณีน้ำท่วมพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ และพื้นที่อำเภอรอบนอกของเมืองเชียงใหม่ ต่อมาทางด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมลงพื้นที่สำรวจเส้นทางการระบายน้ำตามเส้นทางตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ – ลำพูน พร้อมสั่งการให้ดำเนินการขุดลอกและเร่งระบายน้ำช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ขณะเดียวกันได้ให้ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1 นำเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือพื้นที่จังหวัดลำพูน ที่เป็นรอยต่อในเส้นทางน้ำด้วย

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ (30 ก.ย. 67) ทางสำนักงานชลประทานที่ 1 ได้ทำการติดตั้งและเดินเครื่องสูบน้ำเพื่อดึงมวลน้ำที่ท่วมในเขต ต.หนองแฝก อ.สารภี ผ่าน ต.อุโมงค์ และต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน ลงแม่น้ำกวง ที่ประตูน้ำปิงห่าง ต. เหมืองง่า จ.ลำพูน ระยะทาง 12 กิโลเมตร โดยใช้เครื่องสูบน้ำไฮโดรโฟล์ ขนาด 30 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง อัตราการสูบ 2 เครื่อง ประมาณ 300,000 ลบ.ม.ต่อวัน เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่อำเภอสารภี

ชลประทานเชียงใหม่ เร่งส่งเครื่องจักรกลหนักเข้าช่วยเหลือพื้นที่อุทกภัยแม่อาย

ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ชลประทานเชียงใหม่ ขานรับนโยบาย รรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งส่งเครื่องจักรกลหนัก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือพื้นที่อุทกภัยแม่อาย

วันที่ 14 ก.ย. 67 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้ส่งเครื่องจักรกลหนัก เริ่มปรับเส้นทางที่ได้รับความเสียหายจากดินโคลนถล่ม ทางขึ้นสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงอันเนื่องมาจากพระราชดำริห้วยเมืองงาม บ้านสุขฤทัย ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอฝาง และอำเภอแม่อาย ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีบ้านเรือน หน่วยงานราชการ และพื้นที่ทางการเกษตร รวมทั้งฝาย ได้รับความเสียหาย ล่าสุดทางด้าน นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่อำเภอแม่อาย เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 67 พร้อมกับได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้ขานรับนโยบายของท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบดีกรมชลประทาน และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้จึงได้ส่งเครื่องจักรกลหนัก เข้าไปในพื้นที่้เพื่อให้การช่วยเหลือเพื่อรับเส้นทางที่ได้รับความเสียหายจากดินโคลนถล่ม ทางขึ้นสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงอันเนื่องมาจากพระราชดำริห้วยเมืองงาม บ้านสุขฤทัย ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถบรรทุกน้ำ ขนาด 6,000 ลิตร จำนวน 2 คัน ไปช่วยชำระล้างถนน และบ้านเรือนของราษฎร ตามความต้องการของพี่น้องประชาชนบ้านใหม่หมอกจ๋าม ต.ท่าตอน แม่อาย พร้อมเจ้าหน้าที่

ในขณะเดียวกันทางสำนักงานชลประทานที่ 1 สนับสนุนรถบรรทุกน้ำ ขนาด 6,000 ลิตร จำนวน 8 คัน รถบรรทุกเทท้าย จำนวน 5 คัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร เครื่องมือ เข้าพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยเช่นกัน

เชิญชวนเที่ยวงานเทศกาลอะโวคาโด และ ของดีอำเภอหางดง ครั้งที่ 4

เชิญชวนเที่ยวงานเทศกาลอะโวคาโด และ ของดีอำเภอหางดง ครั้งที่ 4 เลือกซื้ออะโวคาโดคุณภาพดี และสินค้าเกษตรปลอดภัย ระหว่าง วันที่ 12 ถึง วันที่ 16 กันยายน นี้ พร้อมชมความสวยงามของ โลหะปราสาท พระธาตุศรีเมืองปง แห่งเดียวของภาคเหนือ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

ที่ สนามกีฬาเทศบาลตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลตำบลบ้านปง ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอหางดง และหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดงานเทศกาลอะโวคาโด และของดีอำเภอหางดง ครั้งที่ 4 ระหว่าง วันที่ 12 ถึง วันที่ 16 กันยายนนี้ นายจิรายุทธ วงค์แสนใจ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านปง เชิญชวนประชาชน และนักท่องเที่ยว ท่องเที่ยวในเทศกาลอะโวคาโด และของดีอำเภอหางดง ครั้งที่ 4 เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพ การปลูกอะโวคาโด และพืชผลทางการเกษตร อื่น ๆ ของเกษตรกรในพื้นที่ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในตำบลบ้านปง ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ สร้างรายได้ให้เกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ให้มั่นคงยั่งยืน

กิจกรรมภายในงานพบกับ การประกวดอะโวคาโด และพืชผลทางการเกษตร การแข่งขันลาบเมือง การแข่งขันกินอะโวคาโด การประกวดหนูน้อยอะโวคาโด การประกวดธิดาอะโวคาโด การออกร้านจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์ของดีตำบลบ้านปง การจัดนิทรรศการของหน่วยงานในพื้นที่อำเภอหางดง กิจกรรมวิ่งเทรล และมหรสพ การละเล่นต่างๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ เชิญชวนนักท่องเที่ยว เยี่ยมชม และกราบสักการะ พระธาตุศรีเมืองปง โลหะปราสาทแห่งเดียวของภาคเหนือ แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้

นายกเทศมนตรีตำบลบ้านปง กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำบลบ้านปง มีพื้นที่ปลูกอะโวคาโดมากในหมู่ที่ 5 6 7 8 10 และ หมู่ 11 เนื่องจากเป็นพืชผล ที่เจริญเติบโตได้ดี ในทุกสภาพพื้นที่ ให้ผลผลิตเร็ว และดก มีความหลากหลายของสายพันธุ์ ทั้งยังเป็นผลไม้ เพื่อสุขภาพที่มีคุณค่า ทางโภชนาการ ให้พลังงานสูง แต่มีประมาณน้ำตาลต่ำ จึงเป็นที่นิยม มีปริมาณความต้องการสูง ทั้งตลาดภายในประเทศ และต่างประเทศ เพิ่มขึ้นทุกปี

นอกจากอะโวคาโด ที่ส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ของตำบลบ้านปงแล้ว ยังมีพืชผลทางการเกษตรอื่น ที่มีการส่งเสริมให้ปลูก เช่น ผักกาดกวางตุ้ง คะน้าฮ่องกง ยอดชาโยเต้ เบบี้ฮ่องเต้ ผักกาดหอมใบแดง มะเขือม่วงก้านเขียว มะเขือม่วงก้านดำ ถั่วแขก กุยช่ายดอกไต้หวัน มะระหยก มะระขาว เสาวรสหวาน โกโก้ งาดำ ถั่วขาว ข้าว กุหลาบกระถาง เป็นต้น

ขอเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้สนใจร่วมงานเทศกาลอะโวคาโด และของดีอำเภอหางดง ครั้งที่ 4 ได้ตามกำหนดวันดังกล่าว ณ สนามกีฬาเทศบาลตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่

ชลประทานเชียงใหม่ ส่งเครื่องจักร เครื่่องมือ กำลังคน ช่วยเหลือประชาชนฝางและแม่อาย

ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ ส่งเครื่องจักร เครื่่องมือ กำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ฝางและแม่อาย จากผลกระทบพายุ “ยางิ” หลังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ทุกหน่วยงานเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

 

วันที่ 11 ก.ย. 67 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่เกิดฝนตกหนักจากพายุ “ยางิ” ในเขต อ.ฝาง และแม่อาย และตามข้อสั่งการของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2567 ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ทุกหน่วยงานเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวิสูตร จันทร์เขียว หัวหน้าฝ่ายช่างกล โครงการชลประทานเชียงใหม่ นำเครื่องจักร เครื่องมือ ประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง โรงเรียนรังษีวิทยา อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยรถ รถขุดไฮดรอลิคตีนตะขาบ รถบรรทุกน้ำ ขนาด 6,000 ลิตร รถบรรทุก 6 คัน รถบรรทุกพร้อมน้ำมันเชื้อเพลิงสนับสนุนเบื้องต้น 1,000 ลิตร และกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

สำหรับในพื้นที่อำเภอแม่อาย ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานเชียงใหม่ เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและเข้าให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนเช่นกัน นอกจากนี้ก็ได้สั่งการให้ตรวจสอบอาคารชลประทาน อ่างเก็บน้ำที่อยู่ส่วนรับผิดชอบของโครงการชลประทานด้วย ซึ่งเบื้องต้นยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่ามีหรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการแก้ไขทันที และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ภารกิจที่เข้าดำเนินการสนับสนุนอุทกภัยในเขต อ.แม่อาย อ. ฝาง ของโครงการชลประทานเชียงใหม่ มีแผนเข้าดำเนินการดังนี้ จุดที่1 คันกันน้ำแม่สาว ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ภารกิจ ปิดคันที่ขาดให้น้ำไหลกลับสู่ลำน้ำเดิม โดยใช้เครื่องจักร:รถขุดไฮดรอลิค 1 คัน รถบรรทุกเทท้าย 2 คัน รถ service 1 คัน จุดที่2: โรงเรียนรังสีวิทยา อ. ฝาง จ.เชียงใหม่ ภารกิจสูบน้ำที่ท่วมขังในโรงเรียน โดยใช้เครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว 1 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 6,000 ลิตร 1 คัน นอกจากนี้ในจุดอื่นๆ ได้ส่งเครื่องจักรที่พร้อมให้การสนับสนุนเมื่อมีการร้องขอรับการช่วยเหลือ ประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำ 8 นิ้ว 2 เครื่อง รถเทรเลอร์หัวลาก 1 คัน

นอกจากนี้ในพื้นที่อื่นๆ ตลอดลำน้ำแม่ปิง ลำน้ำสาขา ตั้งแต่ต้นน้ำแม่ปิง ที่อำเภอเชียงดาว จนถึงท้ายน้ำที่อำเภอจอมทอง ซึ่งมีประตูระบายน้ำแม่สอย ก็ให้ตรวจสอบระดับน้ำและควบคุมปริมาณน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ ไม่ให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นระดับน้ำในแม่น้ำปิง และแม่น้ำสาขา ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ดินถล่มระหว่างเส้นทางบ้านดอยแหลม-ปางต้นฆ้อง ล่าสุดมีผู้สูญหาย 4 ราย

ฝนตกหนักพื้นที่ อุทยานแห่งชาติฟ้าห่มปก ดินถล่มระหว่างเส้นทางบ้านดอยแหลม-ปางต้นฆ้อง ล่าสุดมีผู้สูญหาย 4 ราย สนธิกำลังเร่งติดตาม เจออุปสรรคพื้นที่ติดต่อสื่อสารยาก

วันที่ 10 ก.ย. 2567 นางสาวนิภาพร ไพศาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก รายงานว่า สืบเนื่องวันนี้ (10 ก.ย. 67) เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ปริมาณน้ำฝนบริเวณหน่วยฯ ดป.1 (ดอยลาง) 110 มม. ปริมาณน้ำฝนบริเวณหน่วยฯ ดป.4 (บ้านเล็กในป่าใหญ่) 160 มม. และลานกางเต็นท์กิ่วลม ปริมาณน้ำฝน 143 มม. ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วม ดินถล่ม ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่

เจ้าหน้าที่ หน่วยฯ ดป. 4 (บ้านเล็กในป่าใหญ่) เข้าช่วยเหลือราษฎรบ้านหมอกเปา ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ขนย้ายสิ่งของ ขนกระสอบทราย กั้นบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำ

นอกจากนี้ยังพบว่า เกิดดินถล่มระหว่างเส้นทางบ้านดอยแหลม-ปางต้นฆ้อง ไม่สามารถสัญจรได้ จนท. หน่วยฯ ดป.1 (ดอยลาง) ได้เข้าช่วยเหลือในจุดเกิดเหตุแล้ว เบื้องต้นรายงานว่ามีผู้สูญหาย 4 ราย แต่เนื่องจากสัญญาณโทรศัพท์ขัดข้อง การติดต่อสื่อสารเป็นไปด้วยความยากลำบาก และได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆ เข้าสบทบแล้ว

แพทย์ศาสตร์ มช. จัดงานนิทรรศการบริการวิชาการสู่ชุมชน เฉลิมฉลอง 65 ปี

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดงานนิทรรศการบริการวิชาการสู่ชุมชน เฉลิมฉลอง 65 ปี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื่องใน วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก

ที่ บริเวณโถง ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระบารมี ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดนิทรรศการบริการวิชาการสู่ชุมชน เฉลิมฉลอง 65 ปี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื่องใน วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก ในวันอังคารที่ 10 กันยายน 2567

รศ.นพ.ณัฐพงศ์ โฆษชุณหนันท์ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บอกว่า จากข้อมูลสำนักนโยบาย และยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า สถานการณ์ปัญหาการฆ่าตัวตายของประเทศไทย มีแนวโน้มการเสียชีวิต จากการฆ่าตัวตายเพิ่มมากขึ้น เฉลี่ยเดือนละ 350 ราย หรือ ทุกๆ 2 ชั่วโมง มีคนไทยฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 ราย ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญ ที่จะสนับสนุนการจัดงานนิทรรศการให้ความรู้ และได้แสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม ในการให้ความสำคัญกับเรื่อง ที่เป็นแนวโน้มของสังคม ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ และเนื่องในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 65 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงได้จัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ด้านการบริการวิชาการสู่สังคมมากมาย ดังนั้นภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงได้จัดงาน วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก ขึ้นในครั้งนี้

ผศ.นพ.อัศวิน นาคพงศ์พันธุ์ ประธาน CLT ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บอกว่า วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก ตรงกับวันที่ 10 กันยายน ของทุกปี องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันดังกล่าว เป็นวันสำคัญคือ วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก(World Suicide Prevention Day)โดยประกาศเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2546 ในปีหนึ่งๆ มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ เป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน เมื่อคิดเฉลี่ยต่อเวลาจะ พบว่า มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 คน ทุก 40 วินาที การฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตาย ยังเป็นปัญหาสาธารณสุข ที่สำคัญของประเทศไทย แต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายประมาณ 4,500 ถึง 5,000 คนต่อปี ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติอย่างมาก ปัญหาที่เกี่ยวข้องในเชิงลึกถึงสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ คือโรคทางจิตเวช โดยเฉพาะปัญหาโรคซึมเศร้า โรคซึมเศร้า ถือเป็นภาวะโรคโรคเรื้อรัง ที่ไม่ต่างจากเบาหวาน หรือ หัวใจ ไม่สามารถหายได้เอง ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลช่วยเหลือ ทางจิตเวชภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดนิทรรศการบริการวิชาการสู่ชุมชน เฉลิมฉลอง 65 ปี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื่องใน วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก เพื่อให้ความรู้ และป้องกันโรคซึมเศร้าในทุกช่วงวัย สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีการสื่อสารที่ดี เอาใจใส่ซึ่งกัน และกัน จะช่วยป้องกัน และลดปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคมต่อไป สมกับเจตนารมณ์ที่เป็นโรงพยาบาลในดวงใจ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ว่าคณะแพทยศาสตร์ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เป็นโรงพยาบาล และโรงเรียนแพทย์ในดวงใจ เพื่อยกระดับสุขภาวะอย่างยั่งยืน

นอกจากนั้น การสังเกตสัญญาณเตือน ที่จะทำร้ายตัวเองไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือพฤติกรรม อย่ามองว่า เป็นการเรียกร้องความสนใจ หรือเรื่องล้อเล่น ให้มองเป็นความต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนที่ต้องทำทันที ด้วยการให้คำแนะนำอย่างจริงใจ ไม่ตำหนิหรือซ้ำเติม ให้กำลังใจสร้างความหวังว่าปัญหานั้นแก้ไขได้ คอยระวังอย่างใกล้ชิดให้อยู่ในสายตา และให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ที่เขาเตรียมไว้ เพื่อทำร้ายตัวเอง แนะนำช่องทางในการให้คำปรึกษา เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือคลินิกให้คำปรึกษา หรือ สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อให้เขาเข้าสู่ระบบการช่วยเหลือโดยเร็ว ดังนั้น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีการสื่อสารที่ดี เอาใจใส่ซึ่งกัน และกัน จะช่วยป้องกัน และลดปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคม

กิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย การเสวนาในหัวข้อ การป้องกันการฆ่าตัวตาย โดย นพ.สุวัฒนชัย พรหมประสิทธิ์ กิจกรรมการให้ความรู้ และคัดกรองโรคซึมเศร้า และแนวทางการป้องกันการฆ่าตัวตาย ในเด็ก และ วันรุ่น โดย OPD จิตเวชศาสตร์เด็ก และวัยรุ่น กิจกรรมให้ความรู้ และคัดกรองโรคซึมเศร้า โดยทีมแพทย์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ กิจกรรมการดูแลใจ โดยนักจิตวิทยาคลินิก กิจกรรมสันทนาการ โดยทีมนักกิจกรรมบำบัด และกิจกรรมตอบคำถามรับของรางวัลภายในงาน

เกิดน้ำหลากเข้าท่วมถนนใน อ.แม่อาย แจ้งผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางด้วยความระมัดระวัง

เกิดน้ำหลากเข้าท่วมถนนใน อ.แม่อาย ตั้งแต่หน้า สนง.เกษตรอำเภอ-สะพานลำน้ำอาย รถสามารถสัญจรได้ 1 ช่องทาง ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางด้วยความระมัดระวัง

วันนี้ (10 ก.ย. 67) อำเภอแม่อาย ได้รายงานสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ ส่งผลให้เกิดเหตุน้ำหลากท่วมถนนทางหลวง ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 ตั้งแต่หน้าสำนักงานเกษตรอำเภอแม่อายถึงสะพานลำน้ำอาย

ซึ่งขณะนี้รถสามารถสัญจรได้หนึ่งช่องทาง และปัจจุบันกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่อายที่ 5 เทศบาลตำบลแม่อาย ชุดกู้ชีพกู้ภัยทิวา และชุด อปพร. บ้านใหม่ปู่แช่ ม.4 อยู่ระหว่างการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเเก่ผู้สัญจร ขอให้ประชาชนที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว สัญจรไป-มาด้วยความระมัดระมัง โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ระหว่างการสำรวจตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป

“พระครูอ๊อด” ส่งมอบน้ำใจ ผักสดกว่า 15 ตัน จากอมก๋อยช่วยเหลือชาวแม่โจ้

ผักสดจากยอดดอยสูง รวมน้ำหนักกว่า 15 ตัน จากอำเภออมก๋อย มาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัยและเศรษฐกิจยากลำบากในพื้นที่ชุมชนแม่โจ้อำเภอสันทราย

ที่ ลานสนามหญ้า วัดศรีดอนชัยป่าตึงงาม หรือวัดแม่แก้ดน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน หรือ พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง พระครูวิสาลจริยคุณ เจ้าอาวาสวัดแม่แก้ดน้อย พร้อมด้วย นายพะนะเซีย วงศ์โสตถิไกร หรือพ่อหนานหล้านักบุญแห่งดอยอมก๋อยและนายปิยะศักดิ์ ยโสธนชัย ร่วมกันนำผลผลิตทางการเกษตรหลากหลายชนิด อาทิ ฝักทอง ฝักเขียว มะเขือเทศ กระหล่ำปรีและแตงกวา รวมน้ำหนักกว่า 15 ตัน จากอำเภออมก๋อย มาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัยและเศรษฐกิจยากลำบาก

พระครูอ๊อด กล่าวว่า การนำผักสดมาช่วยเหลือครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของเกษตรกร ชาวอำเภออมก๋อย ที่ต้องการแบ่งปันความสุขให้กับผู้เดือดร้อน โดยมีพ่อหนานหล้าเป็นแกนนำในการรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในพื้นที่บนยอดดอยอมก๋อย และได้นำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในหลายจังหวัด อาทิ พื้นที่น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย แพร่ สุโขทัยและจังหวัดเชียงใหม่รวมน้ำหนักแล้วกว่า 150 ตัน ชึ่ง ผักที่นำมาแจกจ่ายในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ผัก แต่เป็นน้ำใจที่เราอยากส่งมอบให้กับพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญกับความยากลำบาก

กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนชาวแม่โจ้ อำเภอสันทราย กว่า 1,000 คน ที่มาร่วมรับมอบผักสด ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้เป็นอย่างมาก

ต้นไม้หักโค่นกีดขวางทางจราจร ในเขตพื้นที่หมู่ 6, 7, 15 ตำบลท่าตอน

เกิดเหตุต้นไม้หักโค่น ที่ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้วสัญจรได้ตามปกติ

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 10 กันยายน 2567 ) เวลา 09.00 น. เกิดเหตุต้นไม้หักโค่นกีดขวางทางจราจร ในเขตพื้นที่หมู่ 6, 7, 15 ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เบื้องต้นฝ่ายปกครองอำเภอแม่อาย ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตอน และชาวบ้านในพื้นที่ ได้ดำเนินการตัดต้นไม้ออก รวมถึงกำจัดสิ่งกีดขวาง และเครียร์เส้นทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ยานพาหนะสามารถสัญจรได้ตามปกติ

ทั้งนี้ อำเภอแม่อายได้เน้นย้ำให้องค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่ง เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำ ดินสไลด์ และพายุฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง