(มีคลิป) ผู้การเชียงใหม่ เร่งรัดคดีนักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเอาเงิน และหลอกแก้ผ้าช่วยเหลือตัวเอง รวมทั้งอดีตอาจารย์หญิงวัย 85 ปี มหาวิทยาลัยเดียวกัน ถูกหลอกให้รัก สูญเงินกว่า 15 ล้านบาท มีกลุ่มคนร้ายที่จะถูกออกหมายจับ ไม่ต่ำกว่า 100 คน

ผู้การเชียงใหม่ เร่งรัดคดีนักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเอาเงิน และหลอกแก้ผ้าช่วยเหลือตัวเอง รวมทั้งอดีตอาจารย์หญิงวัย 85 ปี มหาวิทยาลัยเดียวกัน ถูกหลอกให้รัก สูญเงินกว่า 15 ล้านบาท มีกลุ่มคนร้ายที่จะถูกออกหมายจับ ไม่ต่ำกว่า 100 คน

ที่สภ.ภูพิงศน์ราชนิเวศน์ เชียงใหม่ พลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ และชุดสืบสวน เพื่อเร่งรัดการสืบสวนการสอบสวน และหาวิธีป้องกัน และเส้นทางการเงินของคนร้าย เป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ หลังมีนักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดัง จำนวนมาก ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้กลอุบายหลอกลวง โดยการอ้างว่าเป็นตำรวจ มีหมายจับของนักศึกษา และจะช่วยเหลือ หรือให้ประกันตัว พร้อมทั้ง ส่งหมายจับปลอมไปให้ ทำให้นักศึกษาหลายราย จากหลายคณะวิชาตกเป็นเหยื่อ สูญเงินหลักล้านขึ้นไป มีนับ 10 ราย และยังมีอีกหลายราย ที่สูญเงินหลักหมื่น หลักแสน อีกจำนวนมาก รวมทั้งยังมี อดีตอาจารย์หญิงวัย 85 ปี มหาวิทยาลัยเดียวกัน ถูกแก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกให้รัก และโอนเงิน ให้กับคนร้าย โดยหลอกว่า จะเดินทางอยู่ที่ไทยพร้อมกับทรัพย์สินจำนวนมาก จะมาร่วมเปิดคลินิก ที่เชียงใหม่ จนหลงเชื่ออ้างติดด่านตรวจคนเข้าเมือง หรืออีกสารพัด จนโอนเงินไปให้ถึง 32 ครั้ง สูญเงินถึง 15 ล้านบาท

นอกจากนั้น ยังมีนักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยเดียวกันอีก 3 ราย ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ ใช้หมายจับปลอม หลอกนักศึกษาสาว มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย อ้างจะช่วยเหลือ ในการประกันตัว และให้โอนเงิน ไปให้หลายครั้ง สูญเงินไปกว่า 1,300,000 บาท และยังหลอกให้นักศึกษาสาวถอดเสื้อผ้า หมุนตัวอ้างว่า ดูตำหนิรูปพรรณ ตรงกับหมายจับหรือไม่ ซ้ำร้ายยังถูกให้ช่วยเหลือตัวเอง โดยกำชับให้พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงศ์ราชนิเวศน์ รวบรวมหลักฐาน ในการออกหมายจับ กลุ่มคนร้ายส่วนใหญ่เป็นบัญชีม้า มีไม่ต่ำกว่า 100 คน ซึ่งมีหลายแถว จนถึงบัญชี ที่เปลี่ยนเงินสด ไปเป็นเงินดีจิทัล พร้อมฝากเตือน ประชาชนและนักศึกษา อย่าได้หลงเชื่อ จะไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ หรือตำรวจ ติดต่อไปทางโซเซียส นำหมายจับไปโชว์ เด็ดขาด เชื่อได้ว่าเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ก่ออาชญากรรมข้ามชาติ และต้องมีสติทุกครั้ง และให้ช่วยกันบอกต่อเพื่อนๆไว้ด้วย.

งานสัมมนาวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 4 เนื่องในวาระครบรอบวันสถาปนา 40 ปี มจร วิทยาเขตเชียงใหม่

งานสัมมนาวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 4
เนื่องในวาระครบรอบวันสถาปนา 40 ปี มจร วิทยาเขตเชียงใหม่

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2567 พระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ.ดร. อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประธานกล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ นำการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ เรื่อง “นวัตกรรมการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาโลก” (The Educational Innovation of the World Buddhist University) โดยมีพระครูสิริบรมธาตุพิทักษ์, ผศ. ดร. รองอธิการบดี วิทยาเขตเชียงใหม่ กล่าวถวายรายงาน พระครูปริยัติเจติยานุรักษ์, ผศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์เชียงใหม่ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนาวิชาการ โดยมีมหาวิทยาลัย วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ ห้องเรียน เข้าร่วมสัมมนา วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 4 เนื่องในวาระครบรอบวันสถาปนา 40 ปี มจร วิทยาเขตเชียงใหม่ โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิต มจร วิทยาเขตเชียงใหม่ ร่วมงาน ณ ห้องประชุมเรียนรวม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาเขตเชียงใหม่ โป่งกุ่ม ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่.

กิจกรรมเปิดโลกวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โรงเรียนแม่วินสามัคคี

กิจกรรมเปิดโลกวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โรงเรียนแม่วินสามัคคี

เมื่อวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2567 โรงเรียนแม่วินสามัคคี อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนายนิเวศน์ เต๋จ๋า ผู้อำนวยการโรงเรียน จัดกิจกรรมเปิดโลกประจำปีการศึกษา 2567 ภายในงานมีกิจกรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็น Science Show ,การแสดงชุดท่องอวกาศ โดยนักเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ,การแต่งกายชุดรีไซเคิล ในตรีมท่องอวกาศ ของนักเรียนทุกระดับชั้น และการแสดงโชว์มายากล ในภาคบ่ายเป็นกิจกรรม Walk Rally เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาตามฐานต่าง ๆ อย่างอิสระ รวมทั้งหมด 9 ฐาน เป็นฐานกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ส่งเสริมให้นักเรียนได้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน เรียนรู้ภายนอกห้องเรียนอย่างเต็มศักยภาพ.

พช.เชียงใหม่ นำคณะกองทุนแม่ของแผ่นดินจ.เชียงใหม่ ร่วมโครงการเตรียมความพร้อมการเข้าร่วม “มหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567” ระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม 2567

พช.เชียงใหม่ นำคณะกองทุนแม่ของแผ่นดินจ.เชียงใหม่ ร่วมโครงการเตรียมความพร้อมการเข้าร่วม “มหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567” ระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม 2567

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 08.30 น. นางณิชพลัฏฐ์ วรรณคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นางสาวอัมพร ไชยโย ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน เข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อมเข้าร่วม “มหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567” ณ ห้องประชุม At Grand Ballroom โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โดยมีนายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฯ โดยมีนายสว่าง ธาตุอินทร์จันทร์ ประธานกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงใหม่และประธานกองทุนแม่ของแผ่นดิน 8 จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) พร้อมคณะฯ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการการดำเนินงานของหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินที่มีผลการดำเนินงานเป็นเลิศ ซึ่งสำนักงาน ปปส. ภาค 5 ได้พิจารณาให้กองทุนแม่ของแผ่นดิน บ้านหัวยน้ำเย็น หมู่ที่ 4 ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นในการป้องกันและและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เข้าร่วมจัดนิทรรศการฯ ดังกล่าว ระหว่างวันพุธที่ 21 ถึงวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

โดยภายในงานโครงการเตรียมความพร้อมเข้าร่วม “มหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567” ณ ห้องประชุม At Grand Ballroom โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ มีการนำกล่าวกฎชุมชนเข้มแข็ง (อปริหานิยธรรม) พร้อมมีการอภิปราย “การขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดินพื้นพื้นที่ภาคเหนือตอนบน” โดยประธานเครือข่ายฯจังหวัด และผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน, แนะนำพิธีการกองทุนแม่ของแผ่นดินที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงาน ปปส.ภาค 5 และบรรยายขั้นตอนการเข้าร่วมงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567 และพิธีรับเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดินปี 2567.

อุทยานแห่งชาติศรีลานนาจัดกิจกรรมปลูกป่าฟื้นฟูป่าต้นน้ำเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม

อุทยานแห่งชาติศรีลานนาจัดกิจกรรมปลูกป่าฟื้นฟูป่าต้นน้ำเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม

นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เป็นประธานในพิธีในการปลูกป่าตามโครงการปลูกป่าฟื้นฟู ป่าต้นน้ำเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 โดยมี นายอานนท์ กุลนิล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา / นายนิพนธ์ มุ่ยเรืองศรี และนายเทียนชัย จูพัฒนกุล ผู้บริหารโครงการธรรมชาติปลอดภัยฯ / พระครูวรรณวิวัฒน์ ดร. ประธานชมรมคนพร้าวรักษ์ป่าและเจ้าคณะตำบลโหล่งขอด / นางพัทธนันท์ พิทาคำ นายอำเภอพร้าว /ร้อยตำรวจโทนคร ปัญญาทิพย์ นายกเทศมนตรีเวียงพร้าว ตลอดจนภาคีเครือข่าย ตำรวจ นักเรียนและประชาชนในอำเภอพร้าวร่วมกันปลูกป่า
ในพื้นที่ป่าห้วยงู ตำบลแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ใช้กล้าไม้ทั้งหมด 2000 ต้น ได้แก่ ต้นสัก /หว้าและมะขามป้อม

สำหรับพื้นที่ป่าทั้งหมด 10 ไร่นี้ เคยเป็นพื้นที่ทำกินของราษฎร ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ที่มีความประสงค์คืนให้อุทยานแห่งชาติศรีลานนาได้ดำเนินการฟื้นฟูป่า เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรป่าไม้ ดิน และน้ำ ในอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ที่เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของประเทศไทย

ซึ่งกิจกรรมการปลูกป่าในครั้งนี้ยังเป็นการให้พื้นที่ป่าของอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ที่เสื่อมโทรมกลับคืนมาเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ขณะเดียวกันเพื่อให้ระบบนิเวศป่าต้นน้ำในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนาได้รับการฟื้นฟู และก่อ ให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้แล้วยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่ราษฎรในพื้นที่ให้เกิดความรักหวงแหนป่าต้นน้ำอีกด้วย.

ถวายยานพาหนะ ทะเบียน 1 ฒข 563 กรุงเทพมหานคร

ถวายยานพาหนะ ทะเบียน 1 ฒข 563 กรุงเทพมหานคร

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 กลุ่มบริษัท สตาร์เฟรช เทรดดิ้ง ร่วมกับสยามโอไทย จำกัด และบริษัทเกตุหิรัญ เทรดดิ้ง ในนามคุณพรรณิกา โอโนะ พร้อมคณะ ถวายรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สตราด้า เลขทะเบียน 1 ฒข 563 กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในกิจการของสงฆ์ โดยมี “พระครูวิสิฐศีลาภรณ์”รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดวังสิงห์คำ เป็นประธานรับ พร้อมคณะกรรมการ ไวยาวัจกร ร่วมรับ พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ วัดวังสิงห์คำ ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่.

พิธีมอบตราตั้งรองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่แด่ “พระครูวิสิฐศีลาภรณ”

พิธีมอบตราตั้งรองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่แด่ “พระครูวิสิฐศีลาภรณ”

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 09.39 น.พระเดชพระคุณ พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม ,เจ้าคณะภาค 7 มอบหมายให้ พระเดชพระคุณ พระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 พิธีมอบตราตั้งรองเจ้าคณะอำเภอ ที่ 14/2567 อาศัยอำนาจตามความในข้อ 20 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระพราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 และโดยอนุมัติของเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ จึงแต่งตั้งให้ พระครูวิสิฐศีลาภรณ์ ฉายา วิสุทฺธาจาโร อายุ 60 พรรษา 29 วิทยฐานะ น.ธ.เอก, พธ.บ. วัดวังสิงห์คำ ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ในทางปกครองคณะสงฆ์ เป็นเจ้าคณะตำบลป่าแดด และเจ้าอาวาสวัดวังสิงห์คำ ดำรงตำแหน่ง “รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่” แต่งตั้ง ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2567 โดยมีพระเถรานุเถระ พระเดชพระคุณพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พระเดชพระคุณพระเทพสิงหวราจารย์ ,ดร.พระดชพระคุณพระสุวรรณเมธี,ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พระเดชพระคุณพระศรีศิลปาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 พระเดชพระคุณพระภาวนาธรรมาภิรัช วิ. เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมพระสังฆาธิการ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส อ่านตราตั้งรองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ นายสิทธิศักดิ์ อภิกุลชัยสิทธิ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ อ่านคำสั่งแต่งตั้งรักษาการเจ้าคณะตำบลป่าแดด(พระครูปลัดนันทวัฒน์) เจ้าอาวาสวัดป่าแดด ,เลขานุการ และกองงานเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยมี คณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ศ. (เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมคณะ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ร่วมถวายมุทิตาจิต/ถวายมุทิตาสักการะ ณ วัดวังสิงห์คำ ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

กองพลพัฒนาที่ 3 แถลงข่าวตามที่ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย กรณีเยาวชนถูกละเมิดสิทธิ์และอนาจารในศูนย์ฝึกเยาวชน ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ

กองพลพัฒนาที่ 3 แถลงข่าวตามที่ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย กรณีเยาวชนถูกละเมิดสิทธิ์และอนาจารในศูนย์ฝึกเยาวชน ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลา 11.30 น. ที่ ศูนย์ฝึกเยาวชน ค่ายสมเด็จ พระบรมไตรโลกนาถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลตรี สกนธ์ เพชรทอง ผู้บัญชาการ กองพลพัฒนาที่ 3 พร้อมด้วย นางสาว ธันยภัทร์ กิตตินิรันดร์กุล ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกรมส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอ วชิรบารมี จังหวัดพิจิตร แถลงข่าวตามที่ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย กรณีเยาวชน ถูกละเมิดสิทธิ์และอนาจาร ในศูนย์ฝึกเยาวชน ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว มีรายละเอียดดังนี้

การฝึกโครงการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนร่วมพลังต้านภัยยาเสพติดด้วยกระบวนการ ทางลูกเสือ ในวันที่ 13 – 14 สิงหาคม 2567 โดย สกร.ระดับอำเภอสามง่าม และ สกร.ระดับอำเภอวชิรบารมี จ.พิจิตร ได้ขอนำนักศึกษามาฝึกในค่าย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โดยชุดครูฝึกและวิทยากรของ พล.พัฒนา 3 การดำเนินการฝึกในขั้นต้น ชุดครูฝึกได้ดำเนินการตรวจกระเป๋าสัมภาระสิ่งของผู้เข้าร่วมการอบรม ร่วมกับครูผู้ปกครองเพื่อเป็นการป้องปรามตามมาตราการการฝึกได้ทำการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย และได้พบว่ามีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 1 นาย ได้นำยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวนหนึ่งพร้อมอุปกรณ์การเสพ และอาวุธมีด เพื่อความปลอดภัยของผู้รับการฝึกทั้งหมด จึงได้ประสานครูปกครองเพื่อขอความยินยอมการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะจากผู้รับการฝึกทั้งหมด เมื่อได้รับความยินยอมแล้วจึงดำเนินการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดผู้รับการฝึกเพศชายทั้งหมด จำนวน 42 คน โดยตรวจครั้งละ 8 คน ให้หันหน้าเข้าหากำแพงอาคารบริเวณหน้าโรงนอนชาย และให้ผู้รับการฝึกเพศหญิงอยู่ห่างจากพื้นที่การตรวจปัสสาวะเพศชาย ประมาณ 40 เมตร และหันหน้าไปทิศทางอื่น โดยวิธีการตรวจให้ผู้รับการฝึกรูดซิปกางเกงและปัสสาวะใส่ซองพลาสติกที่เตรียมไว้โดยไม่ได้ให้ถอดกางเกงลงแต่อย่างใด ผลการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะไม่พบ สำหรับผู้ที่ตรวจพบยาเสพติด (ยาบ้า) นั้น ครูปกครองได้ขอนำตัวกลับไป

โดย พล.พัฒนา 3 จะดำเนินการดังนี้ประสานเรียนเชิญครูปกครองที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบต่อไป.

“ซูกิชิ ร้านอาหารเกาหลี ผนึกกำลัง ม.แม่โจ้ “โครงการ SKS x CDIC MJU Creative Pop Up Project”

“ซูกิชิ ร้านอาหารเกาหลี ผนึกกำลัง ม.แม่โจ้ “โครงการ SKS x CDIC MJU Creative Pop Up Project”

พลิกโฉมการเรียนรู้ครั้งสำคัญกับความร่วมมือระหว่าง ร้านอาหารแบรนด์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี อันดับ 1 ของไทย กับสถาบันการศึกษา “ซูกิชิ ร้านอาหารเกาหลีที่เติบโตมาอย่างมั่นคงมากกว่า 23 ปี” ร่วมผนึกกำลังกับ “มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่” พัฒนาระบบการเรียนรู้ขีดความสามารถ “โครงการ SKS x CDIC MJU Creative Pop Up Project”

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.67 เวลา 14.00 น. บริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด แบรนด์ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีอันดับ 1 ของประเทศไทย ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ ในการพัฒนาระบบหลักสูตร, ผลิตสื่อการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมศักยภาพ และพัฒนาขีดความสามารถของพนักงาน นักศึกษา ภายใต้แนวคิด สานต่อพลัง “นักศึกษา” สู่ “นักศึกษา มืออาชีพ”

คุณนพดล จิรวราพันธ์ ผู้บริหารจากบริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ซูกิชิ สนับสนุนการเป็นส่วนหนึ่งในการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์การเรียนรู้ ให้สามารถสร้างงาน สร้างประสบการณ์และส่งเสริมอนาคต นักศึกษาสู่ตลาดการทำงานอย่างมีคุณภาพและเล็งเห็นว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ มีเมล็ดพันธุ์แห่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพบนพื้นฐานการเรียนรู้อย่างเป็นระบบจากมหาวิทยาลัย และพร้อมส่งต่อเมล็ดพันธุ์สู่การฝึกปฏิบัติชิ้นงานจริงร่วมกับสถานประกอบการ “เพราะ ซูกิชิ มั่นใจ ว่า คนเก่งสร้างได้”

ทางด้านรองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ มีเป้าหมายที่จะพัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ร่วมกันซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาขีดความสามารถในปัจจุบัน และทุกหลักสูตรยังถือเป็นทักษะที่ตรงกับความต้องการของภาครัฐ และภาคธุรกิจตลอดเวลา “เพื่อให้นักศึกษาของเรา มีทักษะและความรู้ที่จำเป็น พร้อมที่จะประกอบอาชีพในอนาคต และรวมถึงได้รับการเรียนรู้ที่หลากหลายจึงไม่ปิดกั้นการเรียนรู้และโอกาสที่จะสามารถทำให้นักศึกษาของเราได้ใช้ความรู้ ความสามารถ จากการเรียนมาประยุกต์ใช้กับการสร้างสรรค์ชิ้นงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อย่างแท้จริง”

ซึ่งในโอกาสนี้ บริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ ได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับความร่วมมือในการลงนาม MOU โครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ และส่งเสริมศักยภาพนักศึกษาประจำปี 2567 – 2568 ขึ้นเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่น และ เป้าหมายที่จะพัฒนาการศึกษาในรูปแบบใหม่และเตรียมความพร้อมที่จะส่งนักศึกษาและพนักงานภายใต้ครอบครัว ซูกิชิ สู่บุคลากรที่มีคุณภาพทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน

ในพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณทอม – จักรกฤต โยมพยอม หรือที่หลายคนคุ้นเคย ซึ่งผู้มีชื่อเสียงและมีบทบาทมากมาย ทั้งคุณครู พิธีกร นักแสดง และ เจ้าของสำนักพิมพ์ชื่อดังอย่าง “ Avocado Books” มาร่วมเป็น Speaker ในครั้งนี้อีกด้วย “เพราะผมเชื่อว่า “การเรียนรู้” คือกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ และนำไปสู่ความสนุกสนานในชีวิต การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ยังมีสิ่งใหม่ ๆ ให้เราค้นหาอยู่เสมอ ดังนั้น อย่าหยุดเรียนรู้ อย่าหยุดคิด อย่าหยุดสร้างสรรค์ แล้วคุณจะค้นพบความสนุกที่ไม่มีวันสิ้นสุด”.

(มีคลิป) 122 ปี กองทัพภาคที่ 3

122 ปี กองทัพภาคที่ 3

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา ร่วมงานวันสถาปนา กองทัพภาคที่ 3 ครบรอบปีที่ 122 เพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศให้อดีตผู้บังคับบัญชา และกำลังพลที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมี พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับ ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

โอกาสนี้ พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย คุณ คัทลียา แสงศิริรักษ์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองทัพภาคที่ 3, ผู้บังคับบัญชาและกำลังพลหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ร่วมพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระบรมรูปสมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา ณ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เนื่องในโอกาสวันสถาปนากองทัพภาคที่ 3 ครบรอบปีที่ 122 และในการนี้ พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กรุณาให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธาน โดยได้ขึ้นแท่นรับความเคารพจากแถวกองทหารเกียรติยศ จากนั้น ได้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา พร้อมทั้งเยี่ยมชมการจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์การกำเนิดเกิดขึ้นของหน่วยทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3, โครงการทหารพันธุ์ดี, รวมทั้งผลิตผลจากโครงการฯ และผลิตภัณฑ์แม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 3 และหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ต่อมาผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล เนื่องในวันสถาปนากองทัพภาคที่ 3 ครบรอบปีที่ 122 ณ สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

กองทัพภาคที่ 3 ก่อกำเนิดเมื่อ 20 สิงหาคม 2445 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ สืบเนื่องมาจากเงี้ยวบ้านบ่อแก้ว แขวงเมืองลอง และบ้านป่าผึ้ง แขวงสูงเม่น จังหวัดแพร่ ได้รวมตัวเป็นกบฏก่อการจลาจล ใช้อาวุธปืนเข้ายึดเมืองแพร่ พระยาไชยบูรณ์ ข้าหลวงกำกับราชการแพร่ ได้รวบรวมกำลังต่อสู้
ในวันที่ 6 สิงหาคม 2445 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พลโทพระยา
สุรศักดิ์มนตรี เป็นแม่ทัพใหญ่ยกกำลังปราบปราม ระหว่างทาง เมื่อผ่านทางพิษณุโลก พิชัย และอุตรดิตถ์ ก็ได้เกณฑ์กำลังไปช่วยด้วย จนสามารถปราบปรามกบฏเงี้ยวได้สำเร็จ เมื่อ 20 สิงหาคม 2445 จึงถือเอาวันที่
20 สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันปราบเงี้ยวกบฏได้สำเร็จ และเป็นวันคล้ายวันสถาปนา กองทัพภาคที่ 3 โดยมีพลโท ประพันธ์ กุลพิจิตร เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 คนแรก และปัจจุบัน ประสาน แสงศิริรักษ์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 คนที่ 41 ซึ่งท่านเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความพร้อมลักษณะของผู้นำ มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้กองทัพภาคที่ 3 มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น กองทัพภาคที่ 3 เป็นกำลังรบหลักของกองทัพบกที่รับผิดชอบในพื้นที่17 จังหวัดภาคเหนือ ด้วยเกียรติประวัติที่ยาวนานจากอดีตสู่ปัจจุบัน ครบ 122 ปี แห่งการสถาปนาหน่วยกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็นเกียรติประวัติที่สำคัญยิ่ง.