(มีคลิป) คณะมนุษยศาสตร์ มช. เฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี คณะมนุษยศาสตร์ “Bridge to Livable Future” คืนสู่เหย้าชาวมนุษยศาสตร์ 31 สิงหาคม 2567

คณะมนุษยศาสตร์ มช. เฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี คณะมนุษยศาสตร์ “Bridge to Livable Future” คืนสู่เหย้าชาวมนุษยศาสตร์ 31 สิงหาคม 2567

เมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์ ดร.หม่อมหลวงตุ้ย ชุมสาย อาคาร HB7 ชั้น 8 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ระพี แสงสาคร รองคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พศุตม์ ลาศุขะ รองคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กรวรรณ พรหมแย้ม ผู้ช่วยคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ โดยได้รับเกียรติจากเจ้าสุรีย์ ณ เชียงใหม่ ประธานกองทุนดารารัศมีฯ เข้าร่วม ร่วมแถลงข่าวการจัดงานในครั้งนี้

คณะมนุษยศาสตร์ เป็นหนึ่งในสามคณะที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นในระยะเริ่มแรกของการก่อตั้ง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ และคณะมนุษยศาสตร์ ทั้งสามคณะนี้ ได้เปิดสอนวิชาขั้นพื้นฐานทั้ง 3 หมวด คือ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ทั้งนี้เพราะ นักการศึกษาสมัยนั้นเชื่อว่าบัณฑิตที่สมบูรณ์แบบควรจะมีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับ สังคมของมนุษย์ เกี่ยวกับจิตใจและคุณสมบัติต่าง ๆ ของมนุษย์เอง ในปีแรกของการจัดตั้งคณะเมื่อปี พ.ศ.2507 นั้น

คณะมนุษยศาสตร์ เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นพร้อมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อจัดการศึกษา ส่งเสริมด้านวิชาการ วิชาชีพ ผลิตบัณฑิตและงานวิจัยที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ รวมถึงบริการวิชาการสู่สังคม ทำนุบำรุงและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม เนื่องในวาระโอกาสครบรอบ 60 ปี แห่งการก่อตั้ง คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงกำหนดจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นในวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2567 เป็นโอกาสสำคัญในวาระครบรอบ 60 ปี คณะมนุษยศาสตร์ได้จัดพิธีทำบุญวันคล้ายวันสถาปนา และพิธีทำบุญครบรอบ 115 ปี ชาตกาลศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.หม่อมหลวงตุ้ย ชุมสาย และบุรพชน และงานเฉลิมฉลอง เวลา 08.30 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.หม่อมหลวงตุ้ย ชุมสาย HB7804

และในวันเดียวกันตั้งแต่เวลา 17.00 น. งานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี คณะมนุษยศาสตร์ “Bridge to Livable Future” คืนสู่เหย้าชาวมนุษยศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาเก่า กับนักศึกษาปัจจุบัน ในวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2567 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยภายในงานจะมีพิธีมอบรางวัลนักศึกษาเก่าดีเด่น กิจกรรมเล่นเกมชิงรางวัลพิเศษจากคณะมนุษยศาสตร์ กิจกรรมแจกรางวัลพิเศษ ทองคำ จำนวน 6 รางวัล การจัดคอนเสิร์ตการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี (Home Coming Day) จากวงดนตรี ได้แก่ 1) CMU Alumni Brand 2) Mary James และ3) SL MUSIC ซึ่งบรรยากาศของเทศกาลเฉลิมฉลอง ท่านจะได้สัมผัสความอบอุ่น ความสนุกสนาน และความประทับใจ ที่สำคัญคณะมนุษยศาสตร์ได้จัดเตรียมบูธอาหารที่ขึ้นชื่อในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างหลากหลายไว้คอยต้อนรับทุกพี่ๆ ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน รวมถึงทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรม

ขอเชิญทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่จะเกิดขึ้นไปพร้อมๆกัน “Bridge to Livable Future” กดซื้อบัตรง่ายๆ คลิกเลย https://cmu.to/human-60year-register กำหนดวันจัดกิจกรรม วันที่31 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

(มีคลิป) สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัลพลเมืองดีส่งคลิปผู้ขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม “โครงการอาสาตาจราจร” พร้อมเตือนการใช้โทรศัพท์ในขณะขับขี่ เสี่ยงอุบัติเหตุ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัลพลเมืองดีส่งคลิปผู้ขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม “โครงการอาสาตาจราจร” พร้อมเตือนการใช้โทรศัพท์ในขณะขับขี่ เสี่ยงอุบัติเหตุ

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลา 09.30 น. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ , คุณพงศ์พันธ์ ประภาศิริลักษณ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) , ผู้แทนจากสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และสถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัลและเกียรติบัตรโครงการอาสาตาจราจร ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถ ที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือนมิถุนายน 2567 รวมรางวัลทั้งสิ้น 10 รางวัล เงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่จะมอบในวันนี้ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 50,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะโครงการอาสาตาจราจร เป็นกิจกรรมขับเคลื่อนความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่มีผลประจักษ์ชัด ได้รับความสนใจจากภาคประชาชน ร่วมส่งคลิปการกระทำผิดกฎจราจรมาให้คณะทำงานพิจารณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มโครงการ ข้อมูลเบาะแสเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ใช้ทาง สำหรับผู้กระทำผิดที่ถูกบันทึกคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจสอบและติดตามมาดำเนินคดี โครงการนี้มุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ยับยั้งชั่งใจในการกระทำความผิด เพื่อมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรมายังช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่ เพจอาสาตาจราจร , เพจตำรวจทางหลวง , เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ , สวพ.91 และ จส.100 คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้วยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดี ชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน

ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวเสริมว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร การมีส่วนร่วมดังกล่าวเป็นการสร้างมาตรฐานทางสังคมให้เกิดความยับยั้งชั่งใจในการกระทำความผิด

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนน เรื่องการใช้โทรศัพท์ในระหว่างการขับขี่รถ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เนื่องจากพบว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากผู้ขับขี่ที่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถเพิ่มสูงขึ้น ทั้งการคุยโทรศัพท์ และการใช้ในวัตประสงค์อื่น เพราะการใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ส่งผลให้สมาธิในการควบคุมรถ การรับรู้ต่อสิ่งแวดล้อมบนถนนลดลง ในระดับที่เป็นอันตรายส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงขอให้ใช้เครื่องมือช่วยในการรับฟัง หรือหยุดรถในจุดปลอดภัยก่อน หรือหากงดใช้จะเป็นแนวทางที่สร้างความปลอดภัยได้ดีที่สุดสำหรับทุกคน รวมไปถึงคนเดินเท้า โดยเฉพาะในขณะข้ามถนน หากใช้โทรศัพท์จะเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ.

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับสมาชิกใหม่ “หมูป่าแม่น้ำแดง” หมูป่าที่มีสีสันสวยงามที่สุด และเป็นหนึ่งในสัตว์หน้าแปลกที่หาดูได้ยากในเมืองไทย

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต้อนรับสมาชิกใหม่ “หมูป่าแม่น้ำแดง” หมูป่าที่มีสีสันสวยงามที่สุด และเป็นหนึ่งในสัตว์หน้าแปลกที่หาดูได้ยากในเมืองไทย

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีสมาชิกใหม่ที่เกิดภายในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และเป็นหนึ่งในสัตว์หน้าแปลกที่หาดูได้ยากในเมืองไทย “หมูป่าแม่น้ำแดง” (Red River Hog) สัตว์ในตระกูลหมูที่มีสีสันสวยงามที่สุด จำนวน 1 ตัว พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาชมความน่ารักของลูกหมูป่าแม่น้ำแดง อยู่ในส่วนจัดแสดงโซนสะวันนา ซาฟารี
นายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า “เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลส่วนแสดงหมูป่าแม่น้ำแดง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ว่าได้มีสมาชิกใหม่เป็น “ลูกหมูป่าแม่น้ำแดง” จำนวน 1 ตัว ยังไม่ทราบเพศ และขณะนี้หมูป่าแม่น้ำแดง มีอายุ 20 วัน ได้รับการเลี้ยงดูจากแม่และพ่อเป็นอย่างดี มีสุขภาพที่แข็งแรง และแม่หมูป่าแม่น้ำแดงมีอาการหวงลูก ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ จึงต้องรอสักระยะหนึ่งถึงจะตรวจสอบเพศได้ ซึ่งในปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีหมูป่าแม่น้ำแดง รวมทั้งสิ้น 10 ตัว และนักท่องเที่ยวสามารถชมความน่ารักของหมูป่าแม่น้ำแดงได้ทุกวัน ในส่วนจัดแสดงโซนสะวันนา ซาฟารี”

สำหรับ “หมูป่าแม่น้ำแดง” (Red River Hog) เป็นหมูป่าที่มีสีสันสวยงามที่สุด และหนึ่งในสัตว์หน้าแปลกที่หาดูได้ยากในเมืองไทย เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนตามตัวค่อนข้างยาว สีน้ำตาลอมแดง ดูสะดุดตา ใบหูยาวและใหญ่ มีขนยาวเป็นพู่ตรงปลายใบหู ช่วงขามีสีดำ จมูกยื่นยาวมีสีดำและสีขาว มีเส้นลายยาวพาดไปตามแนวกระดูกสันหลัง ส่วนบริเวณรอบๆ ดวงตา แก้ม และกราม มีสีอ่อนจางๆ ลักษณะคล้ายใส่หน้ากาก ในวัยเด็กจะมีลายพาดเป็นแนวยาวตามตัวและจะหายไปเมื่อโตขึ้น เป็นสัตว์หากินกลางคืน กลางวันจะซ่อนตัวตามพุ่มไม้ กินพืชและสัตว์เป็นอาหาร ว่ายน้ำเก่ง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โทร. 053-999000 หรือทุกช่องทางออนไลน์ Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari หรือ LineOA : @nightsafari หรือ Tiktok และ IG : chiangmainightsafari.

(มีคลิป) ไหว้สาป๋ารมี วิถีธรรมนำชุมชน ปีที่ 20 ครั้งที่ 1 วัดร้องอ้อ จ.เชียงใหม่

ไหว้สาป๋ารมี วิถีธรรมนำชุมชน ปีที่ 20 ครั้งที่ 1 วัดร้องอ้อ จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 19 ส.ค.67 เวลา 20.00 น. ที่ลานพิธีวัดร้องอ้อ ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พระอธิการชาญชัย กนฺตวีโร เจ้าอาวาสวัดร้องอ้อ จัดงานไหว้สาป๋ารมี วิถีธรรมนำชุมชน ประจำปี 67 ครั้งที่ 1 ปีที่ 20 โดยทางคณะสงฆ์ตำบลสันผีเสื้อ ร่วมกับเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ ฝ่ายปกครองตำบลสันผีเสื้อ และกลุ่มพลังมวลชลตำบลสันผีเสื้อ ร่วมกันจัดขึ้น โดยมีพระครูกิตติปริยัติวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดท่าต้นกวาว รองเจ้าคณะตำบลชมภู เมตตาเทศนาธรรม พระครูประภาสปรียัติวิมล เจ้าคณะตำบลสันผีเสื้อ โดยมี นายสมบูรณ์ บุญเรือง (สจ.แอ๊ด) รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วย นายลักษ์ บุญชละ นายกเทศมนตรีตำบลสันผีเสื้อ นายสว่าง ธาตุอินทร์จันทร์ ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงใหม่ และ ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน 8 จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) นายศรีคราม ปัจมิตร ผอ.โรงเรียนวัดร้องอ้อ พร้อมคณะครูฯ และคณะ พุทธศาสนิกชน เข้าร่วมในพิธีนี้ อย่างคับคั่ง

ภายในงานมีการแสดงฟ้อนเล็บ จากกลุ่มคณะสตรีวัดร้องอ้อ และคณะช่างฟ้อนจากตำบลสันผีเสื้อ มีการตอบปัญหาธรรมมะ จากตัวแทนเยาวชนใน ต.สันผีเสื้อ และมอบผ้าไตร และรางวัลให้กับ สามเณร และพระภิกษุจำนวน 3 รูป ที่สอบผ่าน นักธรรมชั้นตรี และนักธรรมชั้นเอก ในปีนี้

ซึ่งการจัดกิจกรรมเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม และการตอบปัญหาธรรมะ ตามโครงการ “ไหว้สาป๋ารมี วิถีธรรมนำชุมชน” ปีที่ 20 ครั้งที่ 1 จะได้จัดขึ้นในวัด 5 แห่ง ในตำบลสันผีเสื้อ โดยเริ่มจากวัดร้องอ้อ เป็น “วัดแรก”.

มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาร่วมกับคณะธรรมทูต อัญเชิญองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยพร้อมชุดประกาศเกียรติคุณ ที่ประเทศศรีลังกา เพื่อหนุนเสริมการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก(UNESCO)

มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาร่วมกับคณะธรรมทูต อัญเชิญองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยพร้อมชุดประกาศเกียรติคุณ ที่ประเทศศรีลังกา เพื่อหนุนเสริมการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก(UNESCO)

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ที่ วัดคงคาราม กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา จัดพิธีอัญเชิญประดิษฐานองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยขนาดหน้าตัก 30 นิ้วพิธีมอบชุดประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัย และชุดพระไตรปิฎก(ฉบับภาษาไทย-บาลี) ด้วยกระบวนการธรรมทูต โดยมีคุณอุปกิต ปาจรียางกูร หัวหน้าคณะธรรมทูต คุณพลเดช วรฉัตร อดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา คุณปรีชา บัววิรัตน์เลิศ ผู้แทนมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาและคณะธรรมทูต ซึ่งประกอบด้วย คุณเพียงพร บัววิรัตน์เลิศ ,คุณธีรพจน์ รัตนเสถียร ,คุณอภิรักษ์ ศักดิ์พัฒนากุล, คุณพิพัทธ์ ชนะสงคราม ตลอดจนคณะทำงานในการเผยแพร่ที่ประกอบด้วย คุณชรินทร์ แช่มสาคร และคุณสหธัช ปุณณโกศล ในฐานะเลขานุการคณะธรรมทูตร่วมกันอัญเชิญประดิษฐานองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว และมอบชุดประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัย อันประกอบด้วยเหรียญบูชา เอกสารการบูชาพระรัตนตรัย พระคาถาบารมี 30 ทัศ และชุดพระไตรปิฎก(ฉบับภาษาไทย-บาลี) ที่มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาจัดทำขึ้น เพื่อเป็นกิจกรรมหนุนเสริมการเผยแพร่และประกาศเกียรติคุณองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ขององค์กรยูเนสโก ในการนี้ คุณอุปกิต ปาจรียางกูร หัวหน้าผู้แทนผู้ทำหน้าที่กระบวนการธรรมทูต สายประเทศศรีลังกา พม่าและประเทศลาว เป็นผู้อำนวยการในการประสานงาน สนับสนุนการดำเนินการทั้งหมดด้วย

คุณปรีชา บัววิรัตน์เลิศ ผู้แทนมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา ได้กล่าวถึงเจตนารมณ์ของ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประธานมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประธานมูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา ปณิธานของท่านคือ “สืบสานศาสนา รักษาแผ่นดิน” ผ่านกิจกรรมต่างๆที่ทางมูลนิธิฯจัดทำขึ้นในทุกๆปี โดยเฉพาะการทำบุญมหากุศล ปีละ 3 ครั้ง ในช่วงเดือนเมษายน เดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลเข้าพรรษา และในเดือนพฤศจิกายนหลังเทศกาลออกพรรษา โดยจัดตั้งเป็นกองกฐิน ผ้าป่า ชุดบวช ชุดมหาสังฆทาน หนังสือพระไตรปิฎก พร้อมตู้พระไตรปิฎก ฆ้อง กลอง ระฆัง ไถ่ชีวิตโค-กระบือ ปล่อยปลา ตลอดจนมอบทุนการศึกษาให้กับ โรงเรียน ,มหาวิทยาลัย มอบทุนให้มูลนิธิ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และโรงพยาบาลนครพิงค์ ทำบุญโลงศพผู้ยากไร้ ตลอดจนมอบทุนให้สาธารณะประโยชน์ต่างๆ ทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดอื่นๆ เป็นประจำทุกปี

ที่สำคัญในครั้งนี้มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาได้จัดสร้างรูปหล่อเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัยมอบให้ผู้แทนธรรมทูตในการเผยแพร่ให้นานาประเทศ ได้นำไปประดิษฐานและเป็นการเผยแพร่ถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และได้มีการจัดทำหนังสือและการจดบันทึกการสวดมนต์ด้วยภาษาบาลี และการจัดทำคำแปลเป็นภาษาต่างๆเช่นภาษาล้านนา ภาษาอังกฤษ ภาษาไทใหญ่ ภาษาพม่า( ปะโอ) และภาษากะเหรี่ยง เพื่อเป็นการเผยแพร่ทั่วโลกตามกระบวนการธรรมทูตฝ่ายฆราวาสโดยมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศสนับสนุนงบประมาณทั้งหมด ในการดำเนินงานครั้งนี้ อันเป็นการสืบสานศาสนา รักษาแผ่นดินตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้ และในขณะเดียวกันนานาประเทศที่เป็นเมืองพระพุทธศาสนา ก็จะได้รับรู้รับทราบปฏิปทาคำสอนของพระพุทธเจ้า ตลอดจนองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยก็จะได้แรงสนับสนุนในการผลักดันให้ไปถึงยูเนสโก เพื่อที่จะให้ครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก(ยูเนสโก)ภายในปี 2571 นี้.

โรงเรียนปรินส์ฯ จัดงานพิธีสำคัญ สถาปนานายกสมาคมนักเรียนศิษย์เก่ารร.ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย พร้อมเปิดตัวคณะกรรมการบริหาร ปีการศึกษา 2567-2569

โรงเรียนปรินส์ฯ จัดงานพิธีสำคัญ สถาปนานายกสมาคมนักเรียนศิษย์เก่ารร.ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย พร้อมเปิดตัวคณะกรรมการบริหาร ปีการศึกษา 2567-2569

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ โรงละคร โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย สมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จัดงานสถาปนาคณะกรรมการบริหารสมาคม พร้อมเปิดตัวนายกสมาคมคนใหม่ ปีบริหาร 2567 – 2569 ได้แก่ นางจันทิรา พลอาจ “ต่าย” ประธาน รุ่น ธาญ์ร’30 โดยมีผู้เข้าร่วมในพิธีประกอบด้วยแขกผู้มีเกียรติ ตัวแทนจาก สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนปรินส์ฯ กรรมการที่ปรึกษากิติมศักดิ์สมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย (ส.น.ป.) มูลนิธิแพทย์นำเงินขาวสู่ชุมชน ชมรมครูเก่าPRC ชมรมกีฬาPRC สมาพันธ์ศิษย์เก่า 7 สถาบัน จ.เชียงใหม่ อันได้แก่ สมาคมศิษย์เก่ายุพราชวิทยาลัย สมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนดาราวิทยาลัย สมาคมศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัย สมาคมศิษย์เก่าพระหฤทัยเชียงใหม่ สมาคมนักเรียนเก่าเรยีนาเชลีวิทยาลัย สมาคมศิษย์เก่าวัฒโนทัยพายัพ และสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ

“ ฟื้นสัมพันธ์ สานไมตรี สืบทอดประเพณี P.R.C. Spirit” .. นางจันทิรา พลอาจ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร สนป. ปีบริหาร 2567 – 2569 ทุกคน มีปณิธานมุ่งมั่นและตั้งใจ ที่จะทำงานเพื่อนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย และ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จะสืบทอดอุดมการณ์ ขับเคลื่อนภารกิจ ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของโรงเรียน ในทุก ๆ ด้าน ผ่านสายใยแห่งความรักและความสามัคคี ที่ผูกพันจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง และขยายไปถึงพี่น้องทุกโรงเรียน ในนามสมาพันธ์ศิษย์เก่า 7 สถาบัน จ.เชียงใหม่ ที่มาร่วมในพิธีสถาปนาฯ ในวันนี้ เราจะสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆร่วมกัน เติบโตไปด้วยกัน ด้วยมิตรภาพที่ดี .. better together !!

สมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย หรือ ส.น.ป. ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2469 โดยแม่ครูคอร์นิเลีย แฮรีส โดยมีนายศรีโอ๊ะ อินทะพันธุ์ นักเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยเลขประจำตัว 1 เป็นนายกสมาคมคนแรก นับว่าเป็นสมาคมนักเรียนเก่าแห่งแรกในภาคเหนือ .. ติดตามข่าวสารสมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยได้ที่ https://www.facebook.com/prc.alumni
“ Hearts are strong and spirit free, that is P.R.C.”.

พว.จิราลักษณ์ จันทร์กระจาย ปร.17215 สมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย

(มีคลิป) ปปส.ภาค 5 มินิมาราธอน RUN AGAINT DRUGS ปี 67 ผนึกพลังทุกภาคส่วนร่วมต่อต้านยาเสพติด

ปปส.ภาค 5 มินิมาราธอน RUN AGAINT DRUGS ปี 67 ผนึกพลังทุกภาคส่วนร่วมต่อต้านยาเสพติด

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 เวลา 06.00 น ที่กรมรบพิเศษที่ 5 ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในพิธีเปิด กิจกรรม ปปส.ภาค 5 มินิมาราธอน RUN AGAINT DRUGS ประจำปี 2567 ร่วมด้วยผู้มีเกียรติเข้าร่วมกิจกรรม นายธนาธิป นวรัตนวรกุล อัยการประจําสํานักงานอัยการสูงสุด พันเอก ระวีพล ปวงนิยม เสนาธิการ กรมรบพิเศษที่ 5 พันเอก รัชพล สังขบุญชู รองเสนาธิการ กองพลทหารราบที่ 7 พันเอก โภคา จอกลอย ผู้ช่วยเลขานุการ นบ.ยส.35 พลตำรวจโท วุฒิ วิทิตานนท์ อนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินภาค 5 พันตำรวจเอก ดำเนิน กันอ่อง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวนิตยา เพียรทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่ นางสาวณัฐนันท์ พิทักษา ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และนายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5

การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ระดมพลังความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ร่วมเป็นพลังสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยส่งเสริมกิจกรรมการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง และห่างไกลจากยาเสพติด นอกจากนี้ รายได้จากการจัดงานสมทบทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด

การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ระยะได้แก่ระยะ 11 กม. และระยะ 5 กม. มีนักวิ่งและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนกว่า 1,200คน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนจะได้รับเสื้อแข่งขันและเหรียญรางวัลที่ระลึก นอกจากนี้ ผู้ที่สามารถเข้าเส้นชัย ระยะ 11 กม. ได้รับถ้วย Overall ชาย 50 ใบ หญิง 50 ใบ ระยะ 5 กม. ได้รับถ้วย Overall ชาย 10 ใบ หญิง 10 ใบ ส่วนเสื้อ TOP 100 สำหรับนักวิ่งเข้าเส้นชัย ระยะ 12 กม.จำนวน 200 ตัว (ชาย 100 ตัว หญิง 100 ตัว) และเสื้อปลอบใจ Last Runner สำหรับนักวิ่ง 10 ลำดับสุดท้ายของระยะ 12 กม. จำนวน 20 ตัว (ชาย 10 ตัว หญิง 10 ตัว)

สำนักงาน ปปส.ภาค 5. ขอขอบคุณ กรมรบพิเศษ 5 และกองพลทหารราบที่ 7 ที่เอื้อเฟื้อการใช้สถานที่ในการจัดการแข่งขัน กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 ค่ายพระปิ่นเกล้า เชียงใหม่ สนับสนุนปืนใหญ่ และรถยนต์บรรทุกทางทหาร ตลอดจนกำลังพลของทหารทุกนายที่ช่วยแสดงพลังต่อต้านยาเสพติด รวมถึงสถานประกอบการ บริษัท ห้าง ร้าน ที่สนับสนุนอาหารว่างและเครื่องดื่ม ท้ายสุด ขอขอบคุณประชาชนที่มีส่วนร่วมด้วยดีเสมอมา และสื่อมวลชนที่เข้ามาร่วมกิจกรรม เพื่อสร้างการรับรู้สำคัญในการต่อต้านยาเสพติด.

ชำระค่าก่อสร้างห้องสำนักงาน ห้องประชุม งวดที่ 5 (สุดท้าย) หอฉัน งวดที่ 1

ชำระค่าก่อสร้างห้องสำนักงาน ห้องประชุม งวดที่ 5 (สุดท้าย) หอฉัน งวดที่ 1

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 14.00 น. พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้นเชียงใหม่ ผู้ว่าจ้างได้จ่ายเงินค่าจ้างเหมาก่อสร้างสำนักงานพุทธมณฑล 1 หลัง ห้องประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ 1 หลัง แก่ผู้รับจ้าง นายอำนาจ สังข์ทอง งวดที่ 5 (สุดท้าย) เป็นเงินจำนวน 1,187,969.00- บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนแปดหมื่นเจ็ดพันเก้าร้อยหกสิบเก้าบาทถ้วน) และจ่ายค่าสร้างหอฉัน 1 หลัง ขนาดหว้าง 12 เมตร ยาว 40 เมตร ผู้รับจ้างได้ขุดหลุม เทเสาตอหม่อ เทคานคอดินแล้วเสร็จ จ่ายงวดที่ 1 เป็นเงินจำนวน 1,000,000.00- บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) โดยมีพระเดชพระคุณพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่,พระครูสาธุกิจจานันท์ เจ้าคณะอำเภอดอยหล่อ พร้อมคณะกรรมการ การก่อสร้าง ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สำนักงานพุทธมณฑลจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่.

เปิดบ้านวิชาการ สัปดาห์วิทยาศาสตร์ 2567

เปิดบ้านวิชาการ สัปดาห์วิทยาศาสตร์ 2567

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 พระครูสิริบรมธาตุพิทักษ์,ผศ.ดร. รองอธิการบดี มจร วิทยาเขตเชียงใหม่ เป็นประธานกล่าวให้โอวาทในพิธี “เปิดบ้านวิชาการ สัปดาห์วิทยาศาสตร์ 2567” พร้อมมอบเกียรติบัตรให้กับพระและสามเณรที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ จัดโดยศูนย์การเรียนโพธิยาลัย และโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ที่เป็นเครือข่ายศูนย์การเรียนโพธิยาลัย 20 ห้องเรียนสาขา ณ ห้องประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่.

ปลูกไผ่ให้แม่

ปลูกไผ่ให้แม่

เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๗ พระครูสิริบรมธาตุพิทักษ์,ผศ.ดร. รองอธิการบดี วิทยาเขตเชียงใหม่ มอบหมายให้พระครูปริยัติเจติยานุรักษ์,ผศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์เชียงใหม่ จัดทำโครงการปลูกไผ่ให้แม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันแม่แห่งชาติ โดยมี รศ.ดร.อภิรมย์ สีดาคำ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป นำผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตทั้งบรรชิตและคฤหัส กล่าวสดุดีแม่ของแผ่นดินพร้อมทั้งร่วมปลูกต้นไผ่เป็นแนวกันดิน ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียง.