มทร.ล้านนา ตาก จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู

มทร.ล้านนา ตาก จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่ห้องประชุมทองกวาว อาคารเรียนรวมคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเครือข่ายสถานศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู กับ สถาบันการศึกษาอาชีวศึกษา โดย ผศ. ดร.ทนงศักดิ์ ยาทะเล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์และนักศึกษา ร่วมพิธี มีสถานศึกษาร่วมลงนามความร่วมมือจำนวน 19 แห่ง ได้แก่วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่, วิทยาลัยเทคนิคตาก, วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร, วิทยาลัยเทคนิคแม่สอด,วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์, วิทยาลัยเทคนิคสารภี, วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย, วิทยาลัยอาชีวศึกษาภักดีพณิชยการและเทคโนโลยี, วิทยาลัยอาชีวศึกษานอร์ทฝาง, วิทยาลัยการอาชีพขาณุวรลักษณบุรี, วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราราชินีแม่ฮ่องสอน, วิทยาลัยการอาชีพบ้านตาก, วิทยาลัยการอาชีพบ้านโฮ่ง, วิทยาลัยการอาชีพพิชัย, วิทยาลัยการอาชีพฝาง, วิทยาลัยการอาชีพศรีสำโรง, วิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย, วิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่และวิทยาลัยการอาชีพเถิน

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้มีระยะเวลา 5 ปี ( 4 ตุลาคม 2567 – 3 ตุลาคม 2567) มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านวิชาชีพครูแก่นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต ให้ได้ฝึกภาคปฏิบัติควบคู่กับภาคทฤษฎีและนำไปปฏิบัติงานสอนจริงในสถาบันการอาชีวศึกษา สร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยและสถาบันการอาชีวศึกษาด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และทรัพยากรด้านการเรียนการสอนระหว่างกัน โดยมหาวิทยาลัยคัดเลือกนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิตเข้ารับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู และสถาบันการอาชีวศึกษารับนักศึกษาเข้าฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู (ฝึกสอน) เป็นระยะเวลา 1 ปีการศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภากำหนด และกำหนดภาระงานหรือหัวข้อโครงงานที่สอดคล้องกับวิชาชีพและประสบการณ์การทำงานของนักศึกษา

สถานการณ์น้ำในสวนสัตว์เชียงใหม่ บ่ายวันนี้ (4 ต.ค. 67)  มีน้ำไหลบ่าจากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

สถานการณ์น้ำในสวนสัตว์เชียงใหม่ บ่ายวันนี้ (4 ต.ค. 67)  มีน้ำไหลบ่าจากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

บ่ายวันนี้ (4 ต.ค. 67) นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่เปิดเผยให้กับสื่อมวลชนว่า จากการที่ฝนตกอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมา สถานการณ์ปริมาณน้ำในสวนสัตว์เชียงใหม่ มีน้ำไหลบ่าจากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการสำรวจทางน้ำผ่านทั้ง 4 ลำห้วย ได้แก่ ลำห้วยผาลาด ลำห้วยตาดชมพู ลำห้วยกู่ขาว และลำห้วยแก้ว มีปริมาณน้ำไหลอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีการไหลทะลักท่วมออกนอกพื้นที่ บริเวณพื้นที่รับน้ำโดยรอบสามารถรองรับการไหลของน้ำได้เป็นอย่างดี สำหรับลักษณะภูมิประเทศทั่วไปพบถนน ทางเข้าบ้านพักพนักงานชำรุดจากการทรุดตัวของดินมีความลึกประมาณ 1.2 เมตร ซึ่งบริเวณนั้นเป็นพื้นดินชายขอบลำห้วยแก้วที่มีน้ำไหลผ่าน ซึ่งเป็นลำห้วยโค้งความแรงของน้ำได้ไปปะทะกับขอบกันดินทำให้ดินด้านล่างถูกน้ำกระแทกและทรุดตัวลง


สำหรับส่วนจัดแสดงและสัตว์ต่างๆ ในสวนสัตว์เชียงใหม่ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด นายวุฒิชัยฯ ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ แจ้งสถานการณ์น้ำให้ ทราบ และเบื้องต้นได้รายงานให้กับผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับทราบเพื่อขออนุมัติงบฉุกเฉินของต้นสังกัดในการปรับปรุงซ่อมแซมถนนและอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ต่อไป

กกล.ผาเมือง สนับสนุนทีมแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ บินด่วนรับผู้ป่วยวิกฤติในพื้นที่ห่างไกล

กกล.ผาเมือง สนับสนุนทีมแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ บินด่วนรับผู้ป่วยวิกฤติในพื้นที่ห่างไกล

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 67 เวลา 1400 ชุดปฏิบัติการบินทหารบก หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง จัด ฮ.ท.212 จำนวน 1 เครื่อง สนับสนุนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รับผู้ป่วยฉุกเฉินทางอากาศ เพศชาย อายุ 66 ปี มีอาการชักเกร็งจากอาการทางโรคจิตเภท จาก โรงพยาบาลปาย อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลต่อที่ โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลาบิน ประมาณ 40 นาที (ไม่สามารถลำเลียงทางรถยนต์ได้เนื่องจากมีดินสไลด์ขวางถนน) ปัจจุบันผู้ป่วยถึงมือแพทย์ปลอดภัย

มทร.ล้านนา เชียงราย ร่วมกับ PEA ลงพื้นที่ปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในครัวเรือน ในพื้นที่ประสบอุทกภัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

มทร.ล้านนา เชียงราย ร่วมกับ PEA ลงพื้นที่ปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในครัวเรือน ในพื้นที่ประสบอุทกภัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ซ่อมแซม แก้ไขและปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในครัวเรือนในพื้นที่ประสบอุทกภัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ภายใต้โครงการ “ชุมชนปลอดภัย ใช้ไฟ PEA” นำโดย ผศ.ดร.รัฐพล เกติยศ รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ พร้อมอาจารย์และนักศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมไฟฟ้า จำนวน 30 คน ระดมทีมเข้าฟื้นฟู แก้ไขซ่อมแซมระบบไฟฟ้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า โดยช่างไฟฟ้าจากโครงการ 1 ตำบล 1 ช่างไฟฟ้า และช่างไฟฟ้าตามแผนงานขยายผลสู่โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 ช่างไฟฟ้า เป้าหมาย ไม่ต่ำกว่า 10,000 ครัวเรือน ในพื้นที่บริการของ PEA ที่ประสบอุทกภัย ระยะเวลาในการดำเนินงานภายในปี 2567 หรือจนกว่าจะกลับคืนสู่สภานการณ์ปกติตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ เช่น ติดตั้งเต้ารับ สวิสซ์ไฟฟ้า สายไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า ตู้เมนเบรกเกอร์ เละเครื่องตัดไฟรั่ว เป็นต้น

 

“Chiangmai TRUCKS & TOYS” ครั้งแรกของการรวม Art Toys และ Food Truck

“Chiangmai TRUCKS & TOYS” ครั้งแรกของการรวม Art Toys และ Food Truck

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เชิญพบกับครั้งแรกของการรวม Art Toys และ Food Truck ที่รวบจบครบทั้งความฟินและความอร่อยกว่า 50 ร้านค้า มาไว้ที่งานนี้งานเดียว ในงาน“Chiangmai TRUCKS & TOYS”
วันที่ 3-7 ตุลาคม 2567 ณ ลานน้ำพุชมดอย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

เอาใจสายจุ่ม สายจิ้ม สายกิน ไม่ควรพลาด และสนุกกับกิจกรรมภายในงาน ทั้ง K-Pop Random Dance & Breaking Dance Free Stage , POKEMON GO COMMUNITY DAY และ COSPLAY FREE STAGE พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย กับ Labubu V.2 , Labubu time to chill และรางวัลพิเศษสุดกับ BAMBAM 3rd Mini Album

แล้วเจอกันที่งาน CHIANGMAI TRUCKS & TOYS วันที่ 3-7 ตุลาคม 2567 ณ ลานน้ำพุชมดอย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

“อธิบดีกรมสุขภาพจิต” เผย “สมศักดิ์” สั่งทีม MCATT ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจ ห่วงใยเรื่องสภาพจิตใจครอบครัว บัสนักเรียนไฟไหม้

“อธิบดีกรมสุขภาพจิต” เผย “สมศักดิ์” สั่งทีม MCATT ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจ ห่วงใยเรื่องสภาพจิตใจครอบครัว บัสนักเรียนไฟไหม้

“อธิบดีกรมสุขภาพจิต” เผย “สมศักดิ์” สั่งทีม MCATT ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจ เหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ต่อเนื่อง หลัง “นายกฯ แพทองธาร” ห่วงใยเรื่องสภาพจิตใจครอบครัว พร้อมเน้นสื่อสารเข้าใจง่าย ชี้ ไม่เพียงเยียวยาญาติ แต่รวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวด้วย ส่วนเยียวยาน้ำท่วม จิตแพทย์ ตรวจแล้ว 40,268 ราย พบเครียด 1,501 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย 36 ราย กำชับ เฝ้าระวังใกล้ชิด

วันนี้ 2 ตุลาคม 2567 นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ในวันนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการในที่ประชุมให้กรมสุขภาพจิต โดยทีม MCATT ลงพื้นที่เยียวยาเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยเรื่องสภาพจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก พร้อมได้ฝากชื่นชมทีม MCATT ที่ได้นำทั้ง จิตแพทย์ นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตลงพื้นที่หลังเกิดเหตุการณ์ทันที รวมถึงส่งทีมไปยังจังหวัดอุทัยธานี เพื่อดูแลสุขภาพจิตครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย โดยนายสมศักดิ์ ยังได้แนะนำให้กรมสุขภาพจิต สื่อสารการดูแลสภาพจิตใจอย่างง่ายๆ เพื่อให้ประชาชน สามารถเข้าใจและปฎิบัติตามได้ เพราะการเยียวยาไม่ใช่เพียงแต่ครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ยังรวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวสาร แล้วเกิดอาการเศร้าอย่างรุนแรงด้วย

นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวว่า รมว.สาธารณสุข ยังได้เน้นย้ำให้ทีม MCATT ของกรมสุขภาพจิต ลงพื้นที่เยียวยาดูแลจิตใจผู้ประสบภัยจากเหตุอุทกภัยด้วย ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของ น.ส.แพทองธาร ที่เห็นถึงความสำคัญในการดูแลสภาพจิตใจของประชาชนหลังน้ำลดด้วย โดยกรมสุขภาพจิต ได้ดำเนินการส่งจิตแพทย์ ทีม MCATT ลงพื้นที่เยียวยาฟื้นฟูจิตใจประชาชนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้แบ่งแผนการดำเนินการเป็น 3 ส่วน ตามระยะของผลกระทบ คือ 1.พื้นที่น้ำลดแล้ว มีการประเมินสุขภาพจิตโดยทีม MCATT จำนวน 40,268 ราย พบความเสี่ยงต่อภาวะเครียด จำนวน 1,501 ราย เสี่ยงซึมเศร้า จำนวน 215 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย จำนวน 36 ราย และให้การปฐมพยาบาลทางใจ ครบ 100% รวมถึงมีระบบการติดตามและเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตในกลุ่มเสี่ยงต่อเนื่อง ในระยะหลังได้รับผลกระทบ 2 สัปดาห์ – 3 เดือน จนกว่าจะไม่พบความเสี่ยง

2.พื้นที่ได้รับผลกระทบสูงมาก โดยเฉพาะอำเภอแม่สาย มีการติดตามเฝ้าระวังเคสที่มีการสูญเสียไปแล้ว 400 ราย ที่มีความเสี่ยงสูงและมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายจำนวน 13 ราย ซึ่งทั้งหมดมีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยกรมสุขภาพจิต ยังได้เตรียมจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพจิต ในพื้นที่อำเภอแม่สาย รวมถึงยังมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในการเสริมสร้างพลังใจจากผู้ได้รับผลกระทบเป็นผู้ร่วมกอบกู้วิกฤติด้วย และ 3.สำหรับพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า ระยะวิกฤตและฉุกเฉิน ตั้งแต่เกิดเหตุ – 2 สัปดาห์ ได้จัดทีม MCATT นำโดยจิตแพทย์ เข้าไปร่วมดูแลทั้งโรงพยาบาลสวนปรุง ศูนย์สุขภาพจิตที่ 1 สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ และโรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ เข้าประเมินสถานการณ์ เพื่อเตรียมพร้อมในการเยียวยาจิตใจต่อไป

งานดีๆที่รวมเค้ก เบเกอรี่ คุ๊กกี้ ไอศกรีม กาแฟ และเครื่องดื่ม จากคาเฟ่ โฮมเมด ชั้นนำในจังหวัดเชียงใหม่ในบรรยากาศสวนสวยริมน้ำปิง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกับ บริษัท คอนโมโต้ จำกัด และ โครงการบ้านโบราณเชียงใหม่ เชิญร่วมงาน Bake & Brew Bliss #3 งานดีๆที่รวมเค้ก เบเกอรี่ คุ๊กกี้ ไอศกรีม กาแฟ และเครื่องดื่ม จากคาเฟ่ โฮมเมด ชั้นนำในจังหวัดเชียงใหม่ในบรรยากาศสวนสวยริมน้ำปิง ที่ไปอร่อยกันได้ทั้งครอบครัว

ภายในงานพบกับ :
– กิจกรรมเวิร์คช็อป สอนทำขนม แต่งหน้าเค้ก
– มุมศิลปะสำหรับเด็ก
– เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีในสวน
– บทเพลงเพราะจากดีเจ ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ

วันที่ 18-20 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 1.00-22.00 น. ที่โครงการบ้านโบราณเชียงใหม่ ถนนเจริญประเทศ
(สามารถจอดรถได้ที่ตลาดอนุสาร)

สภ.แม่ทา จ.ลำพูน 25 ก.ย.67 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ประกาศงดเดินขบวนรถระหว่างสถานีลำปาง-เชียงใหม่เป็นการชั่วคราว

สภ.แม่ทา จ.ลำพูน 25 ก.ย.67 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ประกาศงดเดินขบวนรถระหว่างสถานีลำปาง-เชียงใหม่เป็นการชั่วคราว

ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ประกาศงดเดินขบวนรถระหว่างสถานีลำปาง-เชียงใหม่เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.67 ที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดเหตุดินสไลค์บริเวณหน้าปากทางเข้าอุโมงค์ขุนตานและน้ำป่าเซาะหินรองรางระหว่างสถานีแม่ตานน้อย-ขุนตาน-ทาชมภู นั้น

25 ก.ย.67 เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.นิรันดร อินผูก ผกก.สภ.แม่ทา จว.ลำพูน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหน้าปากทางเข้าอุโมงค์ขุนตาน และในขณะนี้การเดินรถเส้นทางสายเหนือเปิดให้บริการตามปกติแล้วเมื่อวันที่ 25 ก.ย.67 และได้เตรียมแผนป้องกัน ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด เวลา 24 ชม.

มศว. ร่วมกับ กตป. ด้านกิจการโทรทัศน์ เปิดเวทีภาคเหนือ รับฟังความคิดเห็น ประชาชน ผู้ประกอบการ เพื่อติดตาม ตรวจสอบ

มศว. ร่วมกับ กตป. ด้านกิจการโทรทัศน์ เปิดเวทีภาคเหนือ รับฟังความคิดเห็น ประชาชน ผู้ประกอบการ เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลตามนโยบาย กสทช. ประจำปี 2567

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒ (มศว.) จัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) ครั้งที่ 1 ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ ได้จัดขึ้น ที่โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ โดยมี ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร กตป. ด้านกิจการโทรทัศน์เป็นประธานเปิด

การจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) ในพื้นที่ภาคเหนือครั้งนี้ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมจากทุกภาคส่วนตัวแทนองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นกว่า 120 คน นอกจากนี้ยังได้แบ่งกลุ่มย่อยทำกิจกรรม Workshop เพื่อนำข้อมูลความคิดเห็นต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องไปรวบรวมและสังเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง

ภายใต้ภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนแปลงไป ขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น การแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรง การสื่อสารข้ามแพลตฟอร์ม การหลอมรวมระหว่างสื่อโทรทัศน์และสื่อโทรคมนาคม จึงเป็นความท้าทายของ กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรทัศน์ที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล ตลอดจนส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรม และเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน วิสัยทัศน์ของ กสทช. ในการมองภูมิทัศน์อุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ในปัจจุบัน และอนาคต กสทช. มีการกำหนดแนวทาง นโยบาย การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร มีการดำเนินการในการกำกับดูแลสื่อให้มีคุณภาพ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ การส่งเสริมและพัฒนาที่เอื้อต่อการอยู่รอดของอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ ที่สอดคล้องต่อการดำเนินงานตาม แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๖๓-๒๕๖๘) (ฉบับปรับปรุง) ประกอบด้วย

มิติเชิงเทคโนโลยี ต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในช่วงการเปลี่ยนผ่าน เพื่อสู่การกำหนดแนวทางของทีวีดิจิทัลหลังการสิ้นสุดใบอนุญาตปี ๒๕๗๒ การศึกษาแนวทางการกำกับดูแล และบทบาทของ กสทช. เพื่อรองรับการหลอมรวมในมิติต่างๆ ที่หลอมรวมการให้บริการเนื้อหา ผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต และ OTT TV (Over-the-top TV)
มิติเชิงคุณภาพ ต่อการกำกับดูแล และการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการ การจัดการมาตรฐานการกำกับดูแลกันเองที่มีมาตรฐานและจริยธรรม ภายใต้การแข่งขันทางการตลาดของผู้ประกอบการ การส่งเสริมพัฒนาการผลิตคอนเทนต์และเนื้อหาเชิงคุณภาพและความหลากหลาย ต่อการส่งเสริมให้เกิดเนื้อหา และ รายการในอุตสาหกรรมกิจการโทรทัศน์
มิติเชิงเศรษฐกิจ ต่อการสนับสนุน และส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมโทรทัศน์ ที่มีความสอดคล้องต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายใต้บทบาทการส่งเสริมพัฒนาของ กสทช. ในการส่งเสริมการผลิตคอนเทนต์คุณภาพและการพัฒนาศักยภาพเนื้อหาสร้างสรรค์

เชียงใหม่ เฝ้าระวังน้ำปิงคาดระดับน้ำจะสูงสุดที่ 3.9 เมตร ในช่วงตี 1 คืนนี้

เชียงใหม่ เฝ้าระวังน้ำปิงคาดระดับน้ำจะสูงสุดที่ 3.9 เมตร ในช่วงตี 1 คืนนี้

วันนี้ (24 ก.ย. 67) เวลา 13.30 น. นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 พร้อมด้วย นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และนายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

โดย นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เปิดเผยว่าขณะนี้ระดับน้ำที่จุด P1 บริเวณสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ มีระดับน้ำอยู่ที่ 3.50 เมตร ซึ่งคาดการณ์ว่าที่จุดนี้จะมีปริมาณน้ำวิกฤตที่ 3.70 เมตร และสูงสุดที่ระดับ 3.90 เมตร ในวันที่ 25 กันยายน 2567 เวลา 01.00 – 04.00 น. จึงขอให้ประชาชนติดตามฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และขอให้พื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำปิง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำตามแนวแม่น้ำปิงที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวด้วย


ขณะที่ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้ออกประกาศให้ประชาชนที่อยู่ริมฝั่งน้ำปิงในพื้นที่โซน 1 คือ บ้านป่าพร้าวนอก โรงเหล้า ร้านอาหารวังปลา ร้านอาหารท่าน้ำ ทางลอดใต้สะพานไปป่าแดด โซน 2 คือ ถนนเจริญประเทศ โรงเรียนมงฟอร์ตประถม ป่าไม้เชียงใหม่ วัดชัยมงคล วัดป่าพร้าวนอก หมู่บ้านเวียงทอง ตำบลป่าแดด และโซน 3 คือ บ้านเด่น กานไฟฟ้าบ้านเด่น หมู่บ้านจินดานิเวศ เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ ในด้านการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ขณะนี้ ทุกหน่วยงานมีเวลาในการเตรียมความพร้อมรับมือกับมวลน้ำที่จะไหลมาจาก อ.เชียงดาว แม่แตง และแม่ริม ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ในคืนนี้ โดยในแผนการปฏิบัติงานหลังจากนี้คือจะมีการเข้าไปอพยพผู้ป่วยติดเตียง คนชราเด็ก สตรี ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยง พร้อมกับมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของอาหารสำหรับผู้อพยพและผู้ที่จะได้รับผลกระทบ ซึ่งคาดว่าหลังจากผ่านพ้นคืนนี้ไปหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มขึ้นอีก ระดับน้ำในแม่น้ำจะลดลงและกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้ ดังนั้นขอให้น้องประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป