งานดีๆที่รวมเค้ก เบเกอรี่ คุ๊กกี้ ไอศกรีม กาแฟ และเครื่องดื่ม จากคาเฟ่ โฮมเมด ชั้นนำในจังหวัดเชียงใหม่ในบรรยากาศสวนสวยริมน้ำปิง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกับ บริษัท คอนโมโต้ จำกัด และ โครงการบ้านโบราณเชียงใหม่ เชิญร่วมงาน Bake & Brew Bliss #3 งานดีๆที่รวมเค้ก เบเกอรี่ คุ๊กกี้ ไอศกรีม กาแฟ และเครื่องดื่ม จากคาเฟ่ โฮมเมด ชั้นนำในจังหวัดเชียงใหม่ในบรรยากาศสวนสวยริมน้ำปิง ที่ไปอร่อยกันได้ทั้งครอบครัว

ภายในงานพบกับ :
– กิจกรรมเวิร์คช็อป สอนทำขนม แต่งหน้าเค้ก
– มุมศิลปะสำหรับเด็ก
– เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีในสวน
– บทเพลงเพราะจากดีเจ ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ

วันที่ 18-20 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 1.00-22.00 น. ที่โครงการบ้านโบราณเชียงใหม่ ถนนเจริญประเทศ
(สามารถจอดรถได้ที่ตลาดอนุสาร)

สภ.แม่ทา จ.ลำพูน 25 ก.ย.67 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ประกาศงดเดินขบวนรถระหว่างสถานีลำปาง-เชียงใหม่เป็นการชั่วคราว

สภ.แม่ทา จ.ลำพูน 25 ก.ย.67 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ประกาศงดเดินขบวนรถระหว่างสถานีลำปาง-เชียงใหม่เป็นการชั่วคราว

ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ประกาศงดเดินขบวนรถระหว่างสถานีลำปาง-เชียงใหม่เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.67 ที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดเหตุดินสไลค์บริเวณหน้าปากทางเข้าอุโมงค์ขุนตานและน้ำป่าเซาะหินรองรางระหว่างสถานีแม่ตานน้อย-ขุนตาน-ทาชมภู นั้น

25 ก.ย.67 เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.นิรันดร อินผูก ผกก.สภ.แม่ทา จว.ลำพูน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหน้าปากทางเข้าอุโมงค์ขุนตาน และในขณะนี้การเดินรถเส้นทางสายเหนือเปิดให้บริการตามปกติแล้วเมื่อวันที่ 25 ก.ย.67 และได้เตรียมแผนป้องกัน ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด เวลา 24 ชม.

มศว. ร่วมกับ กตป. ด้านกิจการโทรทัศน์ เปิดเวทีภาคเหนือ รับฟังความคิดเห็น ประชาชน ผู้ประกอบการ เพื่อติดตาม ตรวจสอบ

มศว. ร่วมกับ กตป. ด้านกิจการโทรทัศน์ เปิดเวทีภาคเหนือ รับฟังความคิดเห็น ประชาชน ผู้ประกอบการ เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลตามนโยบาย กสทช. ประจำปี 2567

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒ (มศว.) จัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) ครั้งที่ 1 ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ ได้จัดขึ้น ที่โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ โดยมี ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร กตป. ด้านกิจการโทรทัศน์เป็นประธานเปิด

การจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) ในพื้นที่ภาคเหนือครั้งนี้ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมจากทุกภาคส่วนตัวแทนองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นกว่า 120 คน นอกจากนี้ยังได้แบ่งกลุ่มย่อยทำกิจกรรม Workshop เพื่อนำข้อมูลความคิดเห็นต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องไปรวบรวมและสังเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง

ภายใต้ภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนแปลงไป ขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น การแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรง การสื่อสารข้ามแพลตฟอร์ม การหลอมรวมระหว่างสื่อโทรทัศน์และสื่อโทรคมนาคม จึงเป็นความท้าทายของ กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรทัศน์ที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล ตลอดจนส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรม และเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน วิสัยทัศน์ของ กสทช. ในการมองภูมิทัศน์อุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ในปัจจุบัน และอนาคต กสทช. มีการกำหนดแนวทาง นโยบาย การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร มีการดำเนินการในการกำกับดูแลสื่อให้มีคุณภาพ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ การส่งเสริมและพัฒนาที่เอื้อต่อการอยู่รอดของอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ ที่สอดคล้องต่อการดำเนินงานตาม แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๖๓-๒๕๖๘) (ฉบับปรับปรุง) ประกอบด้วย

มิติเชิงเทคโนโลยี ต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในช่วงการเปลี่ยนผ่าน เพื่อสู่การกำหนดแนวทางของทีวีดิจิทัลหลังการสิ้นสุดใบอนุญาตปี ๒๕๗๒ การศึกษาแนวทางการกำกับดูแล และบทบาทของ กสทช. เพื่อรองรับการหลอมรวมในมิติต่างๆ ที่หลอมรวมการให้บริการเนื้อหา ผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต และ OTT TV (Over-the-top TV)
มิติเชิงคุณภาพ ต่อการกำกับดูแล และการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการ การจัดการมาตรฐานการกำกับดูแลกันเองที่มีมาตรฐานและจริยธรรม ภายใต้การแข่งขันทางการตลาดของผู้ประกอบการ การส่งเสริมพัฒนาการผลิตคอนเทนต์และเนื้อหาเชิงคุณภาพและความหลากหลาย ต่อการส่งเสริมให้เกิดเนื้อหา และ รายการในอุตสาหกรรมกิจการโทรทัศน์
มิติเชิงเศรษฐกิจ ต่อการสนับสนุน และส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมโทรทัศน์ ที่มีความสอดคล้องต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายใต้บทบาทการส่งเสริมพัฒนาของ กสทช. ในการส่งเสริมการผลิตคอนเทนต์คุณภาพและการพัฒนาศักยภาพเนื้อหาสร้างสรรค์

เชียงใหม่ เฝ้าระวังน้ำปิงคาดระดับน้ำจะสูงสุดที่ 3.9 เมตร ในช่วงตี 1 คืนนี้

เชียงใหม่ เฝ้าระวังน้ำปิงคาดระดับน้ำจะสูงสุดที่ 3.9 เมตร ในช่วงตี 1 คืนนี้

วันนี้ (24 ก.ย. 67) เวลา 13.30 น. นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 พร้อมด้วย นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และนายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

โดย นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เปิดเผยว่าขณะนี้ระดับน้ำที่จุด P1 บริเวณสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ มีระดับน้ำอยู่ที่ 3.50 เมตร ซึ่งคาดการณ์ว่าที่จุดนี้จะมีปริมาณน้ำวิกฤตที่ 3.70 เมตร และสูงสุดที่ระดับ 3.90 เมตร ในวันที่ 25 กันยายน 2567 เวลา 01.00 – 04.00 น. จึงขอให้ประชาชนติดตามฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และขอให้พื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำปิง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำตามแนวแม่น้ำปิงที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวด้วย


ขณะที่ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้ออกประกาศให้ประชาชนที่อยู่ริมฝั่งน้ำปิงในพื้นที่โซน 1 คือ บ้านป่าพร้าวนอก โรงเหล้า ร้านอาหารวังปลา ร้านอาหารท่าน้ำ ทางลอดใต้สะพานไปป่าแดด โซน 2 คือ ถนนเจริญประเทศ โรงเรียนมงฟอร์ตประถม ป่าไม้เชียงใหม่ วัดชัยมงคล วัดป่าพร้าวนอก หมู่บ้านเวียงทอง ตำบลป่าแดด และโซน 3 คือ บ้านเด่น กานไฟฟ้าบ้านเด่น หมู่บ้านจินดานิเวศ เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ ในด้านการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ขณะนี้ ทุกหน่วยงานมีเวลาในการเตรียมความพร้อมรับมือกับมวลน้ำที่จะไหลมาจาก อ.เชียงดาว แม่แตง และแม่ริม ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ในคืนนี้ โดยในแผนการปฏิบัติงานหลังจากนี้คือจะมีการเข้าไปอพยพผู้ป่วยติดเตียง คนชราเด็ก สตรี ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยง พร้อมกับมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของอาหารสำหรับผู้อพยพและผู้ที่จะได้รับผลกระทบ ซึ่งคาดว่าหลังจากผ่านพ้นคืนนี้ไปหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มขึ้นอีก ระดับน้ำในแม่น้ำจะลดลงและกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้ ดังนั้นขอให้น้องประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

กรมสุขภาพจิต ระดมทีม MCATT เร่งฟื้นฟูสุขภาพใจ-กาย ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย บูรณาการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ ผ่าน VDO Call

กรมสุขภาพจิต ระดมทีม MCATT เร่งฟื้นฟูสุขภาพใจ-กาย ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย บูรณาการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ ผ่าน VDO Call เสริมความรู้เน้นสังเกตสัญญาณเตือนด้านสุขภาพจิต

23 กันยายน 2567 กรมสุขภาพจิต ร่วมกับ ทีม MCATT สสจ.เชียงราย รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมกับ อบจ. จิตอาสา รพช. สสอ. และกองสาธารณสุขเทศบาลนครเชียงราย เร่งฟื้นฟูสุขภาพใจ – กาย ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย พร้อมบูรณาการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัย ประเมินสุขภาพจิต ผ่าน VDO Call โดยโรงพยาบาลแม่สาย ทีมสาธารณสุขในพื้นที่ บูรณาการร่วมกับ อบจ.เชียงราย เทศบาลตำบลเวียงพางคำ จิตอาสากลุ่ม Off road นำลงพื้นที่เร่งฟื้นฟูจิตใจผู้ประสบภัยหลังน้ำลดใน 6 ชุมชน

นพ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าน้ำจะลดลงแล้วแต่ยังคงความเสียหายให้กับประชาชน โดยเฉพาะดินโคลนและขยะในบริเวณบ้าน ส่งผลต่อสภาพจิตใจของประชาชนตามมา ทำให้เกิดความอ่อนล้า หงุดหงิด ความเครียด จึงให้ทีมดูแลเยียวยาจิตใจ MCATT เข้าพื้นที่ปฏิบัติการฟื้นฟูด้านสุขภาพทั้งกายใจ โดยบูรณาการกับทีมสาธารณสุขทุกฝ่ายรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกมิติ และกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชเดิมต้องได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องไม่ให้ขาดยาป้องกันอาการทางจิตที่จะกำเริบได้

นพ.ศิริศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ระยะหลังได้รับผลกระทบ (2 สัปดาห์-3 เดือน) เป็นระยะที่ผู้ประสบภัยเริ่มเผชิญกับความเป็นจริงมากขึ้นซ้ำๆ ตามมาด้วยความเครียด วิตกกังวล ท้อแท้ ซึมเศร้า จากการสูญเสียสิ่งของและผู้คน ไม่แน่ใจในอนาคตของตนเอง เริ่มมีความรู้สึกและคาดหวังความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ การให้ความช่วยเหลือในมิติสุขภาพจิตระยะนี้ต้องได้รับการประคับประคองอย่างใกล้ชิด จึงต้องมีการประเมินสภาพจิตควบคู่กับการช่วยเหลือตามความจำเป็นขั้นพื้นฐาน หากไม่พบปัญหาสุขภาพจิต ให้การช่วยเหลือตามสภาพปัญหาและเฝ้าระวัง แต่หากพบมีปัญหาสุขภาพจิต ต้องเร่งให้การปฐมพยาบาลด้านจิตใจ (Psychological First Aid : PFA) ถ้าพบมีความเสี่ยงสูงส่งต่อบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งขณะนี้ได้นำระบบเทคโนโลยีเข้าช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยและประเมินสุขภาพจิต ผ่าน VDO Call เพื่อติดตามเฝ้าระวังเสริมสร้างพลังใจอย่างต่อเนื่อง

นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้ช่วยอธิบดีกรมสุขภาพจิตและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมข้อมูลสะสม ณ วันที่ 22 ก.ย.67 ทีม MCATT ได้มีการประเมินสุขภาพใจ จำนวน 12,858 ราย พบมีความเครียด 715 ราย ภาวะซึมเศร้า 50 ราย และได้มีการส่งต่อพบจิตแพทย์ จำนวน 66 ราย ยังไม่มีรายงานผู้ที่เสี่ยงทำร้ายตัวเอง ในวันนี้ทีม MCATT ได้ระดมทีมจากสสจ.เชียงราย รพ.เชียงราย ประชานุเคราะห์ สสอ.เมืองเชียงราย รพช. และ สสอ. ในจังหวัด ได้แก่ อ.พาน อ.เวียงชัย และ อ.แม่ลาว บูรณาการลงปฏิบัติงานร่วมกับ อบจ. เทศบาล และจิตอาสา เพื่อการดูแลทั้งสุขภาพกายและใจ ให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการให้มากที่สุด พื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้ให้ทีมลงเดินเท้าเยี่ยมชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ส่วนพื้นที่เข้าถึงได้ยากมีการประสานกลุ่มรถออฟโรด (Off Road) ของทางเทศบาลส่งทีมเข้าพื้นที่ ในพื้นที่สีแดง 6 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนเกาะทอง ชุมชนบ้านไร่ ชุมชนแควหวาย ชุมชนริมน้ำกก ชุมชนมุสลิมกกโท้ง และชุมชนกกโท้ง มีผู้ประสบภัยรวมจำนวน 1,171 หลังคาเรือน พบว่าประชาชนยังมีความเครียดอยู่มาก จึงได้ให้การปฐมพยาบาลทางใจเบื้องต้น เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดภาวะเครียด

อยากให้ทุกคนช่วยสังเกตและเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิต ด้วยการใช้หลัก 3 ส. ส.1 สอดส่องมองหา ส.2 ใส่ใจรับฟัง ส.3 ส่งต่อเชื่อมโยง โดยการสอดส่องมองหา สังเกตพฤติกรรมของคนรอบข้างและคนใกล้ชิด เช่น เหม่อลอย ปลีกตัวจากผู้อื่น ไม่สดใสร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน การใส่ใจรับฟัง ให้เขาระบายความในใจออกมา อาจสื่อสารด้วยภาษากาย การสัมผัส โอบกอด หากยังไม่ดีขึ้นให้ส่งต่อเชื่อมโยงทันที และสังเกตสัญญาณเตือนด้านสุขภาพจิตทั้งตัวเราเองและคนรอบข้างว่ามีหรือไม่ ได้แก่ 1.นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป 2.แยกตัวหรือเก็บตัว 3.มีอาการเจ็บป่วยทางกายที่หาสาเหตุไม่ได้ 4.เบื่ออาหาร 5.ไม่มีสมาธิ 6.มีอารมณ์แปรปรวน และ 7.มีอารมณ์ซึมเศร้า หากมีอาการ 1 ใน 7 ข้อนี้ หรือหลายข้อรวมกัน ให้ประสานหรือขอความช่วยเหลือไปยังทีม MCATT ในพื้นที่ สาธารณสุขทุกฝ่าย อบจ. อสม. เทศบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อดูแลจิตใจและรับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธี

ชาวเชียงใหม่ช่วยชาวเชียงราย จัดคาราวาน นำโดยร้านลาบต้นยาง พร้อมเครือข่ายนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค

ชาวเชียงใหม่ จัดคาราวาน นำโดยร้านลาบต้นยาง พร้อมเครือข่ายนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของทำความสะอาดบ้าน นำไปมอบให้กับชาวบ้านในพื้นที่ จ.เชียงราย

เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2567 อ้ายจรัล ชัยวงค์ เจ้าของร้านลาบต้นยางพร้อม “พี่เล็ก” นางศรินทร สุ่นทอง เจ้าของร้านลาบต้นยาง และเครือข่ายลูกค้าร้านลาบต้นยาง มี เจ๊แอร์, หมอเล็ก, พี่ต้อม, เจ๊ไก่ และร้านจอยเครื่องนอน ของพี่จอย และร้านนวดเลอเบส นวดแผนไทย พี่หนิง, “ครูต่อ” บ้านฟ้อนเมืองเชียงใหม่, น้องต๋อม และร้านสักขีแม่ปิง(ลาบต้นยาง), ดีเจอัม ดีเจเจ้าป้า และ นางสาวกุลญาอร เรือนเงิน หรือเจ๊แว่นแก้ว แม่ค้าส้มตำแซบเวอร์ ภายในร้านลาบต้นยาง ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ร้านนิวสลัดฝายหิน มช. และ ชมรมผู้สื่อข่าวจ้งหวัดเชียงใหม่ ทั้งหมดร่วมเดินทางนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และเครื่องมือทำความสะอาดบ้าน และเครื่องใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า รองเท้าบูท นำมอบให้ชาวเชียงใหม่

จุดแรกมอบสิ่งของให้ นายประภาส ใจสุข ประธานชุมชนเขต 2 บ้านกกโท้งใต้ ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อม นางศรัณยา อยู่อินทร์ รองประธานฯ และประธานแม่บ้าน รับเงินสนับสนุนจำนวน 5,000 บาท

จุดที่ 2 มอบสิ่งของให้หน่วยช่วยเหลือผู้ประสบภัยเทศบาลนครเชียงราย บ้านธนารักษ์ กองทัพบก ที่อยู่ริมน้ำกก ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจำนวนมากอีกแห่งหนึ่ง

โรงพยาบาลสวนปรุง เข้ารับโล่เกียรติคุณ เป็นหน่วยปฏิบัติการแพทย์ในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน

โรงพยาบาลสวนปรุง เข้ารับโล่เกียรติคุณ เป็นหน่วยปฏิบัติการแพทย์ในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ประเภทหน่วยปฏิบัติการแพทย์ เฉพาะทางสาขาจิตเวชและอำนวยการที่ปรึกษาสาขาจิตเวช ที่มีคุณภาพมาตรฐาน

23 ก.ย.67 นพ.กิตติ์กวี โพธิ์โน ผู้ช่วยอธิบดีกรมสุขภาพจิตและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง มอบหมายให้ นพ.วจนะ เขมะวิชานุรัตน์ รองผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์และการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศและคณะ เข้ารับโล่เกียรติคุณเป็นหน่วยปฏิบัติการแพทย์ในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ประเภทหน่วยปฏิบัติการแพทย์เฉพาะทาง สาขาจิตเวชและอำนวยการที่ปรึกษาสาขาจิตเวชที่มีคุณภาพมาตรฐาน ในการประชุมวิชาการยกระดับสุขภาพคนเชียงใหม่ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนและดิจิทัลสุขภาพโดยมี นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีและมอบรางวัล ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติคุ้มคำ คุ้มขันโตก เชียงใหม่

ฝนตกหนักจากพายุซูลิก น้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ สั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน

ฝนตกหนักจากพายุซูลิก น้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ สั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน สั่งเปิดประตูระบายน้ำตั้งแต่ตัวเมืองถึงปลายน้ำในแม่น้ำปิง เร่งระบายน้ำ

วันที่ 23 ก.ย. 67 เวลา 08.30 น. นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า ฝนตกหนักถึงหนักมาก ต.บ้านกาด อ.แม่วาง วัดได้ 156.8 มม. และที่ ต.แม่วิน อ.แม่วาง วัดได้ 88 มม. พื้นที่ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง วัดได้ 75.8 มม. ส่งผลให้เวลา 06.00 น. ในเช้านี้ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในลำน้ำแม่วาง และน้ำแม่กลาง ที่สะพานท่าโป่ง (แม่กลางบ้านลุ่ม) ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง เอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ลุ่มต่ำ ในขณะที่น้ำแม่แจ่ม​ ฝายหลวงแม่แจ่ม ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม ระดับน้ำ 2.32 เมตร สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง จึงได้สั่งการให้ นายณรงค์ วงค์จันทร์ทิพย์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 7 โครงการชลประทานเชียงใหม่ เข้าพื้นที่ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ กำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

นอกจากนี้ได้สั่งการให้เปิดประตูระบายน้ำท่าวังตาล อำเภอเมืองเชียงใหม่ จำนวน 4 ช่องบาน ระบายน้ำออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ เปิดประตูระบายน้ำดอยน้อย 7 ช่องบาน ประตูระบายน้ำแม่สอย 5 ช่องบาน เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลสาปดอยเต่า ไปยังเขื่อนภูมิพล เพื่อพร่องน้ำและรองรับมวลน้ำที่จะมาจากต้นน้ำและแม่น้ำสาขาต่างๆ ที่มาลงในแม่น้ำปิง พร้อมให้สำรวจแหล่งน้ำในพื้นที่อำเภอแม่วางอย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงสายระดับน้ำแม่กลาง ที่เอ่อล้นบ้านเรือนประชาชนเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของแม่น้ำปิง ยังต่ำกว่าตลิ่ง ลำน้ำสาขาฝั่งตะวันตกของเมืองเชียงใหม่ ลำน้ำแม่ข่าหลวง แม่ข่าน้อย ห้วยแม่ท่าช้าง ยังไม่มีการเอ่อล้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานเชียงใหม่ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำสาขา อย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และให้รายงานสถานการณ์ให้ทราบเพื่อจะได้บริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งแนวทางในการนำเครื่องจักร เครื่องมือ กำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

สภ.เกาะคา จ.ลำปาง 23 กย.2567 ออกตรวจพื้นที่น้ำท่วมบริเวณบ้านม้าเหนือ บ้านม้ากลาง

สภ.เกาะคา จ.ลำปาง 23 กย.2567 ออกตรวจพื้นที่น้ำท่วมบริเวณบ้านม้าเหนือ บ้านม้ากลาง

โดยการอำนวยการของพ.ต.อ.กฤษฎา พงษ์สุวรรณ ผกก.สภ.เกาะคา ,พ.ต.ท.ธีรยุทธ กิติธะนะ รองผกก.ป.สภ.เกาะคา,พ.ต.ท .ณัฐวุฒิ ปั้นมูล สวป.สภ.เกาะคา มอบหมายให้ ร.ต.ท.แฮน จินะการ ร้อยเวร 20 สายตรวจรถยนต์ 201 ออกตรวจบริเวณถนนเกาะคา – ห้างฉัตร ออกตรวจพื้นที่น้ำท่วมบริเวณบ้านม้าเหนือ บ้านม้ากลาง บ้านม้าใต้หมู่ที่ 5,9,13 ตำบลลำปางหลวง ปริมาณน้ำเริ่มลดลง รถสามารถสัญจรผ่านได้ 23 กย.2567 เวลา 07.00 น.

สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย 23 ก.ย.67 เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณหน้าโบสถ์คริสต์ฯ ต.ป่างิ้ว

สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย 23 ก.ย.67 เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณหน้าโบสถ์คริสต์ฯ ต.ป่างิ้ว

สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย รายงานเพิ่มเติม ถนนสาย 118 เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณหน้าโบสถ์คริสต์ฯ ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย มีน้ำท่วมขังรถยนต์เล็กสัญจรลำบาก จนท.ตร ร่วมกับเทศบาลฯ จัดทางเบี่ยงเพิ่มเติมสามารถใช้การได้ และ อำนวยความสะดวกการจราจร จ.เชียงราย 23 ก.ย.67 เวลา 07.30 น.