เชียงใหม่รีพอร์ต » ชุดสืบสวนเมืองเชียงใหม่ ติดตามตัวโชเฟอร์สี่ล้อแดง เปรียบเทียบปรับ 2 ข้อหา

ชุดสืบสวนเมืองเชียงใหม่ ติดตามตัวโชเฟอร์สี่ล้อแดง เปรียบเทียบปรับ 2 ข้อหา

1 สิงหาคม 2024
745   0

Spread the love

ชุดสืบสวนเมืองเชียงใหม่ ติดตามตัวโชเฟอร์สี่ล้อแดง เปรียบเทียบปรับ 2 ข้อหา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ วันที่ 31 ก.ค. 67 ตามที่ปรากฎในโซเชียลมีเดียมีประชาชนโพสข้อความผ่าน facebook “โชวถ่อยไม่เคยแผ่ว รถแดงเชียงใหม่แพ้เสียงแตร จอดส่งลูกค้ากลางถนน รถคันหลังบีบแตรใส่ ถือไม้ลงมา ผมนิยกนิ้วให้เลยครับ “ ซึ่งเป็นประเด็นที่ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ความสนใจอยู่นั้น พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้มีข้อสั่งการให้ พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้เร่งรัด สืบสวนติดตามผู้ขับรถ สี่ล้อแดง ตามที่ปรากฎตามคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียล ดังกล่าว เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเป็นที่เสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยการนำของ พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.สถิตชัย นิตยวัน
รอง ผกก.สส.ฯ,พ.ต.ต.พูนศักดิ์ พักย์ผ่องศรี สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.วุฒิไกร ทาหอม สว.สส.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเหยี่ยวดำ ได้สืบสวนติดตามบุคคลดังกล่าว จนทราบชื่อว่า นาย โอภาส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ผู้ขับรถยนต์สาธารณะ (รถแดง) ตามคลิปที่ปรากฎ จึงได้เชิญตัวทำการการสอบสวนที่ สภ.เมืองเชียงใหม่

นายโอภาสฯ ให้การว่า ขณะที่ตนขับขี่รถแดงคันดังกล่าวมาตามถนนสิงหราชตามปกติ แต่เมื่อมาถึงบริเวณแยกวิทยาลัยเทคนิค จุดหมายที่จะต้องจอดส่งลูกค้า เพื่อลงรถ จากนั้นได้มีรถขับตามหลังมา และได้บีบแตรใส่ตน ได้ด่าทอว่าตนก่อน ตนจึงได้ด่ากลับ และจอดรถและนำไม้ที่อยู่ด้านหลังรถลงมาข่มขู่ และจึงได้เกิดการโต้เถียงกันไปมา ตามที่ปรากฎในคลิป แต่มิได้มีการทำร้ายร่างกาย หรือทรัพย์สินผู้อื่นแต่อย่างใด

จากนั้นจึงได้นำตัว นายโอภาสฯ
ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยได้แจ้งข้อหา จำนวน 2 ข้อหา ตาม พรบ.จราจรทางบก 2522 ข้อหาจอดรถกีดขวางทางจราจร ม.58(8),148
ปรับ 500 บาท และตาม ป.อาญา มาตรา 392 ข้อหา ข่มขืนใจผู้อื่นให้ตกใจกลัว ปรับ 1,000 บาท

นายโอภาส ปิ่นใหญ่ ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยอมรับว่า ตนใช้อารมณ์มากเกินไป ฝากขอโทษถึงคู่กรณีในคลิป และชาวจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ภาพลักษณ์ของสี่ล้อแดงเอกลักษณ์ของจังหวัด เชียงใหม่เสียหาย แต่ทั้งนี้ตนก็ไม่มีเจตนาทำร้าย หรือทำให้ทรัพย์สินใครเสียหายแต่อย่างใด ขอให้อภัยตน ซึ่งตนจะจำไว้เป็นบทเรียนและจะไม่ก่อให้เกิดเหตุแบบนี้อีกต่อไป.