ภาค 5 แถลงจับกุมผู้ต้องหา 2 คนลักลอบขนยาบ้าผ่านทางเครื่องบิน 3 แสนเม็ดเชียงใหม่ / ลักลอบขนยาไอซ์ 150 กิโลซุกซ่อนช่องลับในรถที่เชียงราย
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 เวลา 13.30 น. ที่ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี, พล.ต.ต. นพดล กรึงไกร, พล.ตต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ ภ.5, พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ฝ่ายทหาร นบ.ยส.35 กองกลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผวจ.เชียงใหม่ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 นายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม ลักลอบขนยาเสพติดจำนวน 2 คดี
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 28 ก.ค.67 เวลาประมาณ 19.30 น. ได้มีนายธีรัตน์ ภูมิลำเนา อยู่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ นายเปาซี ภูมิลำเนา อ.ยะหา จ.ยะลา ได้นำกระเป๋าเดินทางรวม 2 ใบ ไปโหลดที่บริเวณจุดตรวจสัมภาระภายในท่าอากาศยานเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จุดตรวจได้ตรวจเอกซเรย์พบสิ่งของวัตถุต้องสงสัย จึงจะทำการเปิดกระเป๋าเพื่อตรวจสอบ ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนีออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตรวจพบยาบ้า รวมจำนวน 300,000 เม็ด โดยซุกซ่อนในกระเป๋าใบแรก จำนวน 100,000 เม็ด และกระเป๋าใบที่ 2 จำนวน 200,000 เม็ด จึงได้ร่วมกันทำการตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อมาได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลออกหมายจับนายธีรัตน์ ภูมิลำเนา อยู่ อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส และ นายเปาซี ภูมิลำเนา อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาทั้งสอง ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2567 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยเกี่ยวข้อง ได้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่ด่านตรวจความมั่นคงบ้านพละ อ.ประทิว จ.ชุมพร ขณะโดยสารรถกลับพื้นที่ภาคใต้ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 2 เมื่อประมาณปลายเดือน ก.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.ภ.จว. เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า
กลุ่มลำเลียงยาเสพติดได้ดัดแปลงพื้นกระบะรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง – จ.สุพรรณบุรี / จ.นครปฐม โดยมีรถยนต์นำ สำรวจเส้นทางร่วมกันลำเลียงยาเสพติด จึงได้ทำการสืบสวนและประสานการปฏิบัติกับ ชปส.ภ.จว.เชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสืบสวนติดตามจับกุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ก.ค.67 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชปส.ภ.จว.เชียงราย และกก.สส.ภ.จว. เชียงใหม่ ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถยนต์ของขบวนการลำเลียงยาเสพติด อยู่ภายในโรงแรม ข้างถนนพหลโยธิน ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จึงสะกดรอยติดตาม
ต่อมาเวลาประมาณ 09.20 น.ของวันเดียวกัน รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ได้ออกจากโรงแรมฯ มุ่งหน้าไปตามถนนบายพาสสนามบินเชียงราย ไปพบกับรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง สีฟ้า ที่บริเวณที่จอดรออยู่บริเวณถนนบายพาส และทั้งสองคันได้ขับตามกันไป มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และหลุดการติดตาม จึงวางกำลังรายทางเพื่อสังเกตุการณ์
ต่อมาเวลาประมาณ 13.40 น. ของวันเดียวกัน พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาวขับนำรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง
มาจากทางเส้นทาง อ.เชียงแสน จว.เชียงราย มุ่งหน้า มา อ.เมืองเชียงราย ระยะห่างประมาณ 1 – 2 กม. จึงสะกดรอยติดตาม และตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณด่านตรวจจำบอน ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย เพื่อทำการตรวจสอบรถยนต์ทั้งสองคัน
ต่อมา รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ขับมาใกล้จะถึงด่านตรวจจำบอน ได้จอดบริเวณไหล่ทางพบคนขับรถกระบะ ใช้โทรศัพท์อยู่ภายในรถฯ ส่วนรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง ขับเข้าไปจอดหน้าห้องพัก A11 ในโรงแรม พื้นที่บ้านป่าแหย่ง ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมรถยนต์ทั้งสองคันไว้ รถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลางพบนายณัฐวัฒน์ ภูมิลำเนา อ.สามง่าม จ.พิจิตร และ น.ส.ธุรดา ภูมิลำเนา อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ อยู่บริเวณรถ ตรวจค้นพบ ไอซ์ จำนวน 150 กก. ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับใต้พื้นกระบะรถ ซึ่งดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด ส่วนรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว พบนายสุภชัย ภูมิลำเนา อ.วังชิ้น จ.แพร่ เป็นคนขับ รับว่าร่วมกันลำเลียงยาเสพติด ทำหน้าที่นำทางดูการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามพร้อมของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบสวนขยายผลพบว่ากลุ่มผู้ต้องหารับจ้างลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อกลางเดือน ก.ค.2567 จากพื้นที่
จ.เชียงราย ไปส่งยังพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยมีผู้สั่งการ จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายมาดำนเนินคดีตามกฎหมาย.