ยังระดมอากาศยานดับไฟหลายจุด แม้วันนี้จุดความร้อนลดลงจากฝนตก

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้ายังคงระดมอากาศยานดับไฟหลายจุด แม้วันนี้จุดความร้อนลดลงจากฝนตก โดยพบจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเช้านี้พบจุดความร้อน 100 จุด เกิดในจังหวัดตากมากที่สุด 29 จุด รองลงมาคือจังหวัดลำพูน 18 จุด และจังหวัดแม่ฮ่องสอน 14 จุด

วันที่ 8 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันประจำวันของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าอย่างต่อเนื่อง พบว่า วันนี้จุดความร้อนในภาคเหนือลดลงอย่างมาก แต่ยังคงมีไฟป่าไหม้ลุกลามหลายจุดบนภูเขาสูงชันต่อเนื่องมานานหลายวัน และยังไม่สามารถควบคุมไฟได้หมด ส่งผลให้วันนี้ยังคงต้องระดมอากาศยานช่วยดับไฟป่าต่อเนื่อง

โดยเฮลิคอปเตอร์ Bell 407 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร สนับสนุนการดับไฟป่าในจังหวัดลำพูน โดยช่วงเช้าเข้าพื้นที่ตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา และช่วงบ่ายปฏิบัติงานที่ตำบลแม่ตื่น อำเภอลี้ ส่วนอากาศยาน BT-67 ของกองทัพอากาศ ช่วยสนับสนุนการดับไฟป่าจากพื้นที่สูง ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ตำบลบ้านนา อำเภอสามเงา จังหวัดตาก สำหรับจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเช้านี้เกิดจุดความร้อน 100 จุด เกิดในจังหวัดตากมากที่สุด 29 จุด รองลงมาคือจังหวัดลำพูน 18 จุด และจังหวัดแม่ฮ่องสอน 14 จุด

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ปฏิบัติหน้าที่ดับไฟจากจุดความร้อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ชุดลาดตระเวนระดมกำลังช่วยดับไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดที่ยังคงมีจุดความร้อนสูง

รอง ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ 3 จังหวัดที่ยังคงมีจุดความร้อนสูง ได้แก่ จังหวัดลำปาง จังหวัดตากและจังหวัดลำพูน ให้ชุดลาดตระเวนระดมกำลังช่วยดับไฟในพื้นที่ ภายหลังเกิดจุดความร้อนสูงต่อเนื่อง ขณะที่เช้าวันนี้ยังคงสนับสนุนอากาศยานดับไฟในพื้นที่เข้าถึงยาก

วันที่ 7 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ 3 จังหวัดที่ยังคงมีจุดความร้อนสูง ได้แก่ จังหวัดลำปาง จังหวัดตากและจังหวัดลำพูนที่ยังคงระดมกำลังทั้งจากภาคพื้นและอากาศยานช่วยดับไฟตลอดหลายวันที่ผ่านมา เบื้องต้นได้กำชับกำลังพลชุดลาดตระเวนที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชในการลาดตระวนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก จำนวน 208 ชุด สนับสนุนกำลังพลในการดับไฟควบคู่กับการลงพื้นที่ควบคุมไฟป่า 12 กลุ่มป่าที่ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 – 16 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชกำหนดไว้

อย่างไรก็ตามเช้าวันนี้ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้ายังคงระดมอากาศยานจากทุกหน่วยเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนืออย่างต่อเนื่องโดยเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบกและอากาศยาน BT-67 (กองทัพอากาศ) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดับไฟในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ที่เกิดจุดความร้อนบริเวณ ตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน รอยต่อ ตำบลบ้านนา อำเภอสามเงา จังหวัดตาก โดยใช้น้ำจากถ้ำยางวี ,เขื่อนภูมิพลและ แก่งก้อ

สำหรับ ฮ ทส 5120 ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูน และนายอำเภอเมืองลำพูน ปฏิบัติการบินสำรวจแนวไฟ ประเมินสถานการณ์ไฟป่าและสนับสนุนการดับไฟป่าเร่งด่วนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณรอยต่อท้องที่อำเภอแม่ทา-เมืองลำพูน จังหวัดลำพูน และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ข้างเคียง ซึ่งเกิดสถานการณ์ไฟป่าจำนวนหลายจุด โดยมีลักษณะเป็นไฟบนพื้นที่สูงชันและอาจลุกลามต่อเนื่องไปยังบริเวณเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมาก

ขณะที่ เฮลิคอปเตอร์ Bell407/2311 (กรมฝนหลวงและการบินเกษตร) สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 บินดับไฟจากจุดความร้อน ในพื้นที่ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ทั้งภาคเช้าและบ่ายจนกว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ โดยเติมน้ำจากอ่างเก็บน้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำจำตาเหิน และ อ่างเก็บน้ำแม่สาร จังหวัดเชียงใหม่

ในส่วนของอากาศยาน KA- 32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วยดับไฟในพื้นที่ ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน โดยจะเติมน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยเดื่อ บ้านดอยก้อม ตำบลบ้านโฮ่ง

อย่างไรก็ตามศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าพร้อมให้การสนับสนุนทุกส่วนราชการในการบูรณาการการดับไฟในทุกพื้นที่เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองที่ส่งผลกระทบกับประชาชน

โดรนจับภาพชายเสื้อแดงอยู่ในบริเวณเกิดไฟป่า โดยเกิดไฟป่าในพื้นที่อำเภอลี้นานนับเดือน

เกิดไฟป่าในพื้นที่ตำบลแม่ลานอำเภอลี้ ติดต่อกันนานนับเดือน นายอำเภอลี้ระดมเจ้าหน้าที่ อส.ดับไฟป่า อ.ลี้ และอาสาดับไฟป่ามูลนิธิกระจกเงาเข้าดับไฟป่าเขตป่าสงวนแม่หาดแม่ก้อ ต.แม่ลาน อ.ลี้ คาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ขณะที่อากาศยานไร้คนขับจับภาพชายต้องสงสัยอยู่ที่จุดเกิดไฟป่า บ้านวังดินใหม่ ต.วังดิน อ.ลี้

เจ้าหน้าที่ทหาร ร.17 พัน 4 ค่ายเชียงคำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาดับไฟป่ามูลนิธิกระจกเงา อาสมสมัครดับไฟป่าวัดเด่นเหม้า และเจ้าหน้าที่ชุดดับไปป่า อส.อำเภอลี้ จ.ลำพูน ต่างช่วยกันดับไฟป่าในเขตป่าสงวนแม่หาดแม่ก้อ พื้นที่ตำบลแม่ลาน อ.ลี้ จ.ลำพูน หลังเกิดไฟป่าบริเวณดังกล่าว นานนับเดือนทำให้เกิดความเสียหายของพื้นที่ป่าไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สูงชันทำให้ยากต่อการที่เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่ดับไฟป่า ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากการจุดไฟเผาไร่ของชาวบ้าน บางส่วนการจุดไฟเผาป่าเพื่อหวังว่าจะทำให้ยอดผักหวานออกยอดและจะทำให้เห็ดเผาะออกในช่วงฤดูฝนตามความเชื่อ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อาสาดับไฟป่ามูลนิธิกระจกเงา ได้ใช้อากาศยานไร้คนขับขึ้นบินเพื่อสำรวจจุดที่เกิดไฟป่า จับภาพชายใส่เสื้อแดงในบริเวณที่เกิดไฟป่าซึ่งเป็นพื้นที่ทำการเกษตรทำให้ไฟลุกลามเข้าพื้นที่ป่าพื้นที่บ้านวังดินใหม่ ต.วังดิน อ.ลี้ จ.ลำพูน

ขณะที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ พบจุดความร้อน 689 จุด สูงสุดที่ จังหวัดลำปาง จ 154 จุด รองลงมาคือจังหวัดน่าน 114 จุด และ จังหวัดแพร่ 81 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นป่าสงวนฯ 345 จุด รองลงมาคือ ป่าอนุรักษ์ 308 จุด และเขต สปก. 15 จุด สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เกินเกณฑ์มาตรฐาน – เกินเกณฑ์มาตรฐาน 12 จังหวัด สูงสุดที่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จังหวัดลำพูน 77.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือ ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน 76.50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลต่อสุขภาพ และ ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จังหวัดพะเยา 66.40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เริ่มมีผลต่อสุขภาพ

ภาคเหนือ เกิดจุดความร้อน 1,368 จุด สูงสุดที่ จังหวัดลำปาง จำนวน 350 จุด

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า (ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.)ระดมอากาศยาน ทบ.ทอ.ทส.และฝนหลวงดับไฟในพื้นที่ภาคเหนือ หลังเกิดจุดความร้อน 1,368 จุด สูงสุดที่ จังหวัดลำปาง จำนวน 350 จุด

วันที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าระดมอากาศยานจากทุกหน่วยเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้ง เฮลิคอปเตอร์ MI-17 อากาศยาน BT-67 (กองทัพอากาศ) ฮ.ทส.จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรวมทั่งเครื่องบิน CASA ของกรมฝนหลวง เพื่อใช้ดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5)

ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน โดยเติมน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่อิไฮ อำเภอลี้ และอ่างเก็บน้ำบ้านป่าตึง อำเภอทุ่งหัวช้าง

ขณะที่ อากาศยาน BT-67 (กองทัพอากาศ)เขาดับไฟในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเกิดจุดความร้อนจำนวน 15 จุดกระจายอยู่บริเวณพื้นที่ป่านานอน ห้วยไม้หก ห้วยครั่ง ห้วยนา ห้วยหมาบ้า ท้องที่ตำบลม่อนจอง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับอากาศยาน 2 ลำ H130 และ AS350 จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปฏิบัติภาระกิจดับไฟในพื้นที่รอยต่อของอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และจังหวัดตาก เนื่องจากเกิดไฟป่ามาหลายวัน ส่งผลให้พื้นที่ป่าเสียหายจำนวนมาก

นอกจากนี้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบนยังจัดเครื่องบิน CN ,CASA ช่วยดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแพร่ และจังหวัดพิษณุโลก

ทั้งนี้สถานการณ์จุดความร้อนล่าสุดเช้าวันนี้ตรวจพบจุดความร้อน ในพื้นที่ 17 จว.ภาคเหนือ จำนวน 1,368 จุด สูงสุดที่ จังหวัดลำปาง จำนวน 350 จุด รองลงมาคือ จังหวัดลำพูน จำนวน 185 จุด และ จังหวัดพะเยา จำนวน 161 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนฯ และเขต สปก. ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เกินเกณฑ์มาตรฐาน แล้วจำนวน 15 จังหวัด และเริ่มส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

ระดมอากาศยาน MI-17 และ KA -32 ดับไฟในพื้นที่จังหวัดลำพูน

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3  ส่วนหน้า (ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.) ระดมอากาศยาน MI-17 และ KA -32 ดับไฟในพื้นที่จังหวัดลำพูน ภายหลังยังเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 1,046 จุดและเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน

วันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า จากการติดตาม สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จว.ภาคเหนือ เช้าวันนี้พบว่าเกิดจุดความร้อนจำนวน 1,046 จุด สูงสุดที่จังหวัดลำปาง จำนวน 296 จุด รองลงมาคือจังหวัดลำพูนจำนวน 238 จุด และจังหวัดพะเยาจำนวน 144 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นป่าสงวนฯ ป่าอนุรักษ์ และเขต สปก. ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เกินเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 12 จังหวัด โดยเฉพาะที่จังหวัดน่าน จังหวัดลำพูนและจังหวัดเชียงราย และเริ่มมีผลต่อสุขภาพของประชาชน

ขณะเดียวกันเช้าวันนี้ศูนย์ควบคุมอากาศยานและดับไฟป่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า ได้ระดมอากาศยานทิ้งน้ำเพื่อดับไฟในพื้นที่จังหวัดลำพูนเป็นวันที่ 2 โดยเฮลิคอปเตอร์ MI-17 เข้าปฏิบัติการดับไฟในพื้นที่ ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ และตำลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ซึ่งทั้งสองพื้นที่เกิดไฟป่าติดต่อกันมา 4 วันโดยกำลังทางภาคพื้นพยายามทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ไฟลุกลาม ประกอบกับพื้นที่เป็นเขาสูงจึงยากต่อการเข้าดับไฟ
ในส่วนของอากาศยาน KA- 32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วยดับไฟในพื้นที่พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง ท้องที่อำเภอแม่ทา อำเภอทุ่งหัวช้าง และอำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูนเป็นวันที่ 2 หลังจากเมื่อวานนี้เกิดจุดความร้อน จำนวน 15 จุด เครือข่ายอาสาสมัครไฟป่าตำบลทาสบเส้า และฝ่ายปกครองอำเภอแม่ทา ได้เข้าไปดำเนินการดับไฟป่า และได้รับการสนับสนุนภารกิจดับไฟจากอากาศยานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำให้พื้นที่การเผาไหม้และจำนวนจุดความร้อนลดลงได้เป็นบางส่วน แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์การเกิดไฟป่าในพื้นที่ภูเขาสูงชันยังมีการลุกลามของไฟไปเป็นแนวยาวและมีความจำเป็นต้องใช้อากาศยานในการควบคุมสถานการณ์การเกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่องในเช้าวันนี้

ทั้งนี้ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้ายังคงจัดอากาศยานเข้าดับไฟร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความรุนแรงของไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือให้เร็วที่สุด

นำอากาศยานเข้าช่วยดับไฟป่า 2 อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดลำพูน

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า  (ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.)จัดอากาศยาน MI-17 และ KA – 32 ช่วยดับไฟ 2 พื้นที่ของจังหวัดลำพูน ขณะที่ ฮ.ทส.1110 ช่วยดับไฟเขตรอยต่อ อ.สามเงา จ.ตาก

วันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ทางศูนย์ควบคุมอากาศยานและดับไฟป่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า ได้รับการประสานจาก นายอรรถพล สัตญาวุต หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าบ้านโฮ่ง เพื่อขอใช้อากาศยาน ปภ.32-04 จากศูนย์ควบคุมอากาศยานและดับไฟป่าช่วยดับไฟในพื้นที่เข้าถึงยาก เนื่องจากตลอดคืนที่ผ่านมาเกิดไฟป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง อ.แม่ทา จ.ลำพูน ติดต่อกัน 2 วัน ซึ่งนายอำเภอแม่ทายังคงระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ดับไฟป่ารวมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน ขณะที่ดาวเทียมระบบ VIIRS รายงานพบจุดความร้อนในพื้นที่ อ.แม่ทา จังหวัดลำพูน เช้านี้ จำนวน29 จุด โดยเฉพาะ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง ท้องที่อำเภอแม่ทา เกิดจุดความร้อน จำนวน 22 จุด

ทางด้าน อำเภอลี้ ศูนย์ควบคุมอากาศยานและดับไฟป่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า นำขอเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป แบบ 17( MI-17 )สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจดับไฟในพื้นที่ ภายหลังได้รับการประสานจาก ว่าที่ร้องตรี ฐนพงษ์ ปุรินทราภิบาล เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ว่าเกิดไฟป่าหลายจุดบริเวณบ้านห้วยโป่งสามัคคี ตำบลแม่ตื่น อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ตื่นและป่าแม่แนต โดยจากการติดตามสถานการณ์ตลอดคืนที่ผ่านมาทางชุดปฏิบัติการตำบลแม่ตื่น ชุดปฏิบัติการหมู่บ้าน ชุดปฏิบัติการหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลพ 5 (แม่ตื่น) และเทศบาลตำบลแม่ตื่น ได้ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอลี้เข้าตรวจสอบและดับไฟ ปัจจุบันพบว่ามีพื้นที่เสียหายหลายไร่

ในส่วนของ ฮ.ทส.1110 ปฏิบัติการบินสำรวจและช่วยดับไฟป่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเเม่ตื่น และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย เขตรอยต่อ อ.สามเงา จ.ตาก ได้ปฏิบัติการบินตักน้ำดับไฟ จำนวน 6 เที่ยวบิน คิดเป็นปริมาณน้ำ 2,500 ลิตร บริเวณป่าดอยกู่, ป่าห้วยอุ้มหลอง และป่าบ้านอูมฮวม ในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย แต่ยังไม่สามารถควบคุมไฟให้ดับได้เนื่องจากสภาพป่ามีความแห้งแล้งเป็นส่วนใหญ่และปริมาณเชื้อเพลิงสะสมมีเป็นจำนวนมาก มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟ ต้องทำแนวสกัดตามลักษณะภูมิประเทศเชิงพื้นที่

วัดผาลาดจัดผ้าป่าเครื่องเป่าลมแจกชาวบ้านสกัดไฟป่าดอยสุเทพ

ผ้าป่าแนวใหม่ วัดผาลาด ต.สุเทพ อ.เมือง จัดผ้าป่าเครื่องเป่าลมแจกชาวบ้าน 3 อำเภอสกัดไฟป่าดอยสุเทพ รวมทั้งมอบให้กับสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้นำไปใช้งานอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้จะมีการระดมทุนจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับหรือโดรนเพื่อใช้ตรวจสอบพื้นที่ป่าและแจ้งพิกัดให้กับเจ้าหน้าที่หากเกิดไฟป่า

ตัวแทนหมู่บ้านในพื้นที่รอบดอยสุเทพและอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จาก อ.หางดง อ.แม่ริม และ อ.เมืองเชียงใหม่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ พร้อมใจร่วมงานบุญทอดผ้าป่าที่วัดผาลาด อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งงานบุญทอดผ้าป่าครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่อื่น เพราะคณะศรัทธาประชาชนไม่ได้ถวายเป็นเครื่องอัฐบริขารหรือข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประตำวันสำหรับพระสงฆ์ แต่ร่วมใจกันถวายเป็นเครื่องเป่าลม เครื่องตัดหญ้า และ ปัจจัยเป็นค่าน้ำมันใช้สำหรับอุปกรณ์เหล่านี้โดยงานบุญทอดผ้าป่าจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ไหว้พระสวดมนต์ ให้ศีลให้พร ก่อนมอบเครื่องมืออุปกรณ์ให้กับตัวแทนหมู่บ้านไปใช้งาน

ด้านพระมหาสง่า ธีรสังวโร เจ้าอาวาสวัดผาลาด เปิดเผยว่า วัดผาลาอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย หลายปีที่ผ่านมาต้องประสบกับปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ได้ช่วยกันทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่ามาโดยตลอด แต่ทราบว่ายังขาดแคลนอุปกรณ์ใช้งาน ทางวัดจึงชักชวนญาติโยมผู้มีจิตศรัทธามาร่วมทำบุญด้วยเครื่องเป่าลมเครื่องตัดหญ้าและค่าน้ำมันให้กับชาวบ้าน ซึ่งได้รับความร่วมมือในการจัดซื้ออุปกรณ์เหล่านี้มาถวายกองผ้าป่าจำนวนมาก โดยในวันนี้ทางวัดได้มอบเครื่องเป่าลมเครื่องตัดหญ้าให้หมู่บ้านละ 1 ชุด รวม 29 ชุด มูลค่าชุดละประมาณ 12,000 บาท รวมทั้งมอบให้กับสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้นำไปใช้งานอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้จะมีการระดมทุนจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับหรือโดรนเพื่อใช้ตรวจสอบพื้นที่ป่าและแจ้งพิกัดให้กับเจ้าหน้าที่หากเกิดไฟป่า

อุปกรณ์เครื่องมือที่ได้จากการทอดผ้าป่าครั้งนี้ พระมหาสง่า บอกว่า นอกจากจะทำให้การดูแลปกป้องทรัพยากรป่าไม้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยังเป็นขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านที่เสียสละในการช่วยกันปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ เพราะผืนป่าดอยสุเทพเป็นป่าในเมืองที่สำคัญ เป็นแหล่งผลิตออกซิเจนสร้างอากาศดีให้กับชาวเชียงใหม่ หากป่าถูกทำลายจากไฟป่าก็จะส่งผลกระทบกับประชาชนจำนวนมากจากปัญหามลพิษทางอากาศ

ขณะที่นายสุรเชษฐ์ ตามาคำ กำนันตำบลสุเทพ เปิดเผยว่า ชาวบ้านในพื้นที่เห็นความสำคัญและมีความตื่นตัวในการป้องกันผืนป่าดอยสุเทพ โดยมีการจัดเวรยามตรวจสอบเฝ้าระวังทั้งในพื้นที่บนดอยที่บ้านม้งดอยปุย ส่วนที่ชายป่าด้านล่างมีการตั้งจุดตรวจสกัดห้ามคนเข้าป่า รวมทั้งมีทีมมอเตอร์ไซค์วิบากเคลื่อนที่เร็วที่จะเข้าตระเวนตรวจสอบและเข้าพื้นที่ได้ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ ขณะที่อุปกรณ์เครื่องมือที่ได้มามีความจำเป็นในการทำแนวกันไฟในพื้นที่เป็นอย่างมาก

ส่งอากาศยาน KA -32 ช่วยดับไฟป่าอมก๋อย

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า (ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.) ส่งอากาศยาน KA -32 ช่วยดับไฟในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อยภายหลังเกิดจุดความร้อนเมื่อวาน 17 จุด จนเกิดไฟป่าขยายวงกว้าง

วันที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น.ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม ศูนย์ควบคุมอากาศยานและดับไฟป่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า รายงานว่าทางศูนย์ฯได้รับการประสานจากนายครินทร์ หิรัญไกรลาส หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อยว่าตลอดคืนที่ผ่านมาเกิดไฟป่าขยายวงกว้างในพื้นที่เนื่องจากเกิดจุดความร้อน (Hotspot) 17 จุด ช่วงเช้าของเมื่อวานบริเวณป่าห้วยคึด, ป่าห้วยอุ้มหลอง, ป่าดอยกู่ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย
ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์ไฟป่า และวางแผนการเข้าควบคุมไฟในพื้นที่ พร้อมทั้งได้มอบเสบียงอาหารและน้ำดื่มให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดสนธิกำลังดับไฟป่า ซึ่งกำลังดังกล่าวประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (จนท.อนุรักษ์ฯ, จนท.หน่วยฯอุ้มหลอง, จนท.หน่วยฯนางนอน, จนท.จุดเฝ้าระวังไฟป่าโซนรับผิดชอบหน่วยฯอุ้มหลอง, จนท.จุดเฝ้าระวังไฟป่าโซนหน่วยฯนางนอน) เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าอมก๋อย นำโดยนายฐานันดร พรมมณี หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าอมก๋อย และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมูเซอหลังเมือง หมู่ที่ 5 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่

ที่ผ่านมาหน่วยงานในพื้นที่ได้วางแผนการดำเนินการควบคุมและดับไฟป่า แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่เข้าถึงยาก จึงไม่สามารถดับไฟได้หมดและได้ร้องขออากาศยาน KA -32
จากศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าเข้าดับไฟในครั้งนี้

จิตอาสาป้องกันไฟป่า บ้านสันลมจอย ต.สุเทพ ขี่รถวิบากขึ้นเขาทำแนวกันไฟ

จิตอาสาป้องกันไฟป่า บ้านสันลมจอย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขี่รถมอเตอร์ไซค์วิบากขนเครื่องเป่าลม ขึ้นเขาทำแนวกันไฟป่าชุมชนบ้านสันลมจอย ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ป้องกันไฟป่าพร้อมกันนี้ได้มีการจัดชุดลาดตระเวนป้องกันไฟป่า ซ่อมแซมแนวกันไฟ และเฝ้าระวังคนนอกเข้าพื้นที่เผาป่าล่าสัตว์ สุดทึ่งคุณตาวัย 72 ปี ร่วมกลุ่มขี่รถวิบากหนึ่งในชุดลาดตระเวนไฟป่าเผยร่วมทำแนวกันไฟกับผู้นำชุมชนทุกปีนานกว่า 10 ปีแล้ว

ชาวบ้านสันลมจอย ต่างตรวจเช็คความพร้อมของรถจักรยานยนต์วิบาก พร้อมกับเตรียมเครื่องเป่าใบไม้ และคราดกวาดใบไม้ ติดท้ายรถ เพื่อขึ้นเขาไปทำแนวกันไฟในป่าชุมชนบ้านสันลมจอย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งบางจุดเป็นเส้นทางลาดชันยากต่อการเดินเท้าเข้าไปเพื่อทำแนวกันไฟ จึงต้องใช้รถมอเตอร์ไซค์แบบวิบากเข้าพื้นที่ทั้งทำแนวกันไฟ ลาดตระเวนซ่อมแชมแนวสำรวจไฟป่า และป้องกันคนต่างถิ่นเข้ามาหาของป่าในพื้นที่อุทยานดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งหนึ่งในชุดเคลื่อนที่เร็วป้องกันไฟป่าตำบลดอยสุเทพเป็นคุณตาวัย 72 ปี ร่างกายยังแข็งแรงมีจิตอาสาขี่รถมอเตอร์ไซค์วิบากร่วมทำแนวกันไฟ

ด้านนายสุรเชษฐ์ ตาคำมา กำนันตำบลสุเทพ เปิดเผยว่า พื้นที่ตำบลสุเทพ บางส่วนอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งเป็นป่าไม้ที่ยังอุดมสมบูรณ์มีพื้นที่กว้างขวาง ฝ่ายปกครองตำบลดอยสุเทพ จึงได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังไฟป่าขึ้นเพื่อสนับสนุนการป้องกันเฝ้าระวังไฟป่าขึ้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้นำชุมชน ชาวบ้านที่มีจิตอาสา โดยใช้รถจักรยานยนต์วิบากเป็นยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวก ในการเฝ้าระวังพื้นที่ป้องกันไฟป่าเนื่องจากพื้นที่ป่าอุทยานดอยสุเทพ-ปุย บางจุดเป็นพื้นที่ลาดชันยากลำบากและใช้เวลานานต่อการเข้าพื้นที่ โดยวันนี้ได้นำชาวบ้านสำรวจทำแนวกันไฟในป่าชุมชนบ้านสันลมจอย ซึ่งหลังจากวันนี้จะรวมตัวกันเข้าทำแนวกันไฟอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายทำแนวกันไฟทั้งหมดระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร และหลังจากนี้ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้ามาลาดตระเวนซ่อมแซมแนวกันไฟที่ทำไปแล้วทุกสัปดาห์ จนถึงปลายเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ชุดเคลื่อนที่เร็วรถมอเตอร์ไซค์วิบากชุดนี้จะเป็นชุดที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อุทยานฯและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าหากเกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่อุทยานดอยสุเทพฯเช่น การลำเลียงน้ำ อาหาร และอุปกรณ์ไปส่งให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานหลักหากเกิดไฟป่าขึ้น ตลอดจนเฝ้าระวังบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่เพื่อเผาป่าล่าสัตว์เป็นต้น

ขณะที่นายอุ่นเรือน คำพิโล คุณตาวัย 72 ปี หนึ่งในจิตอาสาเฝ้าระวังไฟป่าตำบลสุเทพเปิดเผยว่า เป็น ชาวบ้านสันลมจอย อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด พอถึงช่วงฤดูแล้งตนได้ร่วมกิจกรรมทำแนวกันไฟกับผู้นำชุมชนทุกปีเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว เพราะว่าผืนป่าแห่งนี้หากเรารักษาไว้ให้ดีก็ได้จะพึ่งพาอาศัย เช่นช่วงฤดูฝนก็จะเข้ามาเก็บของป่า ทั้งเห็ดหน่อไม้ จึงมีความคิดที่ต้องการรักษาผืนป่าแห่งนี้ไว้ให้ยืนนานตามกำลังเท่าที่พอจะทำได้

สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันช่วง ก.พ.68 พบจุดความร้อนกว่า 10,390 จุด

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 (ศอ.ปกป.ภาค 3) รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันประจำเดือน ก.พ.68 พบจุดความร้อนกว่า 10,390 จุด พร้อมสนับสนุนการใช้อากาศยาน.ดับไฟในพื้นที่เข้าถึงยาก

วันที่ 1 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 กล่าวว่าจากการติดตามสถานการณ์จุดความร้อนและค่าคุณภาพอากาศของภาคเหนือตลอดเดือนกุมภาพันธ์ พบว่า เกิดจุดความร้อนทั้งหมด 10,390 จุด เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับปี 2567 พบว่า ลดลงจำนวน 707 จุด คิดเป็นร้อยละ 6.37 โดยจุดตวามร้อนเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบมากในพื้นที่ จังหวัดตาก จำนวน 2,019 จุด , จังหวัดลำปาง 1,741 จุด และ จังหวัดเพชรบูรณ์ 1,055 จุด

สำหรับการตรวจคุณภาพอากาศ โดยเฉลี่ยตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา พบว่า PM 2.5 อยู่ระหว่าง 7.30 – 102.40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI อยู่ระหว่าง 12 – 228 ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ ปานกลาง ถึง เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจังหวัดที่มีค่าคุณภาพอากาศสูงสุด ในระดับสีแดงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ มี 6 จังหวัดในเดือนนี้ คือ จังหวัดแพร่ พะเยา ลำปาง น่าน พิษณุโลก และ จังหวัดสุโขทัย ทั้งนี้ในช่วงปลายเดือนเกิดฝนตกในภาคเหนือส่งผลให้คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับ ดี ถึง ดีมาก

การปฏิบัติงานที่สำคัญในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการวางแผนดับไฟป่าทั้งภาคพื้นดิน และปฏิบัติการบินทิ้งน้ำดับไฟป่าจากอากาศยาน จำนวน 34 เที่ยว ใช้น้ำกว่า 17,000 ลิตร โดยเฉพาะ พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์บ้านโฮ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ที่ทางเฮลิคอปเตอร์ KA-32 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง ส่วนที่จังหวัดตากได้บูรณาการทิ้งน้ำดับไฟป่า บริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย จำนวน 32 เที่ยว ปริมาณน้ำ 96,000 ลิตร และ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ใช้อากาศยานดับไฟจำนวน 39 เที่ยว ปริมาณน้ำ 117,000 ลิตร รวมปฏิบัติการดังกล่าว จำนวน 71 เที่ยว ปริมาณน้ำ 213,000 ลิตร

ในขณะที่เครื่องบิน BT 67 กองทัพอากาศ บินโปรยน้ำและสารควบคุมไฟป่า เพื่อสร้างแนวกันไฟ 1 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 3,000 ลิตร พื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบก บินโปรยน้ำดับเพื่อควบคุมไฟป่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่หาด อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ 1 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 3,500 ลิตร ในส่วนของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ขึ้นบินดัดแปรสภาพอากาศเพื่อดูซับละระบายฝุ่นละออง จำนวน 169 เที่ยวบิน ในพื้นที่ภาคเหนือ

สำหรับส่วนการปฏิบัติ ชุดรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาการบุกรุกและทำลายพื้นที่ป่าไม้ , ชุดลาดตระเวนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง และ กอ.รมน. 17 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์ มีจำนวนกว่า 8,164 ครั้ง

อย่างไรก็ตามจากการคาดการณ์ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือที่ว่าในช่วงวันที่ 3-5 มีนาคม นี้ จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอาจประสบกับปัญหาหมอกควันข้ามแดน ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 จึงยกระดับการปฏิบัติงานให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้นโดยให้หน่วยทหารนำรถมาฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ชุมชนเมือง รวมทั้งมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงแต่ละจังหวัดประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตนำรถหุ่นยนต์พ่นละอองน้ำแรงดันสูงเพื่อลดการเกิดฝุ่นที่จะมีเข้ามาในช่วงเดือนมีนาคมนี้