โรงเรียนปรินส์ฯ จัดงานพิธีสำคัญ สถาปนานายกสมาคมนักเรียนศิษย์เก่ารร.ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย พร้อมเปิดตัวคณะกรรมการบริหาร ปีการศึกษา 2567-2569

โรงเรียนปรินส์ฯ จัดงานพิธีสำคัญ สถาปนานายกสมาคมนักเรียนศิษย์เก่ารร.ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย พร้อมเปิดตัวคณะกรรมการบริหาร ปีการศึกษา 2567-2569

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ โรงละคร โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย สมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จัดงานสถาปนาคณะกรรมการบริหารสมาคม พร้อมเปิดตัวนายกสมาคมคนใหม่ ปีบริหาร 2567 – 2569 ได้แก่ นางจันทิรา พลอาจ “ต่าย” ประธาน รุ่น ธาญ์ร’30 โดยมีผู้เข้าร่วมในพิธีประกอบด้วยแขกผู้มีเกียรติ ตัวแทนจาก สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนปรินส์ฯ กรรมการที่ปรึกษากิติมศักดิ์สมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย (ส.น.ป.) มูลนิธิแพทย์นำเงินขาวสู่ชุมชน ชมรมครูเก่าPRC ชมรมกีฬาPRC สมาพันธ์ศิษย์เก่า 7 สถาบัน จ.เชียงใหม่ อันได้แก่ สมาคมศิษย์เก่ายุพราชวิทยาลัย สมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนดาราวิทยาลัย สมาคมศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัย สมาคมศิษย์เก่าพระหฤทัยเชียงใหม่ สมาคมนักเรียนเก่าเรยีนาเชลีวิทยาลัย สมาคมศิษย์เก่าวัฒโนทัยพายัพ และสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ

“ ฟื้นสัมพันธ์ สานไมตรี สืบทอดประเพณี P.R.C. Spirit” .. นางจันทิรา พลอาจ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร สนป. ปีบริหาร 2567 – 2569 ทุกคน มีปณิธานมุ่งมั่นและตั้งใจ ที่จะทำงานเพื่อนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย และ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จะสืบทอดอุดมการณ์ ขับเคลื่อนภารกิจ ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของโรงเรียน ในทุก ๆ ด้าน ผ่านสายใยแห่งความรักและความสามัคคี ที่ผูกพันจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง และขยายไปถึงพี่น้องทุกโรงเรียน ในนามสมาพันธ์ศิษย์เก่า 7 สถาบัน จ.เชียงใหม่ ที่มาร่วมในพิธีสถาปนาฯ ในวันนี้ เราจะสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆร่วมกัน เติบโตไปด้วยกัน ด้วยมิตรภาพที่ดี .. better together !!

สมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย หรือ ส.น.ป. ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2469 โดยแม่ครูคอร์นิเลีย แฮรีส โดยมีนายศรีโอ๊ะ อินทะพันธุ์ นักเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยเลขประจำตัว 1 เป็นนายกสมาคมคนแรก นับว่าเป็นสมาคมนักเรียนเก่าแห่งแรกในภาคเหนือ .. ติดตามข่าวสารสมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยได้ที่ https://www.facebook.com/prc.alumni
“ Hearts are strong and spirit free, that is P.R.C.”.

พว.จิราลักษณ์ จันทร์กระจาย ปร.17215 สมาคมนักเรียนเก่าปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย

(มีคลิป) ปปส.ภาค 5 มินิมาราธอน RUN AGAINT DRUGS ปี 67 ผนึกพลังทุกภาคส่วนร่วมต่อต้านยาเสพติด

ปปส.ภาค 5 มินิมาราธอน RUN AGAINT DRUGS ปี 67 ผนึกพลังทุกภาคส่วนร่วมต่อต้านยาเสพติด

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 เวลา 06.00 น ที่กรมรบพิเศษที่ 5 ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในพิธีเปิด กิจกรรม ปปส.ภาค 5 มินิมาราธอน RUN AGAINT DRUGS ประจำปี 2567 ร่วมด้วยผู้มีเกียรติเข้าร่วมกิจกรรม นายธนาธิป นวรัตนวรกุล อัยการประจําสํานักงานอัยการสูงสุด พันเอก ระวีพล ปวงนิยม เสนาธิการ กรมรบพิเศษที่ 5 พันเอก รัชพล สังขบุญชู รองเสนาธิการ กองพลทหารราบที่ 7 พันเอก โภคา จอกลอย ผู้ช่วยเลขานุการ นบ.ยส.35 พลตำรวจโท วุฒิ วิทิตานนท์ อนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินภาค 5 พันตำรวจเอก ดำเนิน กันอ่อง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวนิตยา เพียรทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่ นางสาวณัฐนันท์ พิทักษา ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และนายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5

การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ระดมพลังความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ร่วมเป็นพลังสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยส่งเสริมกิจกรรมการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง และห่างไกลจากยาเสพติด นอกจากนี้ รายได้จากการจัดงานสมทบทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด

การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ระยะได้แก่ระยะ 11 กม. และระยะ 5 กม. มีนักวิ่งและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนกว่า 1,200คน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนจะได้รับเสื้อแข่งขันและเหรียญรางวัลที่ระลึก นอกจากนี้ ผู้ที่สามารถเข้าเส้นชัย ระยะ 11 กม. ได้รับถ้วย Overall ชาย 50 ใบ หญิง 50 ใบ ระยะ 5 กม. ได้รับถ้วย Overall ชาย 10 ใบ หญิง 10 ใบ ส่วนเสื้อ TOP 100 สำหรับนักวิ่งเข้าเส้นชัย ระยะ 12 กม.จำนวน 200 ตัว (ชาย 100 ตัว หญิง 100 ตัว) และเสื้อปลอบใจ Last Runner สำหรับนักวิ่ง 10 ลำดับสุดท้ายของระยะ 12 กม. จำนวน 20 ตัว (ชาย 10 ตัว หญิง 10 ตัว)

สำนักงาน ปปส.ภาค 5. ขอขอบคุณ กรมรบพิเศษ 5 และกองพลทหารราบที่ 7 ที่เอื้อเฟื้อการใช้สถานที่ในการจัดการแข่งขัน กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 ค่ายพระปิ่นเกล้า เชียงใหม่ สนับสนุนปืนใหญ่ และรถยนต์บรรทุกทางทหาร ตลอดจนกำลังพลของทหารทุกนายที่ช่วยแสดงพลังต่อต้านยาเสพติด รวมถึงสถานประกอบการ บริษัท ห้าง ร้าน ที่สนับสนุนอาหารว่างและเครื่องดื่ม ท้ายสุด ขอขอบคุณประชาชนที่มีส่วนร่วมด้วยดีเสมอมา และสื่อมวลชนที่เข้ามาร่วมกิจกรรม เพื่อสร้างการรับรู้สำคัญในการต่อต้านยาเสพติด.

ชำระค่าก่อสร้างห้องสำนักงาน ห้องประชุม งวดที่ 5 (สุดท้าย) หอฉัน งวดที่ 1

ชำระค่าก่อสร้างห้องสำนักงาน ห้องประชุม งวดที่ 5 (สุดท้าย) หอฉัน งวดที่ 1

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 14.00 น. พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้นเชียงใหม่ ผู้ว่าจ้างได้จ่ายเงินค่าจ้างเหมาก่อสร้างสำนักงานพุทธมณฑล 1 หลัง ห้องประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ 1 หลัง แก่ผู้รับจ้าง นายอำนาจ สังข์ทอง งวดที่ 5 (สุดท้าย) เป็นเงินจำนวน 1,187,969.00- บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนแปดหมื่นเจ็ดพันเก้าร้อยหกสิบเก้าบาทถ้วน) และจ่ายค่าสร้างหอฉัน 1 หลัง ขนาดหว้าง 12 เมตร ยาว 40 เมตร ผู้รับจ้างได้ขุดหลุม เทเสาตอหม่อ เทคานคอดินแล้วเสร็จ จ่ายงวดที่ 1 เป็นเงินจำนวน 1,000,000.00- บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) โดยมีพระเดชพระคุณพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่,พระครูสาธุกิจจานันท์ เจ้าคณะอำเภอดอยหล่อ พร้อมคณะกรรมการ การก่อสร้าง ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สำนักงานพุทธมณฑลจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่.

เปิดบ้านวิชาการ สัปดาห์วิทยาศาสตร์ 2567

เปิดบ้านวิชาการ สัปดาห์วิทยาศาสตร์ 2567

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 พระครูสิริบรมธาตุพิทักษ์,ผศ.ดร. รองอธิการบดี มจร วิทยาเขตเชียงใหม่ เป็นประธานกล่าวให้โอวาทในพิธี “เปิดบ้านวิชาการ สัปดาห์วิทยาศาสตร์ 2567” พร้อมมอบเกียรติบัตรให้กับพระและสามเณรที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ จัดโดยศูนย์การเรียนโพธิยาลัย และโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ที่เป็นเครือข่ายศูนย์การเรียนโพธิยาลัย 20 ห้องเรียนสาขา ณ ห้องประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่.

ปลูกไผ่ให้แม่

ปลูกไผ่ให้แม่

เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๗ พระครูสิริบรมธาตุพิทักษ์,ผศ.ดร. รองอธิการบดี วิทยาเขตเชียงใหม่ มอบหมายให้พระครูปริยัติเจติยานุรักษ์,ผศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์เชียงใหม่ จัดทำโครงการปลูกไผ่ให้แม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันแม่แห่งชาติ โดยมี รศ.ดร.อภิรมย์ สีดาคำ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป นำผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตทั้งบรรชิตและคฤหัส กล่าวสดุดีแม่ของแผ่นดินพร้อมทั้งร่วมปลูกต้นไผ่เป็นแนวกันดิน ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียง.

ฉลองตราตั้งตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์

ฉลองตราตั้งตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์

งานอายุวัฒนมงคล 6 รอบ 72 ปี แม่บุญมา วงศ์ตุ่น และฉลองตราตั้งตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์พระครูสมุห์วัลลภ ฐิจสํวโร, ผศ.ดร. ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มจร วิทยาเขตเชียงใหม่ มุฑิตาพระนวลแก้ว ขนฺติธโร, พระมหาจตุรงค์ จตุวโร จบการศึกษาระดับปริญญาโท วันเสาร์ ที่ 17สิงหาคม พ.ศ.2567 เวลา 10 น. ณ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

(มีคลิป) ผบ.ตร.ขึ้นเหนือ แถลงจับคดียาเสพติดภาค 5 ล็อตใหญ่ 3 คดี รวมของกลางยาบ้า 13,980,000 เม็ด

ผบ.ตร.ขึ้นเหนือ แถลงจับคดียาเสพติดภาค 5 ล็อตใหญ่ 3 คดี รวมของกลางยาบ้า 13,980,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 67 เวลา 15.00 น. ตามนโยบายรัฐบาล ให้หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในทุกมิติ ที่ลานอินทนนท์ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย และ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5ฝ่ายทหาร นบ.ยส.35 ผู้แทน พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.นบ.ยส.35 สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญของตำรวจภูธรภาค 5

สืบเนื่องผลมาจากการติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดของ นายป๋อลี หรือนายบุญชัย แซ่มัว ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายม้งในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา, อ.เทิง และ อ.พญาเม็งราย จวง.เชียงราย เป็นแหล่งพื้นที่พักยาเสพติด เพื่อรอการลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ซึ่งตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการดำเนินการใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยีในการสืบสวน และระดมสรรพกำลังในการปฏิบัติ รวมถึงการประสานงานในรูปแบบการทำงานร่วมกันเป็นทีมงาน ระหว่างกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 และ ตำรวจภูธรจังหวัด ทั้ง 8 แห่งในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 รวมถึงการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงาน ณ ด่านตรวจ/จุดตรวจยาเสพติด โดยมีการนำระบบเทคโนโลยี AI และกล้องที่ติดตั้ง ในจุดต่าง ๆ มาร่วมในการวิเคราะห์ ติดตามเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด

คดีที่ 1 ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยจะใช้รถยนต์ในการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และได้สั่งการให้ทำการสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์คันดังกล่าว ต่อมาวันที่ 13 ส.ค.67 พบรถยนต์คันที่กำหนดไว้เป็นเป้าหมายการสืบสวน จำนวน 3 คัน ได้ขับออกจากพื้นที่ จ.เชียงราย จึงได้เฝ้าติดตามโดยแบ่งหน้าที่ในการติดตามสะกดรอย จำนวน 3 ชุด ต่อมาวันที่ 14 ส.ค.67 เวลาประมาณ 23.54 น. รถยนต์เป้าหมาย รถนำคันที่ 1 ขับมาถึงด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกเพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย

จึงได้ปล่อยรถยนต์คันดังกล่าวไป ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามรถยนต์อีก 2 คัน แจ้งว่ารถยนต์ทั้ง 2 คัน กลับรถที่จุดกลับรถ บ้านท่าชุม ก่อนถึงด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก ประมาณ 3 กม. จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบรถยนต์ทั้ง 2 คัน พบเป็นรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว จอดทิ้งไว้ที่บริเวณป่าข้างถนนพหลโยธิน บ้านท่าชุม ม.2 ต.พระบาทวังตวง ส่วนคนขับได้หลบหนีไป จึงทำการตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบกระสอบยาเสพติด(ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่ในแคป และท้ายกระบะ และรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา รถนำคันที่ 2 บริเวณข้างถนนพหลโยธิน บ้านท่าชุม ม.2 ต.พระบาทวังตวง จอดห่างกันประมาณ 1 กม. จึงได้ทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามรถนำคันที่ 1 จนสามารถจับกุมได้ที่บริเวณด่านตรวจแม่สลิด ต.แม่สลิด อ.บ้านตาก จ.ตาก จากนั้นได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมรถยนต์ของกลางทั้ง 3 คัน มาตรวจสอบโดยละเอียดที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก ผลการตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 25 กระสอบ รวมยาบ้าจำนวน 5,000,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 เจ้าหน้าตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้รายงายในผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และได้รับสั่งการให้ติดตามสืบสวนหาข่าว จนกระทั่ง เวลาประมาณ 04.00 น. ของวันเดียวกัน พบรถยนต์กระบะสี่ประตูมีโครงหลังคา ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน งย 4193 เชียงใหม่ ซึ่งมีลักษณะตรงกันกับที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ขับมาตามถนนสายหลังอำเภอ หมู่ 2 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย มุ่งหน้าไปทาง อ.เทิง จ.เชียงราย จึงได้ร่วมกันติดตามและสกัดกั้นรถยนต์คันดังกล่าวได้พบ นายวีรพล เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 17 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร และพบยาบ้า จำนวน 18 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ภายในหลังกระบะ รวมทั้งหมดจำนวน 35 กระสอบ รวมยาบ้าประมาณ 8,750,000 เม็ด จากนั้นจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 13 ส.ค.67 เวลาประมาณ 19.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ทำการตรวจยึดยาเสพติที่ซุกช่อนอยู่ในพัสดุ ณ ศูนย์กระจายสินค้า Flash Express ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ – ลำปาง ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จำนวน 120,000 เม็ด ได้ทำการตรวจยึดไว้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

และจากการตรวจสอบทราบว่ายังมีพัสดุหมายเลข TH650160022510 ที่มีผู้ส่งเป็นบุคคลคนเดียวกัน คือนายนิพนธ์ ที่อยู่ ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ถูกส่งไปยังปลายทางผู้รับชื่อนายฮาริส ที่อยู่ ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบพัสดุหมายเลขดังกล่าว อยู่ที่โกดัง Flash Express สาขาสันทราย จึงได้แจ้งแก่พนักงาน และขอทำการตรวจสอบผลการตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 110,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย.

(มีคลิป) ทต.สันปู่เลย ปกครอง ตำรวจ แขวงทางหลวง ชม.ที่ 2 และชาวบ้านเปิดเวทีถกปัญหารถติด ที่ทางลอดท่ารั้ว ขอให้เปิดจุดยูเทิร์นให้มากขึ้น เพื่อรถเข้าเมืองได้สะดวก

ทต.สันปู่เลย ปกครอง ตำรวจ แขวงทางหลวง ชม.ที่ 2 และชาวบ้านเปิดเวทีถกปัญหารถติด ที่ทางลอดท่ารั้ว ขอให้เปิดจุดยูเทิร์นให้มากขึ้น เพื่อรถเข้าเมืองได้สะดวก หากมายูเทิร์นที่ทางลอดท่ารั้วเพียงแห่งเดียว รถติดหนึบเป็นกิโลส่งผลเสียทางเศรษฐกิจ

เมื่อบ่ายวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ที่ลานหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลสันปู่เลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นางวิมลรัตน์ หลอดเข็ม ปลัดอำเภอดอยสะเก็ด นายสาธิต คำหน่อแก้ว นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันปู่เลย และนายวิทยา ไชยนันท์ รอง ผอ.แขวงทางหลวง ชม.ที่ 2 และ พ.ต.ต.สมประสงค์ ดิษฐาน สภ.ดอยสะเก็ด ร่วมประชุมรับฟังความเห็นของชาวบ้านกรณีปัญหาการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน จุดทางลอดท่ารั้ว ที่สร้างปัญหาให้ชาวบ้านมานานแล้ว

นายสาธิต คำหน่อแก้ว นายเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันปู่เลย กล่าวว่า การเปิดเวทีรับฟังปัญหาของชาวบ้านกับทุกภาคส่วนในวันนี้ เรื่อง การจราจรที่ติดขัดบริเวณทางลอดท่ารั้ว ตำบลสันปูเลย ถนนทางหลวงชนบท 3013 นั้น เป็นเพราะประชาชนในพื้นที่ตำบลสันปูเลย มีประชากรจำนวน 18,500 กว่าคน จาก 10,500 ครัวเรือน และมีประชากรแฝง จำนวน กว่า 20,000 คน เป็นประชากรที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร ที่ชื่อดังและเจ้าใหญ่จำนวนกว่า 4-5 โครงการฯ และถือว่าเป็นบ้านที่สองของผู้มีฐานะ มีการใช้ยานพาหนะที่เป็นรถยนต์เป็นหลักมากถึง 85% ตำบลสันปูเลยแบ่งเป็นสองฝั่ง ทางทิศเหนือ มีจำนวน 11 หมู่บ้าน และทางทิศใต้ จำนวน 4 หมู่บ้าน เมื่อรถยนต์ทั้งสองฝั่งถนนออกจากบ้านเพื่อจะเข้าเมืองเชียงใหม่ ก็จะออกมาที่ทางลอดท่ารั้ว จากที่ออกจากบ้านมาพร้อมๆกันก่อนนั้นเป็นถนน 2 เลน พอเข้ามายูเทิร์นที่ใต้ทางลอดท่ารั้ว จะเหลือเลนเดียว เพื่อยูเทิร์นรถจะเข้าไปในเมืองทั้งทางทิศเหนือและทิศใต้ ทำให้รถติดหนึบ รถติดยาวเป็นกิโล เสียเวลารอยูเทิร์นนานมาก ส่งผลเสียงทางด้านเศรษฐกิจจำนวนมหาศาลในแต่ละวันในชั่วโมงเร่งด่วนของทุกๆวันจนเป็นปัญหาที่ชาวบ้านเดือดร้อนมานาน

“ผมเสนอแผน ขอให้เปิดจุดยูเทิร์นรถ จุดที่ห่างออกไปจากทางลอดท่ารั้ว ประมาณ 3-4 กิโลเมตร ทั้งสองฝั่ง ทางทิศเหนือ และทางทิศใต้ เมื่อมีทางยูเทิร์นก่อนที่จะมารวมตัวกันยูเทิร์นที่ทางลอดท่ารั้วเพียงแห่งเดียว แน่นแนว่ารถก็จะกระจายกันออกไปเพื่อเข้าเมืองได้หลายทิศทางมากขึ้น เคยเสนอแผนดังกล่าวไปที่แขวงทางหลวง ชม.ที่2แล้วเพื่อให้แก้ไข จนครั้งนี้เชิญมาชี้แจงกับชาวบ้านด้วยเลย“ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันปู่เลย กล่าว

สรุปในที่ประชุม ทางนายวิทยา ไชยนันท์ รอง ผอ.แขวงทางหลวง ชม.ที่ 2 บอกว่า รับทราบปัญหาของชาวบ้านแล้ว และมีแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดที่ทางลอดทั่วรั้ว ตามข้อเสนอในที่ประชุมแจ้งมา จะมีการเปิดจุดยูเทิร์นเพิ่มให้ตามที่ชาวบ้านต้องการต่อไป เป็นอันเสร็จสิ้นการประชุม.

อำเภอสะเมิง เชียงใหม่ จัดพิธีทำบุญตักบาตรและสวดเจริญพระพุทธมนต์

อำเภอสะเมิง เชียงใหม่ จัดพิธีทำบุญตักบาตรและสวดเจริญพระพุทธมนต์

เมื่อวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2567 พระครูสวัฒน์วรธรรม เจ้าคณะอำเภอสะเมิง เจ้าอาวาสวัดงาแมง อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยพระครูโอภาสปัญญาคม รองเจ้าคณะอำเภอสะเมิง เจ้าอาวาสวัดดับภัย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ประธานฝ่ายสงฆ์ นายวิโรจน์ ดวงสุวรรณ์ นายอำเภอสะเมิง มอบหมายให้ นายธีรยุทธ พุ่มนวน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรและสวดเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2567 หรือ “วันแม่แห่งชาติ” ประจำปี 2567 ณ วัดสะเมิง (วัดห้วยคอก) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่.

(มีคลิป) ผบช.ภ.5 แถลงข่าว จับแก็งซามูไรโหด ดาบซามูไรสั้น ฟันเด็กกับวัยรุ่น บาดเจ็บสาหัส 2 ราย

ผบช.ภ.5 แถลงข่าว จับแก็งซามูไรโหด ดาบซามูไรสั้น ฟันเด็กกับวัยรุ่น บาดเจ็บสาหัส 2 ราย

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวจับกุมกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกาย ในพื้นที่ อ.สารภีตำรวจภูธรภาค 5 สืบจากเมื่อวันที่ 11 ส.ค.67 เวลาประมาณ 03.55 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถ.สารภี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายบริเวณถนนหน้า หจก.บ้านอบอุ่นใจ ม.1 ต.ชมภู อ.สารภี จวเชียงใหม่ โดยถูกอาวุธมีดพันได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน คือ นายวัชระพล โนทะวงศ์ อายุ 20 ปี ที่อยู่ 119 ม.9 ต.ดงมะคะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่รักษาตัด และด.ช.กิตติศักดิ์ กันอินทร์ อายุ 14 ปี ที่อยู่ 44 ม.9 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.ชียงราย ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาอาการสาหัสต้องได้รับการผ่าตัด ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหมรักษาตัว

พล.ต ท กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช ภ 5 ได้เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เร่งออกสืบสวนติดตามหาผู้ก่อเหตุจนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุดังกล่าว เป็นการก่อเหตุของแก๊งเยาวราช ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของกลุ่มวัยรุ่นใน อ.เมืองลำพูน ซึ่งได้นัดหมายกับแก๊งดอยหล่อ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของกลุ่มวัยรุ่นใน อ.ดอยหล่อ

สืบสวนจากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีตำหนิรูปพรรณตรง กับกลุ่มของนายวัชรพันธ์ หรือบาส ซึ่งเป็นแกนนำของแก็งเยาวราช เคยมีประวัติการก่ออาชญากรรมมาก่อน จึงได้ติดตามตัวนายวัชรพันธ์ฯ จนพบพร้อมของกลางที่ได้ใช้ก่อเหตุ นายวัชรพันธ์ๆได้ให้การว่าได้นัดหมายกับกลุ่มของนายชาญณรงค์ จาก อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ บริเวณถนนเชียงใหม่-ลำปาง โดยได้เตรียมอาวุธมีด และระเบิดปิงปองที่ทำขึ้นเอง เพื่อออกไปทำร้ายร่างกายกลุ่มของคู่อริ (แกงหางดง HANGDONG) ที่บริเวณถนนเรียบทางรถไฟ

ต่อมากลุ่มของนายวัชรพันธ์ๆ และกลุ่มของนายชาญณรงค์ฯ ได้รวมตัวกันอยู่บริเวณแยกสารภีได้เห็นนายวัชระพลฯ และด.ช.กิตติศักดิ์ๆ ผู้เสียหาย ขับรถจักรยานยนต์ผ่านกลุ่มของตนไป จึงได้เข้าใจว่าเป็นกลุ่มคู่อริจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ตามไปจนกระทั่งถึงบริเวณถนนหน้า หจก.บ้านอบอุ่นใจ ม.1 ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกได้ร่วมกันทำร้ายนายวัชระพลฯ และกลุ่มที่ 2 ได้ร่วมกันทำร้าย ด.ช.กิตติศักดิ์ฯ โดยได้ใช้อาวุธมีด และระเบิดปิงปองที่พกพามาด้วยจนทำให้นายวัชระพลฯ และด.ช.กิตติศักดิ์ฯ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไป

จากการสืบสวนขยายผลสามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว 8 คน คือนายวัชรพันธ์ หรือบาส (ขอปิดนามสกุล) อายุ 21 ปี ที่อยู่ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน, นายภานุวัฒน์ หรือนน (ขอปิดนามสกุล) อายุ 19 ปี ที่อยู่ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน, นายพุฒิพงษ์ (ขอปิดนามสกุล) อายุ 18 ปี 11 เดือน ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.ลำพูน, นายคำออง (ขอปิดนามสกุล) อายุ 22 ปี ที่อยู่ ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่, นายกันตภณ (ขอปิดนามสกุล) อายุ 21 ปี ที่อยู่ ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่, นายรัษฎาธร (ขอปิดนามสกุล) อายุ 16 ปี ที่อยู่ ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่, นายณัฐวุฒิ หรือบ่อ (ขอปิดนามสกุล) อายุ 20 ปี ที่อยู่ 48/2 ม.7 ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน และนายณัฐวิชญ์ (ขอปิดนามสกุล) อายุ 27 ปี ที่อยู่ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน
พร้อมตรวจยืดของกลาง เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะก่อเหตุ จำนวน 7 รายการ, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นR15 สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กง 2049 ลำพูน (คันที่ก่อเหตุ), รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นPCX สีเทา ไม่ติดป้ายทะเบียน (คันที่ก่อเหตุ), อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ 2 ด้าม

ผู้ต้องหาแต่ละรายถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกัน และสนับสนุน เป็นช่องโจร, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย และ อันตรายสาหัส โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดตั้งแต่ 15 ปี ถึง20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,210,288,294,295 และ371

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้สอดส่องหากพบพฤติกรรมการรวมกลุ่มของวัยรุ่นสามารถแจ้งให้ทางตำรวจได้ตลอด

ซึ่งแก๊งที่ถูกจับได้ครั้งนี้ หัวหน้าแก๊งตัวใหญ่อ้วน ส่วนสมุนร่วมทีมตัวไม่อ้วน ใช้อาวุธมีด และดาบซามูไรสั้น กระหน่ำฟันผู้ได้รับบาดเจ็บ จนมีดดาบซามูไร ถึงกับหลุดหักจากด้าม มาตราการของตำรวจจะใช้วิธีบุกถึงบ้านตรวจค้นจับกุม พวกนี้เคยก่อเหตุมาแล้วแต่ก็ไม่หลาบจำ ต่อไปนี้ทางตำรวจรจะใช้มาตราการเด็ดขาดทางกฏหมาย “ข้อหาพยายามฆ่า, ยึดของกลาง ทั้งอาวุธ และยานพาหนะ ให้ตกเป็นของกลางของหลวงตลอดไป ไม่คืนและหากเป็นต่างด้าวก็จะขับออกนอกประเทศ กลุ่มแก๊งวัยรุ่นตอนนี้ทางเราได้ตรวรจเช็คและทำบัญชีไว้แล้ว มีทั้งหมด 20 แก็ง ถูกจับติดคุก, ค่ายเยาวชน ก็มาก หลบหนีสลายตัวก็เยอะ และก็ย้อนกลับมารวมตัวกันใหม่ก่อเหตุอีก ทางเจ้าหน้าที่อาจจะต้องใช้มาตราการที่เด็ดขาดโดยการใช้กฏหมายเพิ่มขึ้นกว่านี้พล.ต.ท.กฤตธาพล กล่าว.