(มีคลิป) ภาค 5 แถลงจับกุมผู้ต้องหา 2 คนลักลอบขนยาบ้าผ่านทางเครื่องบิน 3 แสนเม็ดเชียงใหม่ / ลักลอบขนยาไอซ์ 150 กิโลซุกซ่อนช่องลับในรถที่เชียงราย

ภาค 5 แถลงจับกุมผู้ต้องหา 2 คนลักลอบขนยาบ้าผ่านทางเครื่องบิน 3 แสนเม็ดเชียงใหม่ / ลักลอบขนยาไอซ์ 150 กิโลซุกซ่อนช่องลับในรถที่เชียงราย

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 เวลา 13.30 น. ที่ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี, พล.ต.ต. นพดล กรึงไกร, พล.ตต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ ภ.5, พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ฝ่ายทหาร นบ.ยส.35 กองกลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผวจ.เชียงใหม่ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 นายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม ลักลอบขนยาเสพติดจำนวน 2 คดี

คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 28 ก.ค.67 เวลาประมาณ 19.30 น. ได้มีนายธีรัตน์ ภูมิลำเนา อยู่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ นายเปาซี ภูมิลำเนา อ.ยะหา จ.ยะลา ได้นำกระเป๋าเดินทางรวม 2 ใบ ไปโหลดที่บริเวณจุดตรวจสัมภาระภายในท่าอากาศยานเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จุดตรวจได้ตรวจเอกซเรย์พบสิ่งของวัตถุต้องสงสัย จึงจะทำการเปิดกระเป๋าเพื่อตรวจสอบ ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนีออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตรวจพบยาบ้า รวมจำนวน 300,000 เม็ด โดยซุกซ่อนในกระเป๋าใบแรก จำนวน 100,000 เม็ด และกระเป๋าใบที่ 2 จำนวน 200,000 เม็ด จึงได้ร่วมกันทำการตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ต่อมาได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลออกหมายจับนายธีรัตน์ ภูมิลำเนา อยู่ อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส และ นายเปาซี ภูมิลำเนา อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาทั้งสอง ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2567 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยเกี่ยวข้อง ได้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่ด่านตรวจความมั่นคงบ้านพละ อ.ประทิว จ.ชุมพร ขณะโดยสารรถกลับพื้นที่ภาคใต้ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 2 เมื่อประมาณปลายเดือน ก.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.ภ.จว. เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า
กลุ่มลำเลียงยาเสพติดได้ดัดแปลงพื้นกระบะรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง – จ.สุพรรณบุรี / จ.นครปฐม โดยมีรถยนต์นำ สำรวจเส้นทางร่วมกันลำเลียงยาเสพติด จึงได้ทำการสืบสวนและประสานการปฏิบัติกับ ชปส.ภ.จว.เชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสืบสวนติดตามจับกุม

ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ก.ค.67 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชปส.ภ.จว.เชียงราย และกก.สส.ภ.จว. เชียงใหม่ ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถยนต์ของขบวนการลำเลียงยาเสพติด อยู่ภายในโรงแรม ข้างถนนพหลโยธิน ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จึงสะกดรอยติดตาม

ต่อมาเวลาประมาณ 09.20 น.ของวันเดียวกัน รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ได้ออกจากโรงแรมฯ มุ่งหน้าไปตามถนนบายพาสสนามบินเชียงราย ไปพบกับรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง สีฟ้า ที่บริเวณที่จอดรออยู่บริเวณถนนบายพาส และทั้งสองคันได้ขับตามกันไป มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และหลุดการติดตาม จึงวางกำลังรายทางเพื่อสังเกตุการณ์

ต่อมาเวลาประมาณ 13.40 น. ของวันเดียวกัน พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาวขับนำรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง
มาจากทางเส้นทาง อ.เชียงแสน จว.เชียงราย มุ่งหน้า มา อ.เมืองเชียงราย ระยะห่างประมาณ 1 – 2 กม. จึงสะกดรอยติดตาม และตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณด่านตรวจจำบอน ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย เพื่อทำการตรวจสอบรถยนต์ทั้งสองคัน

ต่อมา รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ขับมาใกล้จะถึงด่านตรวจจำบอน ได้จอดบริเวณไหล่ทางพบคนขับรถกระบะ ใช้โทรศัพท์อยู่ภายในรถฯ ส่วนรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง ขับเข้าไปจอดหน้าห้องพัก A11 ในโรงแรม พื้นที่บ้านป่าแหย่ง ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมรถยนต์ทั้งสองคันไว้ รถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลางพบนายณัฐวัฒน์ ภูมิลำเนา อ.สามง่าม จ.พิจิตร และ น.ส.ธุรดา ภูมิลำเนา อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ อยู่บริเวณรถ ตรวจค้นพบ ไอซ์ จำนวน 150 กก. ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับใต้พื้นกระบะรถ ซึ่งดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด ส่วนรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว พบนายสุภชัย ภูมิลำเนา อ.วังชิ้น จ.แพร่ เป็นคนขับ รับว่าร่วมกันลำเลียงยาเสพติด ทำหน้าที่นำทางดูการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามพร้อมของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมาย

สืบสวนขยายผลพบว่ากลุ่มผู้ต้องหารับจ้างลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อกลางเดือน ก.ค.2567 จากพื้นที่
จ.เชียงราย ไปส่งยังพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยมีผู้สั่งการ จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายมาดำนเนินคดีตามกฎหมาย.

ชุดสืบสวนเมืองเชียงใหม่ ติดตามตัวโชเฟอร์สี่ล้อแดง เปรียบเทียบปรับ 2 ข้อหา

ชุดสืบสวนเมืองเชียงใหม่ ติดตามตัวโชเฟอร์สี่ล้อแดง เปรียบเทียบปรับ 2 ข้อหา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ วันที่ 31 ก.ค. 67 ตามที่ปรากฎในโซเชียลมีเดียมีประชาชนโพสข้อความผ่าน facebook “โชวถ่อยไม่เคยแผ่ว รถแดงเชียงใหม่แพ้เสียงแตร จอดส่งลูกค้ากลางถนน รถคันหลังบีบแตรใส่ ถือไม้ลงมา ผมนิยกนิ้วให้เลยครับ “ ซึ่งเป็นประเด็นที่ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ความสนใจอยู่นั้น พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้มีข้อสั่งการให้ พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้เร่งรัด สืบสวนติดตามผู้ขับรถ สี่ล้อแดง ตามที่ปรากฎตามคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียล ดังกล่าว เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเป็นที่เสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยการนำของ พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.สถิตชัย นิตยวัน
รอง ผกก.สส.ฯ,พ.ต.ต.พูนศักดิ์ พักย์ผ่องศรี สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.วุฒิไกร ทาหอม สว.สส.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเหยี่ยวดำ ได้สืบสวนติดตามบุคคลดังกล่าว จนทราบชื่อว่า นาย โอภาส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ผู้ขับรถยนต์สาธารณะ (รถแดง) ตามคลิปที่ปรากฎ จึงได้เชิญตัวทำการการสอบสวนที่ สภ.เมืองเชียงใหม่

นายโอภาสฯ ให้การว่า ขณะที่ตนขับขี่รถแดงคันดังกล่าวมาตามถนนสิงหราชตามปกติ แต่เมื่อมาถึงบริเวณแยกวิทยาลัยเทคนิค จุดหมายที่จะต้องจอดส่งลูกค้า เพื่อลงรถ จากนั้นได้มีรถขับตามหลังมา และได้บีบแตรใส่ตน ได้ด่าทอว่าตนก่อน ตนจึงได้ด่ากลับ และจอดรถและนำไม้ที่อยู่ด้านหลังรถลงมาข่มขู่ และจึงได้เกิดการโต้เถียงกันไปมา ตามที่ปรากฎในคลิป แต่มิได้มีการทำร้ายร่างกาย หรือทรัพย์สินผู้อื่นแต่อย่างใด

จากนั้นจึงได้นำตัว นายโอภาสฯ
ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยได้แจ้งข้อหา จำนวน 2 ข้อหา ตาม พรบ.จราจรทางบก 2522 ข้อหาจอดรถกีดขวางทางจราจร ม.58(8),148
ปรับ 500 บาท และตาม ป.อาญา มาตรา 392 ข้อหา ข่มขืนใจผู้อื่นให้ตกใจกลัว ปรับ 1,000 บาท

นายโอภาส ปิ่นใหญ่ ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยอมรับว่า ตนใช้อารมณ์มากเกินไป ฝากขอโทษถึงคู่กรณีในคลิป และชาวจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ภาพลักษณ์ของสี่ล้อแดงเอกลักษณ์ของจังหวัด เชียงใหม่เสียหาย แต่ทั้งนี้ตนก็ไม่มีเจตนาทำร้าย หรือทำให้ทรัพย์สินใครเสียหายแต่อย่างใด ขอให้อภัยตน ซึ่งตนจะจำไว้เป็นบทเรียนและจะไม่ก่อให้เกิดเหตุแบบนี้อีกต่อไป.

พิธีต้อนรับ สัญญาบัตร พัดยศ “พระวิสุทธิวัชราภรณ์”

พิธีต้อนรับ สัญญาบัตร พัดยศ “พระวิสุทธิวัชราภรณ์”

วันอังคาร ที่ 30 กรกฎาคม 2567 พระเดชพระคุณ พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร เมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระเทพปริยัติ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง พระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน พระอารามหลวง พระเทพสิงหวราจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร พระเทพวชิรธีรคุณ เลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ รองเจ้าคณะภาค 7 วัดปากน้ำ คณะสงฆ์อำเภอแม่ริม โดยมีนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน พุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีต้อนรับ สัญญาบัตร พัดยศ พระราชาคณะที่ได้รับโปรดพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ และแสดงมุทิตาสักการะ พระวิสุทธิวัชราภรณ์ รองเจ้าคณะอำเภอแม่ริม เจ้าอาวาสวัดลัฏฐิวัน (พระนอนขอนตาลศักดิ์สิทธิ์) ณ วัดลัฏฐิวัน (พระนอนขอนตาลศักดิ์สิทธิ์) ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่.

ที่พักสงฆ์นานาชาติเชียงใหม่ (iMONASTERY) สามีจิกรรมสูมาคารวะแด่“พระเทพมังคลาจารย์”

ที่พักสงฆ์นานาชาติเชียงใหม่ (iMONASTERY) สามีจิกรรมสูมาคารวะแด่“พระเทพมังคลาจารย์”

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 พระณรงค์ชัย ฐานชโย,ดร. ประธานที่พักสงฆ์นานาชาติเชียงใหม่ (iMONASTERY) ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ นำคณะสงฆ์เข้ากราบถวายสามีจิกรรมสูมาคารวะ พระมหาเถระแด่ พระเดชพระคุณพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องในประเพณีวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นประเณีที่ทำกันมาเป็นประจำทุกปี ณ วัดเชตวัน ถนนท่าแพ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม จังหวัดเชียงใหม่.

พิธีต้อนรับสัญญาบัตร พัดยศ พระราชาคณะ

พิธีต้อนรับสัญญาบัตร พัดยศ พระราชาคณะ

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.00 น. พระเดชพระคุณ พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร เมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พระธรรมเสนาดี รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร พระเทพปริยัติ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง พระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน พระอารามหลวง พระเทพสิงหวราจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ในพิธีต้อนรับสัญญาบัตร พัดยศ พระราชาคณะที่ได้รับโปรดพระราชทานเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์ จำนวน 3 รูป ประกอบด้วย 1.พระเทพวชิรธีรคุณ เลขานุการผู้บฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ รองเจ้าคณะภาค 7 วัดปากน้ำ 2.พระมงคลวชิรานันท์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดน้ำบ่อหลวง 3.พระวิสุทธิวัชราภรณ์ รองเจ้าคณะอำเภอแม่ริม วัดลัฏฐิวัน โดยมีนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาสอ่านพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ณ วิหารหลวงวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

หัวหน้าสำนักสงฆ์มี่งมงคลสันทราย ดอนจั่น มอบโลงศพ ให้กู้ภัยหยาดฟ้า

หัวหน้าสำนักสงฆ์มี่งมงคลสันทราย ดอนจั่น มอบโลงศพ ให้กู้ภัยหยาดฟ้า

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2567 พระปลัดมนตรี ติสฺสโร หัวหน้าสำนักสงฆ์มี่งมงคลสันทราย ดอนจั่น อำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้มอบโลงศพ ให้กู้ภัยหยาดฟ้า เพื่อนำไปบรรจุศพ นางสาว ละออ คำปล้อง ผู้ถึงแก่กรรมโรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ สวนดอก เพื่อนำส่ง หมู่ที่ 9 ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี.

พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระมหาเจดีย์ และพิธีถวายน้ำสรงพระราชทาน

พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระมหาเจดีย์ และพิธีถวายน้ำสรงพระราชทาน

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร เชียงใหม่ โดยพระเทพสิงหวราจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาส จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระมหาธาตุเจดีย์ประจำปีนักษัตรปีมะโรง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2567 พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 10 รูป มีพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชิญน้ำสรงบรรจุในหงส์เงินไปสรงน้ำพระมหาธาตุเจีย์วัดพระสิงห์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ประธานในพิธีถวายผ้าไตรแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป และถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ประธานสงฆ์ถวายอดิเรก โดยมีส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วมพิธีกันอย่างพร้อมเพรียง จากนั้น ช่างฟ้อนจากกองทุนดารารัศมีรำฤก กว่า 500 คน ได้ร่วมฟ้อนเล็บเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567.

พิธีสรงน้ำพระมหาธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์

พิธีสรงน้ำพระมหาธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.อภิรมย์ สีดาคำ ผู้ช่วยอธิการบดี มจร วิทยาเขตเชียงใหม่ ได้คำคณะผู้บิรหาร คณาจารย์ บุคลากร เข้าร่วมพิธีสรงน้ำพระมหาธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วมพิธีกันอย่างพร้อมเพรียง ณ วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

โครงการธรรมรสธรรมรัฐสัญจร

โครงการธรรมรสธรรมรัฐสัญจร

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 พระครูวิบูลศรีราภินัน เจ้าอาวาสวัดแม่คาว เป็นประธานหน่วยอบรมประจำตำบล จัดโครงการ “ธรรมรสธรรมรัฐ” เทศในช่วงฤดูกาลเข้าพรรษา มีพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ เจ้าคณะตำบลป่าแดด เจ้าอาวาสวัดวังสิงห์คำ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นองค์เทศน์ โดยมีคณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ณ วัดแม่คาว ตำบลสันพระเนตร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่.

โรงเรียนบ้านห้วยตอง จัดกิจกรรมวันสุนทรภู่และวันภาษาไทย

โรงเรียนบ้านห้วยตอง จัดกิจกรรมวันสุนทรภู่และวันภาษาไทย

วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 นายชนพัฒน์ ใจมั่น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยตอง เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันสุนทรภู่และวันภาษาไทย ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งจัดโดยกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนเห็นคุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมไทย รวมทั้งให้นักเรียนได้ร่วมระลึกถึง สุนทรภู่ กวีเอกของไทยและของโลก นอกจากนั้นยังให้นักเรียนได้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย และร่วมใจกันใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเพื่ออนุรักษ์ภาษาไทยให้เป็นเอกลักษณ์อยู่คู่ชาติไทย ณ โรงเรียนบ้านห้วยตอง ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่.